เปิดใจหยอง ลูกหยี-แตงโมร่วมค้านนิรโทษ

ภาพจาก คมชัดลึกภาพจาก คมชัดลึก


ฮือฮาไม่น้อย เมื่อตลกชื่อดัง "หยอง ลูกหยี" ปรากฏกายบนเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
 
การแสดงจุดยืนทางการเมืองครั้งนี้ "หยอง ลูกหยี" เปิดใจต่อ "คม ชัด ลึก" ว่า เคลื่อนไหวในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ที่ต้องการแสดงพลังกำหนดทิศทางของประเทศไทย โดยการตัดสินใจทั้งหมดได้ปรึกษาผู้ใหญ่ที่เคารพแล้ว
 
"เป็นการแสดงความคิดของตลกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นประชาชนคนหนึ่งที่อยากจะมีส่วนร่วมกำหนดทิศทางให้แก่ประเทศไทยบ้าง ครั้งนี้ผมสุดทนจริงๆ เลยต้องขอโทษเจ้านาย พี่ๆ น้องๆ อาจจะอยู่ทั้งสองฝ่าย ผมตัดสินใจครั้งนี้ ผมปรึกษาพี่ๆ หลายคน และทุกคนก็สนับสนุน บอกให้ทำหน้าที่ประชาชนจริงๆ ผมอยากจะพูดมานานแล้ว ไม่มีใครมาจ้างผม และผมก็ไม่ได้หวังผลอะไร ผมไปด้วยจิตสำนึก เพราะทนกับการจาบจ้วงไม่ไหว ใครจะดีจะเลวผมไม่รู้ แต่อย่าจาบจ้วงเท่านั้น"
 
ส่วนความสนใจเล่นการเมืองนั้น ต้องบอกว่า เรียนจบปริญญาตรี ด้านการเมืองการปกครองแล้ว ถ้าครั้งนี้จะทำให้มาถูกที่ถูกเวลา ถือเป็นผลพลอยได้ เพราะสนใจเหมือนกัน แต่ถ้าจะเล่นจริงๆ ต้องดูว่าเข้าไปแล้วจะทำประโยชน์อะไรให้ประเทศชาติบ้านเมืองได้มากน้อยแค่ไหน
 
หลังจากขึ้นเวทีต้านนิรโทษสุดซอย มีผู้จัดบางคนมาเตือนว่า อย่าไปยุ่ง ถ้าไม่เชื่อจะตัดออกจากงานละคร จึงตอบไปว่า ถ้าจะตัด หรือถอดออกจากงาน ก็ไม่เป็นไร ครั้งนี้ไม่ถอยแน่ ในเฟซบุ๊กมีคนมาให้กำลังใจมากมาย ถือว่าได้ทำหน้าที่ประชาชนคนหนึ่ง และยินดีที่จะทำ
 
ถนนสายนี้เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่นักแสดงสาวชื่อดังวิก 7 สี "แตงโม" ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ได้แสดงตัวตนและความคิดเห็นทางการเมือง
 
นางเอกสาวย้ำจุดยืนว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ ไม่เหมาะสม

 
"เราไม่ใช่เป็นคนที่ใจร้ายใจดำ ไม่รู้จักให้อภัย แต่ควรเป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบ ว่าการจะให้นิรโทษกรรม โทษนั้นหนักหรือเบา อะไร ยังไง ถ้าจะมายกโทษง่ายๆ อย่างนี้ ต่อไปพ่อแม่จะทำโทษลูกได้ยังไง ลูกจะรู้ได้ยังไงว่าอะไรคือถูก อะไรคือผิด พ่อของโมท่านจะปลูกฝังโมมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ ว่า ให้โมรักพระมหากษัตริย์ ให้โมรักประเทศไทย ให้โมเป็นคนที่มีเหตุ มีผล และท่านเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ 14 ตุลา ท่านจะปลูกฝังมาโดยตลอดว่า ถ้าทำอะไรเพื่อพ่อได้ อย่ารีรอ"
 
"แตงโม" บอกด้วยว่า ที่ผ่านมามีโครงการทำดี ทำเลย เพื่อช่วยเหลือชุมชน หรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรที่พอจะช่วยเหลือเพื่อผู้ที่มีโอกาสน้อยกว่าได้ ครั้งนี้รู้สึกภูมิใจมากที่มีโอกาสได้ออกมาพูด ได้ให้กำลังใจคนที่รักประเทศชาติและแผ่นดิน ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ขึ้นมาให้กำลังใจพวกเขา เห็นหลายคนที่เหนื่อย แต่พอเราได้ออกมาพูด เหมือนทำให้พวกเขามีกำลังใจมากขึ้น ถือเป็นการช่วยให้คนที่ยังไม่ได้มีโอกาสได้ออกมาครั้งนี้ เริ่มที่จะออกมากันมากขึ้น
 
ส่วนเรื่องผลกระทบที่จะตามมานั้น ได้ทำใจไว้แล้วว่าจะต้องมีทั้งกระแสในด้านดี และไม่ดีตามมา แต่ปรากฏว่ามีแต่กระแสที่ดีมากเข้ามา เชื่อว่าเวทีแห่งนี้เป็นเวทีของประชาชน อาจเป็นเพราะเราพูดด้วยจิตสำนึกที่รักประเทศจริงๆ ทำให้มีแต่สิ่งดีๆ ตามมา ทั้งนี้รู้ว่าเป็นดาราไม่ควรพูด หรือยุ่งเกี่ยวอะไรที่ดูเป็นการเมือง แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่
 
 "พ่อโมยังบอกว่า ภูมิใจในตัวโมมาก ไม่เคยภูมิใจเท่านี้มาก่อน เราแอบคิดเล่นๆ ว่า ที่ผ่านมาไม่เคยทำให้ท่านภูมิใจเลยเหรอ อาจด้วยอุดมการณ์ที่แรงกล้าของท่าน โมเลยภูมิใจมาก ภูมิใจที่สุดในชีวิต จะบอกว่าโมตัดสินใจ และเตรียมตัวไม่นาน มีเวลาประมาณ 10 นาที พอมีคนเชียร์ให้ขึ้นเวที ขึ้นเลยแบบไม่มีสคริปต์ แต่แค่พิมพ์หัวข้อเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือว่าอยากจะพูดอะไรบ้าง ส่วนเรื่องประโยคยอดฮิตในตอนนี้ หลายคนบอกว่าชอบมาก เราเองรู้สึกดีใจ พูดด้วยจิตสำนึกล้วนๆ รู้สึกดีใจที่ช่วยให้คนที่ไม่กล้าแสดงตัว ช่วยให้คนกล้าออกมามากขึ้น"
 
"โมรู้สึกขอบคุณทุกคนที่เข้ามาบอกว่า ยกให้โมเป็นไอดอล ไม่รู้ว่าจะขอบคุณยังไง แต่อยากบอกว่า โมก็ไม่ใช่คนดีอะไร แค่เป็นคนที่รักชาติ รักในหลวง" "แตงโม" ภัทรธิดา กล่าวในตอนท้าย

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์