เปิดใจสาวใจเด็ดบุกไล่ปู

เปิดใจสาวใจเด็ดบุกไล่นายกฯ 'ลั่นแม้เจอขู่แต่สู้ไม่ถอย' : รายงาน

การเดินทางมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะในวันอังคารที่ 24 ธันวาคม กลายเป็นประเด็นที่คนพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง เมื่อมีหญิงสาวใจเด็ดเมืองเพชรบูรณ์บุกประชิดตัวเป่านกหวีดไล่ก่อนเปิดฉากปะคารมกับนายกรัฐมนตรีหญิงของไทยต่อหน้าประชาชนจำนวนมาก

ทั้งนี้ในวันเวลาดังกล่าวคณะของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมคณะแวะที่จุดขายสินค้าที่ระลึก บริเวณจุดชมวิวเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ 

เพื่อถือโอกาสทักทายประชาชน และนักท่องเที่ยว แต่ระหว่างนั้น น.ส.พัทธนันท์ หลีล้วน อายุ 26 ปี หญิงสาวชาวกรุงเทพมหานครขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาเป่านกหวีดใส่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก่อนจะกล่าวต่อว่าในลักษณะตั้งคำถามกับผู้นำประเทศอย่างถึงพริกถึงขิง ท่ามกลางความตกตะลึงของเจ้าหน้าที่ชุดอารักขานายกรัฐมนตรี


เปิดใจสาวใจเด็ดบุกไล่ปู

ภายหลังการปะทะคารมระหว่าง น.ส.พัทธนันท์ และนายกรัฐมนตรี ทำให้ชื่อของ น.ส.พัทธนันท์ กลายเป็นที่สนใจของคนทั้งประเทศขึ้นมาทันที ทั้งนี้ "คม ชัด ลึก" ได้ติดตามขอสัมภาษณ์เพื่อเจาะลึกถึงความเป็นไปของสาวใจกล้าคนนี้  
 
น.ส.พัทธนันท์ กล่าวว่า พื้นฐานเดิมศึกษา และทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วนตัวให้ความสนใจติดตามสถานการณ์การเมืองโดยตลอด

นับตั้งแต่เป็นนักศึกษาฝึกงานที่รัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งในปี 2548 สมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำให้ทราบถึงเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และมีความเชื่อว่าหากรัฐวิสาหกิจถูกขายให้แก่เอกชน ประชาชนคือผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด จึงเป็นจุดเริ่มต้นทำให้สนใจปัญหาบ้านเมือง

อย่างไรก็ตามหลังจากทำงานมาหลายปี จึงลาออกจากงานประจำที่กรุงเทพฯ เพื่อมาเปิดร้านขายกาแฟสดกับเพื่อนที่จุดชมวิวเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
 
แต่ยังติดตามสถานการณ์การชุมนุมที่กรุงเทพฯ เมื่อทราบถึงการลงพื้นที่ตรวจราชการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า จะเดินทางมาที่ อ.เขาค้อ จึงเตรียมปลอกแขนสีธงชาติไทย และนกหวีด เพื่อที่จะไปต้อนรับนายกรัฐมนตรี"

 “รอนายกฯ ตั้งแต่วันจันทร์แล้วถึงวันอังคาร ก็มารอตั้งแต่ 06.00 น. ระหว่างนั้นมีตำรวจมาคอยตั้งด่านตรวจอยู่เป็นระยะ เมื่อถึงช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีเดินทางมาไม่ได้คาดคิดว่าจะได้เจอในระยะประชิดตัว เพราะเชื่อว่านายกรัฐมนตรี น่าจะโดยสารรถเข้าไปที่พัก แต่ปรากฏว่านายกรัฐมนตรีเดินนำคณะเดินมาที่จุดขายของที่ระลึก จึงขับรถมอเตอร์ไซค์ออกไป เวลานั้นมีเพื่อนเข้ามาห้ามว่าอย่าไป แต่ไม่สามารถห้ามปรามได้" น.ส.พัทธนันท์  กล่าว

น.ส.พัทธนันท์ กล่าวต่อว่า แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางการอารักขาของเจ้าหน้าที่

แต่พยายามเดินฝ่าเข้าไปใกล้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จากนั้นได้ตะโกนถามว่า “จะจับไหมคะ หนูมีอาวุธคือนกหวีดอย่างเดียว” ขณะนั้นเองชุดรักษาความปลอดภัยเข้ามากันออกไป จึงจอดรถจักรยานยนต์และเข้าไปพูดคุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทันที

“ถามนายกฯ ไป 3 ครั้งว่า จะกลับกรุงเทพฯ เมื่อไร ช่วงนั้นคุณปูนิ่งไม่ตอบ จึงถามไปว่าเอาภาษีของประชาชนมาเที่ยวทำไม เพราะการเดินทางของนายกรัฐมนตรีแต่ละครั้ง มีเจ้าหน้าที่จำนวนมากที่มาคอยรับ ต้องปิดเส้นทางการเดินทาง สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน เมื่อคุณปูขอจับมือบอกเขาไปว่า ไม่ต้องการจับด้วยค่ะ เป็นความรู้สึกจริงๆ ว่าไม่อยากจับมือด้วย ถามว่ากลัวไหมนาทีนั้นไม่ได้คิด อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด" น.ส.พัทธนันท์

 น.ส.พัทธนันท์กล่าวอีกว่า หลังจากการเผชิญหน้ากับนายกรัฐมนตรีนาน 5 นาที ทำให้ชีวิตหลังจากนั้นเปลี่ยนไปทันที เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือ มีเจ้าหน้าที่บางรายเข้ามาพูดจาข่มขู่ และในคืนวันเดียวกันมีชายฉกรรจ์มาป้วนเปี้ยนบริเวณหน้าบ้าน จากนั้นในเช้าวันรุ่งขึ้นมีชายฉกรรจ์มาหาที่ร้านและด่าทอ

  "ดิฉันอยากจะบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นการแสดงออกของประชาชน ที่มีสิทธิตามกฎหมาย เพราะการเข้าไปพูดคุยนั้นไม่มีถ้อยคำวาจาที่หยาบคายเป็นเพียงคำถามของประชาชนที่ต้องการถามนายกรัฐมนตรีเท่านั้น และไม่ได้แสดงกิริยาท่าทางประสงค์ร้ายแต่อย่างใด เรื่องผลกระทบนั้นมีแน่นอน เพราะตอนนี้ไม่มีคนเข้าร้าน คนแถวนี้ไม่มาคุยด้วย เมื่อเราตัดสินใจทำแล้วก็คงไม่ถอยหลัง อะไรจะเกิดก็ให้เกิด ถ้าจะเป็นอะไรก็ให้รู้กัน” น.ส. พัทธนันท์กล่าวทิ้งทายด้วยสายตาอันเด็ดเดี่ยว

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์