เปิดโปงแผนอุบาทว์ทำลายบินไทย-ยกเว้นภาษีแอร์เอเซีย 8 ปี

เปิดโปงแผนอุบาทว์ทำลายบินไทย-ยกเว้นภาษีแอร์เอเซีย 8 ปี

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤษภาคม 2549 01:55 น.

อดีตเสธ.ทอ.ซ้ำความไม่ชอบมาพากลซื้อซู 30 ฟาดค่านายหน้ากว่า 15,000 ล้านบาท ขณะที่ประธานสหภาพแรงงานการบินไทยเปิดโปงแผนการทำลายสายการบินแห่งชาติด้วยการส่งเสริมให้ "แอร์เอซีย"เข้ามาผูกขาดการบิน แฉรัฐบาลให้สิทธิ์ส่งเสริมการลงทุนยกเว้นภาษีถึง 8 ปี ขณะเดียวกันยังลดค่าเช่าสนามบินถึง 50 เปอร์เซ็นต์ โดยมี "ทนง" เป็นตัวการสำคัญ

วันนี้(20 พ.ค.) เมื่อเวลา 20 .00 น. นายเจิมศักดิ ปิ่นทอง รักษาการส.ว.กทม.ได้จัดรายการช่วงรู้ทันทักษิณในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์คอนเลิร์ตการเมืองที่ลวนลุมพินิธี โดยเชิญ พล.อ.อ.เทอดศักด์ สัจจารักษ์ อดีตเสนาธิการทหารอากาศ และ นายสมศักดิ์ ศรีนวล ประธานสหภาพแรงงานบริษัทการบินไทยจำกัด(มหาชน) มาร่วมรายการ

นายเจิมศักดิ์ถามเกริ่นนำเรื่องท่าทีของผู้บัญชาการเหล่าทัพที่เรียกร้องทำตามพระราชดำรัสและให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ทั้ง 3 คนลาออกตามข้อเรียกร้องของที่ประชุมประมุขทั้ง 3 ศาล โดย พล.อ.เทอดศักดิ์ กล่าวว่า เห็นด้วยอย่างยิ่ง และสมควรทำตั้งนานแล้ว และว่าที่ผ่านมาเคยมาพูดเรื่องการซื้อเครื่องบินแอร์ฟอร์ชวันก่อนที่จะมีการจัดซื้อเครื่องบินพระราชพาหนะ ซึ่งต่อมาพี่น้องนายทหารต่างมีความเห็นด้วยและยืนยันว่าจะอยู่เคียงข้างประชาชน

ถามว่าการที่ผู้บัญชาการทหารบกเตือน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกฯและนายทหารรุ่น 10 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นห้ามนำทหารมายุ่งการเมือง พล.อ.อ.เทอดศักดิ์ กล่าวว่า เป็นการเตือนอย่างตรงไปตรงมาเป็นการสนับสนุนผลประโยชน์ของชาติและประชาชน ซึ่งสมควรพูดและควรพูดมานานแล้ว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นการที่ กกต.ไม่ยอมลาออกตามเสียงเรียกร้องของ 3 ศาลเป็นการชี้ให้เห็นว่าไม่เคารพระราชอำนาจ และกกต.ควรออกไปตั้งนานแล้ว ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็สมควรลาออกไปด้วย เพราะไม่เคยตอบคำถามประชาชน

ถามว่ามีการสร้างกระแสว่าชาติจะล่มจมถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่กลับมาบริหารประเทศ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ทุกอย่างมีกระบวนการจัดการไปตามปกติอยู่แล้ว ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อยู่แล้วยาเสพติดระบาด แสดงมีการสั่งให้ขายได้หรือขายไม่ได้หรือไม่

พล.อ.อ.เทอดศักดิ์กล่าวว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะตำรวจซึ่งรับผิดชอบโดยตรงก็จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว

จากนั้นมีการพูดถึงเรื่องการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่มาแทนเครื่องบินขับไล่เอฟ 5 อี ซึ่งจะปลดระวาง โดย พล.อ.อ.เทอดศักดิ์ กล่าวว่า เดิมมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาคุณสมบัติแล้วได้ข้อสรุปว่ามีการพิจารณาเครื่องบิน 3 ประเภทคือ เอฟ 16 ของสหรัฐ เครื่องบินกริฟเฟนของสวีเดน และเครื่องบินซู30 ของรัฐเซีย ซึ่งผลการพิจารณาถือว่าเครื่องบินซู30 มีคุณสมบัติมารั้งท้ายที่สุดและมีคะแนนห่างกันกับเครื่องบินจากสองชนิดแรก อย่างไรก็ตามมีความพยายามสั่งการจากรัฐบาลว่าต้องการซื้อเครื่องบินซูจากรัฐเซียให้ได้ ซึ่งในขณะนั้นมี พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ

ส่วนเรื่องได้ค่านายหน้าหรือไม่นั้น พล.อ.อ.เทอดศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่ถ้าพิจารณาจากองค์ประกอบรอบด้านแล้วก็น่าเชื่อได้ โดยเฉพาะการที่งบประมาณในการจัดซื้อซึ่งตั้งไว้ 35,000 ล้านบาท แต่จากการรายงานของหนังสือพิมมอสโคว์ไทม์ของรัสเซียรายงานว่ากองทัพอากาศไทยได้ตกลงซื้อเครื่องบินซู30 จำนวน 12 ลำด้วยวงเงินงบประมาณ 2 หมื่นล้านบาท มีส่วนต่างกันถึง 1 หมื่น 5 พันล้านบาท ซึ่งเข้ากระเป๋าใครไม่รู้ หรือภริยาของผู้มีอำนาจบางคนหรือเปล่าไม่รู้

นายเจิมศักดิ์ ถามว่า ยุคคุณทักษิณนี้การบินไทยมีปัญหาเรื่องซื้อเครื่องบินไหม

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มีปัญหามากและมีมาตลอด แต่ส่วนใหญ่เหล่านี้เป็นเรื่องอุบาทว์ที่สุด การบินไทยมีแผนจัดซื้อเครื่องบินระยะยาว เดิมจะซื้อเครื่อง 747 มือสองจากสหรัฐ แต่เมื่อไปดูจริงๆ บริษัทที่ล้มไปมีปัญหาไฟแนนซ์ และเวอร์ชั่นของเครื่องบินถึงแม้จะแบบเดียวแต่มันไม่เหมือนกัน

การถือหุ้นเดิมทีระเบียบของบริษัทการบินไทย การจะจัดซื้อจัดจ้างวงเงินที่เกินกว่าครึ่งหนึ่งของทุนจดทะเบียนต้องได้รับอนุมัติในที่ประชุมผู้ถือหุ้น ดังนั้นเมื่อคุณทะนงมาเป็นประธานบอร์ดของการบินไทยโดยผิดกฎหมาย รวมถึงคุณโอฬาร คุณวิชิต ที่ขัดต่อบอร์ดของการบินไทย และไม่เคยแสดงตนต่อผู้ถือหุ้น แต่ผิดภายหลังจากที่บริษัทชินคอร์ปฯ ไปทำธุรกิจทางการบิน

เมื่อคุณทนงเป็นประธานต้องไปแก้บริคณธ์สนธิ ให้เป็นอำนาจของบอร์ด เลยมีอำนาจคน 15 คนไปอนุมัติอะไรก็ได้ การซื้อเครื่องบินที่เป็นปัญหาก็คือเรื่องของเครื่องบินแอร์บัส340-500 ซึ่งเป็นแบบที่สิงคโปร์แอร์ไลน์มาใช้บินระยะยาว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ การบินไทยก็ซื้อตามหลังมา 2 ตัว ขาดทุนเหมือนกัน แล้วยังไปสั่งซื้ออีก 5ลำ ทั้งที่สิงคโปร์ไปยกเลิกออร์เดอร์ที่สั่งซื้อเพิ่มอีก15 ลำ เหล่านี้ล้วนเป็นการใช้อำนาจซื้อไม่ใช่เหตุผล

ส่วนที่มีข่าวว่า มีคอมมิชชั่นถึงได้จัดซื้อมานั้น กล่าวว่า ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาจัดซื้อต้องไปผ่านนายหน้า ทั้งที่ขั้นตอนพิจารณาผ่านไปแล้วว่าจะซื้อแบบไหน ยุคนี้คือยุคของคุณวันชัย มารับกรรมจากคุณทนง ที่สร้างเวรกรรมไว้ให้การบินไทย

นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า ด้านกองทัพอากาศ คุณสนธิเคยพูดถึง ซี130 ที่น้องสาวทักษิณขนคนไปเชียงใหม่ ฟังธงได้ไหมว่าผิดหรือไม่อย่างไร

พล.อ.อ.เทอดศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องบอกว่าผิด ในฐานะที่เคยอยู่กองทัพเก่าอยากตำหนิผู้บังคับบัญชากองทัพอากาศ เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้นมา ควรจะเข้าใจว่าในกองทัพไม่ได้มีนายทหารรักคุณทักษิณหรือคนสกุลชินวัตรไปทั้งหมด เมื่อเกิดเรื่องนี้น่าจะคิดสักนิดแล้วออกมาปฏิเสธทำเหมือนว่าเรื่องนี้ถูก แต่ข้อเท็จจริงกลับถูกจับโกหกได้ ทำให้เกิดความเสี่ยหายอย่างยิ่ง ขอบอกว่าใครที่รับผิดชอบเรื่องนี้ควรจะต้องออกมาชี้แจงต่อประชาชนให้ทราบข้อเท็จจริง เมื่อผิดก็ต้องแก้ไข แล้วคนที่เหยียบเรือสองแคมต้องการเอาหน้า เวลาเกิดเรื่องแล้วไมว่ยอมรับผิด ถือว่าทำความเสื่อมเสียให้กองทัพ

พล.อ.อ.เทอดศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่เขาบอกว่าซี-130 เป็นเครื่องบินลำเลียงที่มีตารางการบิน คนที่จะขอไปด้วยตามเส้นทางการบินเดิมนั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่เนื่องจากกองทัพฯมีกองบินอยู่ต่างจังหวัดและมีครอบครัวทหารอยู่ต่างจังหวัด จึงได้จัดให้มีการบินเมล์เป็นประจำ แต่ช่วงหลังน้อยลงเนื่องด้วยงบประมาณ แต่ช่วงหลังมีการฝึกบิน กองทัพฯก็อนุโลมว่า ถ้ามีข้าราชการหรือครอบครัว มีเรื่องด่วนให้ทำเรื่องของจากกองทัพ ก็จะพาไปได้ ไม่ใช่อยู่ดีๆโทรไป1212แล้วบอกว่าจะพาขึ้นไปได้ ไม่ใช่ครับ

นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า วันนั้นเส้นทางการบิน มีเส้นทางจากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่หรือไม่

พล.อ.อ.เทอดศักดิ์ กล่าวว่า คนชี้แจงว่าอย่างนั้นแต่ตอนที่คุณสนธิ (ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ)เอามาเปิดเผย เห็นชัดว่าไม่มีบินเมล์ไปเชียงใหม่ แล้วก็มีชื่อผู้โดยสารออกมาด้วยว่าเป็นเพื่อนของเจ้าภาพ

นายเจิมศักดิ์ ถามว่า เจ้าภาพก็เป็นน้องคุณทักษิณ แล้วอย่างนี้เกิดอุบัติเหตุใครจะรับผิดชอบ

พล.อ.อ.เทอดศักดิ์ กล่าวว่า ใครที่ขอขึ้นเครื่องกองทัพอากาศ จะมีแบบฟอร์มให้เซ็นว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตุ ท่านจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายจากกองทัพฯ ยกเว้นความเสียหายของตัวเครื่อง กองทัพฯต้องรับผิดชอบ

นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องแอร์เอเชีย ที่บอกกันว่าทำให้หลายคนช้ำใจนั้น มันมาอย่างไร ผิดตรงไหน

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า แอร์เอเชียเกิดหลังรัฐบาลคุณทักษิณบริหารนโยบายประเทศไทย แล้วประกาศนโยบายเสรีทางการบิน ซึ่งจนถึงวันนี้ ประเทศไทยยังไม่ได้ประโยชน์จากเสรีดังกล่าวเลย เว้นแต่ชินคอร์ปที่ไปเปิดสายการบินแอร์เอเชียแข่งกับการบินไทย สายการบินของชาติ

เขาไปเปิดแอร์เอเชีย บริษัทเล็กๆที่มีอยู่แล้วของไทยที่อยากจะบินในประเทศ มีเพียง 5 เส้นทางบินในประเทศเท่านั้นที่บินแล้วกำไร ฉะนั้นสายการบินใดๆที่จะบินใน 5 จุดดังกล่าว จะต้องพ่วงเส้นทางบินที่ขาดทุนไปด้วยอีก 19 สาย แต่สายการบินที่มาทีหลังไม่ต้องบินใน 19 สายนั้น บินในสายการบินกำไรล้วนๆนายสมศักดิ์ กล่าว

พล.อ.อ.เทอดศักดิ์ กล่าวว่า สมัยก่อนเราเคยคิดจะทำโลว์คอร์สแอร์ไลน์ เพื่อให้มีกำไรเหมือนสายการบินในยุโรป แต่เราไม่ทำเพราะกลัวจะไปแย่งกำไรจากสายการบินของประเทศ ผมคิดว่าแนวคิดนี้คงจะรั่วไปทำให้คนที่ต้องการทำกำไรจากแนวคิดนี้รีบเปิดโลว์คอร์ส

นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า ใครบ้างที่เป็นบอร์ดในการบินไทยแล้วไปเป็นกรรมการในแอร์เอเชีย

นายสมศักดิ์ ชูรูปให้ดู พร้อมกับกล่าวว่า มีนายวิชิต สุรพงษ์ชัย นายโอฬาร ชัยประวัติ นายทนง พิทยะ ก่อนจะมาเป็นประธานกรรมการของการบินไทย ซึ่งเหล่านี้บางคนก่อนเข้ามาเป็นบอร์ดการบินไทย แจ้งเพียงว่าเป็นบอร์ดของธนาคาร แต่กลับไม่ยอมแจ้งว่าเป็นบอร์ดของชินคอร์ปด้วย

นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า วันที่ชินคอร์ปให้กับเทมาเส็กจากที่เคยถือหุ้นกันคนละ 50%กับมาเลเซีย ทำให้มีปัญหาใบอนุญาตการบินหรือไม่

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ใบอนุญาตต้องมีคนไทยไม่น้อยกว่า 51% ถือหุ้น ดังนั้นในวันที่ขายทะเบียนขาดทั้งบริษัทและเครื่องบิน แต่ยังมีการเอื้อให้บินได้อยู่ทั้งที่ต้องหยุดการบิน เนื่องจากเส้นทางการบินเส้นเดียวกับการบินไทยอยู่แล้ว ผู้โดยสารสามารถเลือกตั้ง แต่กลับเอามาอ้าง

นายเจิมศักดิ์ ถามว่า นี่ทำไมให้บินระหว่างในประเทศกันเอง ที่อื่นมีบ้างไหมแบบนี้

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิที่เขาหวงแหนกันทุกประเทศ ในโลกนี้ไม่มีใครเขาทำกัน ด้านพล.อ.อ.เทอดศักดิ์กล่าวว่า การที่เราเปิดโอกาสให้แอร์เอเชียซึ่งกลายเป็นสายการบินของต่างชาติเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ โดยต่อสัญญาให้ทั้งที่มีสิทธิจะยุติสัญญา ถือว่าเรารักคนอื่นมากกว่าคนไทย

นายเจิมศักดิ์ถามถึงกรณีที่แอร์เอเชียใช้การบินไทยเป็นที่ฝึกลูกเรือให้แอร์เอเชีย

นายสมศักดิ์ระบุว่า มีการเตรียมการดังกล่าวจริง แต่สหภาพพนักงานต่อต้านเพราะรู้แผนชั่วเสียก่อน "อาชีพตรงนี้ไม่ใช่อาชีพฉาบฉวยเพราะมันเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้โดยสาร พนักงานต้อนรับเขาไม่ได้เสิร์ฟอาหารอย่างเดียวแต่ยังดูแลความปลอดภัยผู้โดยสารด้วย ฉะนั้นคนที่ฝึกต้องมีความรู้ความสามารถและต้องหาประสบการณ์อีกหลายปี ฉะนั้นถ้าการบินไทยฝึกบุคลาการระยะจ้างปีต่อปี เมื่อไรที่แอร์เอเชียซื้อเครื่องบินมาใหม่ ลูกเรือที่รับการฝึกเหล่านั้นก็ต้องลาออกไปเป็นลูกเรือให้สายการบินเปิดใหม่ การบินไทยก็จะกลายเป็นโรงเรียนสอนคนซึ่งมีค่าใช้จ่ายมหาศาล ให้คนชุบมือเปิบใช้งานฟรีๆ"

นอกจากนี้นายสมศักดิ์ยังเปิดเผยด้วยว่า บริษัทแอร์เอเชียได้ขอยกเว้นภาษีและได้รับอนุมัติภาษีบางประการนานถึง 8 ปี โดยขอใช้สิทธิส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ ทั้งที่ธุรกิจการบินถือว่าเป็นธุรกิจบริการ ไม่ใช่อุตสาหกรรมตามที่กล่าวอ้าง และนอกจากการยกเว้นภาษีดังกล่าวนี้แอร์เอเชียยังได้รับสิทธิลดค่าเช้าสนามบินถึง 50 เปอร์เซ็นต์ด้วย

นายเจิมศักดิ์กล่าวถึงข้อมูลที่ได้รับมาว่าโครงการก่อสร้างต่างๆ ที่สนามบินสุวรรณภูมิมีการล็อกสเป็คเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้องอยู่ทุกส่วน ไม่เว้นแม้แต่การตัดเย็บเครื่องแบบใหม่ของแอร์โฮสเตส

นายสมศักดิ์ระบุว่า ห้องเสื้อพิจิตราซึ่งเป็นผู้รับออกแบบเครื่องแบบได้กำหนดสเป็คผ้าและวิธีการตัดเย็บ รวมถึงคัดเลือกบริษัที่ทำงานตัดเย็บได้ตามมาตรฐานที่ต้องการไว้แล้ว แต่บริษัทดังกล่าวกลับได้ตัดเย็บเพียง 200-300 ชุด ส่วนอีกหลายหมื่นชุดกลายเป็นผลงานของบริษัทอื่น ทำให้ได้เครื่องแบบที่ผิดไปจากที่ออกแบบไว้ โดยผ้าที่ใช้ก็ไม่ใช่แบบที่กำหนด ซึ่งเรื่องนี้พนักงานการบินไทยก็กำลังติดตามข่าวกันอยู่ หากไม่มีความชัดเจนพนักงานก็จะไม่สวมเครื่องแบบใหม่ที่ตัดเย็บไม่ได้ตามที่ออกแบบไว้อย่างสวยงาม

ส่วนเรื่องการเปลี่ยนโลโก้ที่ทำให้ต้องมีการทาสีเครื่องบินใหม่นั้น นายสมศักดิ์ระบุว่า สีที่ใช้มีราคาสูงถึงกระป๋องละ 60,000 บาท จากเดิมที่ใช้ราคากระป๋องละ 10,000 บาท ซึ่งการเลือกใช้สีราคาแพง รวมถึงการเปลี่ยนพรมภายในเครื่องบินจากสีเดียวกันหมดให้เป็นสีต่างกัน 4 สี ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณในการซ่อมบำรุงนั้น ล้วนเกิดขึ้นในสมัยของนายทนง พิทยะทั้งสิ้น

ในช่วงท้ายนายสมศักดิ์กล่าวฝากถึงประชาชนว่า การบินไทยเป็นสมบัติของชาติ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดรายได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวหรือการลงทุนล้วนต้องผ่านช่องทางนี้ หากรัฐบาลไหนๆ ไม่รักษาสมบัติชิ้นนี้ไว้ให้เป็นของคนไทย หรือหากถูกกลั่นแกล้งให้บริการไม่ดี ก็จะไม่มีใครมาเที่ยวหรือมาลงทุนที่เมืองไทยอีก ฉะนั้นสมบัติชิ้นนี้ต้องรักษาไว้ยิ่งชีวิต

ด้านพล.อ.อ.เทอดศักดิ์ฝากถึงเพื่อนทหารว่า ขณะนี้บ้านเมืองเราบอบช้ำไปมาก แม้ทหารที่เคยปฏิญาณตัวรับใช้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะพยายามทำตัวดีที่สุดแล้วก็ตาม เมื่อถึงจุดหนึ่งก็ขอร้องว่าอย่าเป็นพลังเงียบ แต่ขอให้ตัดสินใจ เพราะในขณะนี้รัฐบาลก็ยังไม่ล้มเลิกเรื่องการซื้อเครื่องบินซู 130 ซึ่งในภาวะเช่นนี้ข้าราชการทหารต่างอึดอัดและตัดสินใจลำบาก แม้จะไม่คอร์รัปชันแต่หากซื้อเครื่องบินที่บินไม่ได้ ป้องกันประเทสไม่ได้ ได้แต่ผลาญน้ำมันไปทุกวันและมีปัญหาเรื่องการซ่อมบำรุง ก็จะสร้างความเสียหายให้ประเทศชาติเป็นอย่างมาก จึงอยากฝากพี่น้องประชาชนให้เป็นกำลังใจให้กองทัพอากาศด้วย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์