เปิดอกกลัดหนอง ธาริต เพ็งดิษฐ์ โต้ข้อหาคนเปลี่ยนสี

สัมภาษณ์พิเศษ โดย ศักดา เสมอภพ

(ที่มา:มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 28 พ.ค.2555)


 

"ถ้าถามว่าท่าทีของดีเอสไอ กับท่าทีของนายธาริตเปลี่ยนไปใช่หรือไม่ คำตอบคือถูกต้อง เพราะเมื่อนโยบายเปลี่ยนฝ่ายปฏิบัติซึ่งมีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายก็ต้องเปลี่ยนไปเป็นธรรมดา"

ในยุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ที่มี "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เป็นนายกรัฐมนตรี

"ธาริต เพ็งดิษฐ์" อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถูกโจมตีอย่างหนักจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่าทำงานรับใช้รัฐบาล โดยเฉพาะในช่วงการชุมนุมของ "กลุ่มคนเสื้อแดง"

โดยรัฐบาลขณะนั้นใช้ดีเอสไอเป็นกลไกหลักในการดำเนินคดีกับ "ผู้กระทำผิด" จากเหตุการณ์การชุมนุม

เปิดอกกลัดหนอง ธาริต เพ็งดิษฐ์ โต้ข้อหาคนเปลี่ยนสี

มาในยุครัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ดีเอสไอภายใต้การนำของ "ธาริต" กลับถูกโจมตีอย่างหนักจาก ปชป. ว่าทำงานสนอง "ฝ่ายการเมือง"
 
โดยเฉพาะกรณีดำเนินการสอบสวนคดี "อีสท์ วอเตอร์" ทั้งที่ยังไม่ถูกบรรจุในคดีพิเศษ การไม่สั่งฟ้องผู้กระทำผิดตาม "ผังล้มเจ้า" และการไม่สั่งฟ้องคดี "จตุพร พรหมพันธุ์" แกนนำคนเสื้อแดง หมิ่นสถานบัน

"มติชน" จึงถือโอกาสกระชับพื้นที่ความคิดของ "ธาริต" และจากนี้บรรทัดนี้คือคำ "แก้ต่าง" หลังถูกสังคมพิพากษากล่าวหาว่าเป็นคน "เปลี่ยนสี"

- การที่ ปชป.รับเงินบริจาคของบริษัทอีสท์ วอเตอร์ แล้วส่งต่อให้สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม มีส่วนใดที่ ปชป.กระทำผิดกฎหมาย

ลองคิดดูให้ดีว่าพรรคการเมืองได้หรือไม่ การที่เกิดภาวะน้ำท่วมแล้วพรรคการเมืองประกาศเชิญชวนให้เข้ามาบริจาคเงิน ผมถามว่าสิ่งที่พรรคการเมืองได้ประโยชน์มันเป็นเงินไหม มันใช่... แต่ถามว่าเขาได้ชื่อเสียงไหม เขาได้ภาพลักษณ์ไหม เขาได้แต้มไหม ประชาชนเชื่อถือศรัทธาไหม ซึ่งเขาได้เต็มๆ อ้าว...แล้วผิดไหม

- แต่สิ่งที่ ปชป.ได้ไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง ตรงนี้เข้าเข้าข่ายความผิดหรือไม่

กฎหมายไม่ได้บอกว่าพรรคการเมืองรับทรัพย์แล้วเป็นผิด กฎหมายบอกว่าห้ามบริจาคให้พรรคการเมือง ดังนั้นแค่บริจาคก็ผิดแล้ว ที่กฎหมายห้ามเพราะไม่ต้องการให้พรรคการเมืองได้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ในรูปของทรัพย์สินหรือประโยชน์ในรูปแบบอื่น

- แสดงว่าไม่ว่า ปชป.จะได้ประโยชน์ในรูปแบบใด หากเกี่ยวข้องกับการบริจาคทรัพย์สินเงินทองถือว่ามีความผิด

ถูก (ออกเสียงในลำคอ) ถ้าคุณ (ชี้นิ้ว) ไปให้บริษัทของรัฐบาลบริจาค แต่ถ้าประชาชนทั่วไปบริจาคไม่เป็นไร

- แสดงว่าเรื่องนี้การตั้งต้นจากดีเอสไอไม่เป็นคุณกับ ปชป.แน่

(เสียงเบา) ก็ใช่ ไม่รู้ก็แล้วแต่ ผมก็ว่ากันไป

- กรณีไม่สั่งฟ้องผังล้มเจ้าและคดีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ทั้งที่ในช่วงรัฐบาลที่แล้วออกมายอมรับเองว่าทั้ง 2 คดี เข้าข่ายมีความผิด

ผมมีความคิดเบื้องต้นไม่ต่างจากนายสุเทพ (เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี) ว่ามันน่าเข้าข่ายความผิด เพราะเหตุนี้เราจึงรับมาสอบสวน ถ้าเราเห็นเบื้องต้นว่าไม่ผิดเลยเราคงไม่รับมาสอบสวน แต่เราเห็นว่ามันน่าจะเข้าข่าย แต่เมื่อสอบสวนแล้วเราเห็นว่าเขาไม่ผิด มันก็ไม่ผิด ยืนยันว่าทุกอย่างมีมาตรฐาน โดยเฉพาะผังล้มเจ้า ผมยังมีความคิดเลยว่าอาจจะเข้าข่ายมีความผิด เพราะผ่านการกลั่นกรองจากหน่วยงานด้านความมั่นคง แต่เมื่อสอบสวนไปแล้ว เราเห็นว่าคนที่ผิดมีแค่เฉพาะราย ก็แยกดำเนินคดี เราจะดำเนินคดีทั้งกระบวนการมันไม่ใช่

- ดีเอสไอพิสูจน์และคัดแยกคนไม่มีความผิดตามผังล้มเจ้าอย่างไร

วิธีพิสูจน์ความผิดของประเทศเราไม่ใช่หาพยานว่าไม่ผิดเราต้องหาพยานว่าผิดหรือไม่ ถ้าเราได้พยานว่าผิดเราก็ดำเนินคดี ถ้าไม่มีพยานจะพิสูจน์ว่าเขาผิด เราก็ต้องไม่ดำเนินคดี เพราะบ้านเราเป็นระบบกล่าวหา ซึ่งทั้งหมดไม่มีพยานยืนยันว่าเขาผิด แต่คนที่เราแยกดำเนินคดีก็อีกเรื่องหนึ่ง

- หลายปีที่ผ่านมาดีเอสไอถูกมองว่าทำงานสนองการเมือง

ผมไม่รู้สึกว่าการทำหน้าที่อธิบดีดีเอสไอเป็นแรงกดดันแต่ผมรับรู้ว่าตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอเป็นตำแหน่งที่สำคัญ ขณะนี้ดีเอสไอรับผิดชอบคดีที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งการมีความเห็นทางคดีของดีเอสไอไม่ว่าคดีใดจะมีความเห็นควรสั่งฟ้องหรือไม่ควรสั่งฟ้อง ก็จะมีทั้งคนถูกใจและไม่ถูกใจ คงไม่เรียกว่าเป็นชะตากรรมของผมหรือดีเอสไอ แต่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงก็ต้องยอมรับ และอยู่กับมันให้ได้

การทำงานของผมจึงต้องยึดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ข้าราชการพลเรือน ซึ่งกำหนดไว้แล้วว่าให้ข้าราชการพลเรือนมีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล หากไม่ปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลจะมีความผิดทางวินัย นี่เป็นกฎหมายของประเทศที่ผมต้องเคารพและปฏิบัติตาม ช่วงรัฐบาล ปชป.บริหารประเทศ ปชป.เลือกนโยบายการบังคับใช้กฎหมายแบบเด็ดขาด ซึ่งส่วนตัวผมเห็นว่าถูกต้อง เพราะความขัดแย้งขณะนั้น ถ้าไม่เด็ดขาดเกมก็ไม่จบ ก็จะเกิดการรบกันมากมาย ความสูญเสียอาจจะมากกว่าที่เห็นพันเท่า ผมในฐานะผู้นำหน่วยก็ต้องสวมบทบาททำตามนโยบายของรัฐบาล

แต่เมื่อพรรค พท.เข้ามาจัดตั้งรัฐบาล แล้วพรรค พท.เลือกนโยบายการปรองดอง ผมก็เห็นด้วยอีกเช่นกันว่านโยบายของรัฐบาลชุดนี้ถูกต้อง ผมในฐานะผู้นำองค์กรก็ต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล จะเห็นได้ว่าบริบทของรัฐบาลมันต่างกัน ซึ่งผมเห็นด้วยกับนโยบายของทั้ง 2 รัฐบาล ในสถานการณ์ที่ต่างกัน นี่คือความจริงที่ต้องยอมรับ เพราะประเทศนี้วางกติกาว่า ฝ่ายการเมืองเป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายข้าราชการประจำเป็นฝ่ายปฏิบัติ ข้าราชการประจำคือเครื่องมือของฝ่ายการเมือง เมื่อกติกาของบ้านเมืองเราและกฎหมายเป็นเช่นนี้ เราก็ต้องปฏิบัติตามนี้

- แสดงว่าเมื่อรัฐบาลเปลี่ยน นโยบายเปลี่ยน ท่าทีและการทำงานของดีเอสไอต้องเปลี่ยนตามไปด้วยใช่หรือไม่

ถ้าถามว่าท่าทีของดีเอสไอกับท่าทีของนายธาริตเปลี่ยนไปใช่หรือไม่คำตอบคือถูกต้อง เพราะเมื่อนโยบายเปลี่ยน ฝ่ายปฏิบัติซึ่งมีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายก็ต้องเปลี่ยนไปเป็นธรรมดา แต่สิ่งที่พวกเราชาวดีเอสไอต้องระมัดระวังคือการปฏิบัติตามนโยบายต้องเป็นเรื่องถูกกฎหมายด้วย ไม่ใช่ทำตามนโยบายแล้วทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ผมยืนยันว่าการสอบสวนของดีเอสไอเราทำตามมาตรฐานและทำตามพยานหลักฐาน โดยคำนึงถึงนโยบายของรัฐบาล แต่ไม่ใช่ว่าต้องการกลั่นแกล้งใครไม่ผิดให้กลายเป็นผิด หรือช่วยเหลือใครจากผิดให้กลายเป็นถูก เราไม่ทำอยู่แล้ว เพราะถ้าเราทำเราก็ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของเรา ซึ่งจะมีโทษทางอาญาที่จะต้องรับโทษ ผมระมัดระวังเรื่องนี้อยู่แล้ว

- นโยบายของรัฐบาลเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา การวางตัวเป็นกลางของดีเอสไอดูเหมือนจะเป็นเรื่องลำบากพอสมควร

มันไม่ใช่เรื่องลำบาก แต่ที่ว่าข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลาง คงไม่มีกฎหมายใดเขียนไว้ เราไปพูดกันเอง เราพูดกันเองว่าข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลาง กฎหมายเขียนว่าข้าราชการต้องทำตามนโยบายของรัฐบาล ฉะนั้นเป็นความเข้าใจที่ผิดถ้าบอกว่าข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลาง เป็นกลางเพื่ออะไรล่ะ คำพูดที่ว่าให้ข้าราชการเป็นกลาง ผมมีความเห็นว่าไม่ถูกต้อง เพราะไม่เคยมีกฎหมายใดเขียนให้ข้าราชการเป็นกลาง (เอามือทุบโต๊ะ) แต่กลับมีกฎหมายเขียนว่าให้ข้าราชการพลเรือนทำตามนโยบายรัฐบาล ฉะนั้นต้องทำความเข้าใจกันใหม่

- นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรค ปชป. ออกมาระบุว่าคุณธาริตเปลี่ยนสี ข้อเท็จจริงแล้วคุณธาริตเปลี่ยนสีหรือไม่

ผมไม่ทราบ แต่ผมยังเคารพท่านสุเทพ เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ ท่านพาประเทศผ่านในช่วงวิกฤตมาได้ ผมว่าเราต้องให้เครดิตท่าน ผมไม่เสียใจที่ท่านสุเทพแจ้งความดำเนินคดีผมที่ ป.ป.ช. ท่านก็ต้องทำของท่านอย่างนี้ บางทีถ้าผมเป็นท่าน ผมก็ต้องทำอย่างท่าน

- ยังยืนยันได้ว่าดีเอสไอไม่มีเปลี่ยนอย่างที่มีการกล่าวหา

(ตอบพลางหัวเราะในลำคอ) ผมยืนยันครับเรื่องนี้ (นิ่งคิด) ถ้าผมหรือข้าราชการดีเอสไอ ปฏิบัติหน้าที่ไปตามนโยบายรัฐบาล เมื่อรัฐบาลเปลี่ยน นโยบายเปลี่ยน ถือว่าเปลี่ยนสีไหม... ถ้าบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่ แต่ถ้าบอกว่ารัฐบาลเปลี่ยน นโยบายเปลี่ยน ดีเอสไอเปลี่ยน ต้องเปลี่ยนตามอย่างนี้คือเปลี่ยนสี ผมก็ยอมรับว่าต้องเปลี่ยนสี

- หลังจากนี้ดูเหมือนความสัมพันธ์ที่เคยดีกับพรรค ปชป.จะลดน้อยลง

ผมกับฝ่ายการเมือง ผมสัมพันธ์ด้วยกันหมด เพราะผมเป็นข้าราชการประจำ ผมต้องทำงานกับฝ่ายการเมืองทุกพรรค ฝ่ายการเมืองที่เข้ามาบังคับบัญชาผมทั้งหมด ผมเป็นลูกน้องเขา และต้องทำงานตอบสนองตามนโยบายเขา เพราะนี่คิดสิ่งที่กฎหมายกำหนด ผมก็ยืนยันได้แค่นี้

- หลังจากนี้การทำงานของดีเอสไอในยุครัฐบาล พท.ก็จะรวดเร็วทันใจมากขึ้น

(ตอบเสียงเบา) ก็อย่างที่ผมเรียน ผมก็มีเหตุผลอย่างที่บอกไปแล้ว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์