โดย นักข่าวมืออาชีพ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการรปะสานให้เกิดการเจรจาระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับนายวีระ มุกสิกพงศ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หรือกลุ่มเสื้อแดง มีการหารือก่อน 3 วันก่อนจะถึงการเจรจาจริงในวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา
หลายครั้งที่นายวีระพร้อมมานั่งหารือการในการเจรจานอกรอบก่อน แต่เมื่อนำเสนอในวงแกนนำนปช.ก็ไม่มีใครเห็นด้วยทำให้การเจรจา
การเป็นตัวประสานระหว่าง 2 ฝ่าย อาศัยความสนิทเป็นการส่วนตัวระหว่างนายกอร์ปศักดิ์กับนายวีระที่มีมายาวนานภายใต้ร่มเงาของนายประมวล สภาวสุ บิดานายกอร์ปศักดิ์ จึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างนายกอร์ปศักดิ์กับนายวีระยากที่จะลืมเลือนไม่ว่าวันนี้จะยืนคนละฝ่ายก็ตาม
ทำให้การพบนระหว่างนายกอร์ปศักดิ์กับวีระถูกเลื่อนออกมาเป็นระยะๆจนกระทั่ง นปช.ประกาศจะเคลื่อนผู้ชุมนุมมากรมทหารราบที่11 ในเช้าวันที่ 28 มีนาคม นายกรัฐมนตรีจึงประกาศอย่างแข็งกร้าวว่า จะไม่ยอมเจรจาภายใต้บรรยากกาศของการข่มคู่ คุกคามและการกดดัน
ทำให้การประสานงานของกอร์ปศักดิ์กับวีระก็เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยเงื่อนไขฝ่ายนายกอร์ปศักดิ์คือ นปช.ต้องไม่เคลื่อนคนมากองพลทหารราบที่11 นายกรัฐมนตรีก็พร้อมลงมาเจรจาด้วยตัวเอง ซึ่งนายวีระก็รับเงื่อนไขพร้อมที่เจรจาและไม่เคลื่อนผู้ชุมนุมมา
แต่หลังจากนั้น นปช.อีกกลุ่ม ที่นำโดยนายขวัญชัย ไพรพนา มาปักหลักรอ นปช.จากสะพานผ่านฟ้า ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลยื่นเงื่อนไขให้ถอนตัวออกไปจากกองพลราบที่ 11 ให้หมดจึงจะยอมเจรจา
มาถึงตรงนี้นายวีระเริ่มลังเลอาจไม่ยอมมาเจรจากับนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งนายกอร์ปศักดิ์มีความพยายามที่จะประสานอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้มีการเจรจา หากนับจากเวลาประมาณ 08.00 น.ที่นายกรัฐมนตรีประกาศท่าที่แข็งกร้าวว่า จะไม่ยอมลงมาเจรจาภายใต้บรรยกาศที่กดดันจนถึงเวลาประมาณ 10.00 น.เป็นเวลา 2 ชั่วโมงที่ตึงเครียดที่สุดของการประสานงานระหว่างนายกอร์ปศักดิ์กับนายวีระ
เมื่อนายวีระไม่ได้ให้คำตอบที่ชดเจนและได้แจ้งกับนายกอร์ปศักดิ์ว่า ให้โทรศัพท์เจรจากับนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำ นปช.อีกคนหนึ่งโดยตรงเพื่อการตัดสินใจว่า จะรับเงื่อนไขของฝ่ายรัฐบาลหรือไม่
ในที่สุดนายณัฐวุฒิรับเงื่อนไขและให้รัฐบาลกำหนดเวลาของการเจรจาและสถานที่ในการเจรจา นายกอร์ปศักดิ์ จึงเสนอเวลาเจรจา 16 .00 น ที่สถาบันพระปกเกล้า การเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์กับฝ่ายนปช.จึงเกิดขึ้น ซึ่งนายณัฐวุฒิเป็นคนตัดสินใจสุดท้ายในการรับเงื่อนไขของรัฐบาล
อย่างไรก็ตามเบื้อหลังการเจรจาต่อรองนั้นท่าทีของทั้งสองฝ่ายมีไมตรีจิตที่ดียิ่ง มีการบอกเงื่อนไขข้อจำกัดของแต่ละฝ่ายโดยเฉพาะแกนนำ นปช.บางคนส่งสัญญาณมายังฝ่ายรัฐบาลว่าไม่ต้องการเคลื่อนมวลชนส่วนใหญ่มารกมทหารราบราบที่ 11และให้ฝ่ายรัฐบาลรีบนัดหมายเวลามาโดยด่วน
เพียงแต่บนเวทีที่สะพานผ่านฟ้าก็ประกาศท่าทีแข็งกร้าว ข่มขวัญรัฐบาล ปลุกขวัญคนนปช.ให้ฮึกเหิมขีดเส้นเวลาดูตึงเครียด
ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลก็รู้ไต๋ของฝ่ายนปช. ที่ต้องการหาทางลงเช่นกัน ฝ่ายรัฐบาลจึงยอมให้นายอภิสิทธิ์ลงมาเจรจา จึงกำหนดเกมเจรจาและถ่ายถอดสดการเจรจาทางโทรทัศน์เสียเลย
ดังนั้นหากใครคิดว่านายอภิสิทธิ์นั่งเจรจาเพราะถูกแรงกดดันของ นปช.ก็โปรดเข้าใจเสียใหม่นะครับ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
