เนวินแถลงน้ำตาคลอ ขอแม้วหากมีเยื่อใยบ้างสั่งคนเสื้อแดงหยุด

"เนวิน" น้ำตาคลอ เสียงสั่นเครือแถลงข่าวเรียกร้อง"ปกป้องพระราชอัธยาศัย"

ปูดแกนนำเสื้อแดงเตรียมก่อสงคราม เผาเมือง ปฏิวัติ เพื่อคนคนเดียว เตือนประชาชน ตกเป็นเครื่องมือหรือเหยื่อของสถานการณ์สวนกลับจงรักภักดีผิดตรงไหนพร้อมออกมาปกป้องประชาธิปไตยเต็มที่ ลั่นไม่ใช่ทาสรับใช้ใคร

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 เม.ย. นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวเปิดใจกรณีถูกกลุ่มเสื้อแดงโจมตี

มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ความแตกแยกในสังคมและการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันพรุ่งนี้(8 เม.ย.) จึงต้องออกมาบอกว่า จากประสบการณ์ของตนและเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ด้วยกันในที่นี้ เคยทำงานกับแกนนำเสื้อแดงบางคน ซึ่งตอนนี้เป็นแกนนำอยู่บนเวทีทำเนียบฯ บางคนก็เรียกได้ว่าทำงานร่วมกันนานพอสมควร ตั้งแต่หลังเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยา เพื่อต่อต้านระบอบเผด็จการของคณะมนตรีความมั่นคงแห่ชาติ(คมช.) และเรียกร้องประชาธิปไตยที่สนามหลวง และในพื้นที่ต่างๆ


"สรุปมีความเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง ต้องเตือนประชาชน ระวังตกเป็นเครื่องมือหรือเหยื่อของสถานการณ์ที่ได้วางแผนไว้ในการชุมนุมพรุ่งนี้ ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่นำไปสู่ความรุนแรงอย่างที่ได้รับทราบโดยประสบการณ์ พี่น้องประชาชนที่ถูกปลุกระดมได้รับความสูญเสียมากที่สุด ประเทศไทยก็ได้รับความสูญเสียอย่างไม่สามารถประเมินค่าได้" นายเนวิน กล่าว

อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า จากการเฝ้าสังเกตการชุมนุมตลอด 12 วันที่ผ่านมา เห็นว่ามีการกล่าวถึงสงครามประชาชน การปฏิวัติประชาชน แผ่นดินจะลุกเป็นไฟ ยึดศาลากลางจังหวัด

"จนนำมาสู่สิ่งที่เราเป็นห่วงและเชื่อได้ว่า ผู้นำบางคนเตรียมการณ์บางอย่าง เพื่อก่อให้เกิดสงครามกลางเมือ ปฏิวัติ และเกิดสถานการณ์เผาบ้านเผาเมือง ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ไม่ใช่สันติวิธีอย่างแกนนำกล่าว" อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าว

นอกจากนี้ ได้เห็นประกาศเจตนารมย์แบบเอาชีวิตเข้าแลกของผู้นำบางคน ว่า ถ้าเสื้อแดงอยู่ไม่ได้ คนทั้งแผ่นดินก็อยู่ไม่ได้

หรือ หากทำไม่สำเร็จก็แพ้ ก็ต้องตายไปพร้อมกัน จึงต้องตั้งคำถามแกนนำ ว่า ถ้าชุมนุมพรุ่งนี้ไม่สำเร็จ ทำไมคนทั้งแผ่นดินต้องอยู่ไม่ได้ ซึ่งเป็นถ้อยที่แกนนำประกาศซ้ำแล้วซ้ำอีก
"จึงอยากบอกประชาชนที่เข้าร่วม ขอให้พิจารณาให้ดีว่าเป้าหมายการชุมนุมเพียงแค่ขับไล่รัฐบาลเท่านั้นหรือมีเป้าหมายไกลกว่านั้น ผมและเพื่อนๆ มีเหตุผลที่เชื่อว่าแกนนำการชุมุนมุมีเจตนามากกว่าขับไล่รัฐบาล เหตุผลที่นำมาสู่ความเชื่อนี้ คือ เหตุการณ์ 15 ม.ค.52 แกนนำชุมนุมคนหนึ่งได้ประกาศไว้ในงานเปิดสถานีโทรทัศน์ช่อง"ดี สเตชั่น" โดยประกาศจะเป็นการสร้างรัฐไทยใหม่ด้วยมือคนเสื้อแดง โดยมีดีสเตชั่นเป็นเครื่องมือขยายฐานมวลชน" นายเนวิน กล่าว



นายเนวิน กล่าวว่า ต้องตั้งคำถามว่าทำไมต้องสร้างรัฐไทยใหม่ เมื่อเรามีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระกษัตริย์เป็นประมุขอยู่แล้ว

เชื่อว่าคนไทยมีความสุข อยู่ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร แกนนำต้องตอบคำถามที่ประกาศสร้างรัฐไทยใหม่นั้น มีเจตนารมย์อย่างไร ปกครองด้วยระบอบอะไร มีสถาบันใดเป็นสถาบันหลัก แกนนำคนเสื้อแดงเหล่านี้ประกาศจับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศเป็นตัวประกัน ใน 2 วันที่ผ่านมา แกนนำรุมโจมตีตน ด่าตนบนเวที เพราะโกรธที่ตนออกมาบอกพี่น้องประชาชนชาวบุรีรัมย์ เมื่อ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา ผมเคยบอกว่าคนที่คิดล้มล้างระบบกษัตริย์ต้องข้ามศพผมไปก่อน ผมคิดว่าเจตนารมณ์นี้ในการปกป้องกษัตริย์ไม่ได้เป็นเจตนารมณ์ของผมคนเดียว เพื่อนๆที่นั่งในที่นี้และคนไทยคงไม่ได้คิดต่างจากผม  ผมตั้งคำถามแกนนำเสื้อแดงว่าผมผิดตรงไหนที่พูดแบบนี้ ถ้าจงรักภักดีทำไมต้องโกรธผมด้วย จนต้องประกาศเจอผมที่ไหนให้ยิงผมทิ้งที่นั่น การวิพากษ์วิจารณ์ผมที่ว่ายอมสละชีวิต ไปจี้ใจดำใครบางคนหรือเปล่า การที่คนไทยคนหนึ่งจะปกป้องราชบัลลังก์ด้วยชีวิต


"การชุมนุมครั้งนี้หากมีเป้าหมายแก้ปัญหาประชาชนเรื่องพืชผลการเกษตร คนว่างงาน เรียกร้องประชาธิปไตย ที่ถูกยึดอำนาจจากเผด็การและเพื่อประโยชน์คนส่วนใหญ่ผมจะร่วมด้วย แต่ผมคิดว่าการเรียกร้องครั้งนี้เพื่อประโยชน์ของคนเดียวเป็นคนที่เดือดร้อนน้อยกว่าเกษตรกร คนขับรถแท็กซี่ จึงไม่เห็นด้วยที่บ้านเมืองเราในสภาพที่ปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า ไม่เห็นด้วยกับทำเพื่อประโยชน์ของคนคนเดียว และเคยทำงานร่วมกันยอมตายถวายชีวิต แม้ผมจงรักคนนั้นมากแค่ไหน แต่ถ้าคนคนนั้นรักตัวเองมากกว่าประเทศชาติ ผมและเพื่อนๆก็ไม่เอาด้วยเพราะพวกเราไม่ใช่ทาส  ผมและเพื่อนๆจึงออกมาเรียกร้อง " อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยกล่าว

"ผมและเพื่อนๆจึงเคยทำมาก่อน แต่การชุมนุมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้กับการต่อสู้ในอดีต แตกแตกต่างกันตรงที่ว่า มวลชนที่สนามหลวงเมื่อปี 2549-2550 เป็นการทำมวลชนเพื่อประชาธิปไตยและต่อต้าน คมช.ที่ยึดอำนาจไปจากประชาชนหลัง พ.ศ. 2550 เราก็ชุมนุมต่อเนื่องไปอีกหลายครั้ง หลังจากมีการเลือกตึ้งแล้วเราก็ชุมนุมเรียกร้องรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย โดยไม่ไห้ถูกกดดันจากกฎหมู่ ปกป้องรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ การชุมนุมทั้งหมดในอดีตผมและเพื่อนๆ เชื่อว่าเป็นการทำที่ถูกต้อง เพราะเป็นไปเพื่อระบอบประชาธิปไตย แต่การชุมนุมปลุกระดมในครั้งนี้ เป็นการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตยและยืนยันว่า ผมและเพื่อนๆหากในอนาคต มีการยึดอำนาจ ล้มล้าง ประชาธิปไตยจะเห็นผมกับเพื่อนๆออกมายืนต่อสู้เพื่อขับไล่เผด็จการแบบที่ คมช.ยึดอย่างแน่อนอน " นายเนวิน กล่าว
 
 
นายเนวินยังกล่าวถึงการที่กลุ่มเพื่อนเนวิน ลงมติเลือกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  เป็นนนายกรัฐมนตรี

จนกระทั่งถูก กลุ่มส.ส.พรรคพลังประชาชนเดิม และคนเสื้อแดง โจมตีว่าทรยศนั้นว่า เมื่อครั้งที่พรรคพลังประชาชนได้รับการเลือกตั้ง ในสภาฯ ก็มีการโหวตเลือกนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์  เพราะฉะนั้น ถามว่าความไม่เป็นประชาธิปไตยของรัฐบาลนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร วันที่มีการโหวตเลือกนายอภิถิสิทธิ์ เป็นนายกฯ วันนั้นเพื่อนๆ ของตนหลายคนที่เคยสังกัดพลังประชาชน หลังเกิดการยุบพรรค ก็ไม่มีใครสังกัดพรรคใดพรรคหนึ่งเพราะเป็นอำนาจการตัดสินใจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นสิทธตามอำนาจในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ  วันนั้นการที่บอกว่า รัฐบาลไม่เป็นประชาธิปไตย ต้องตอบคำถามว่า รบ.จะเป็นประชาธิปไตย ก็เพราะการที่พวกตนเองได้เป็นรัฐบาลอย่างนั้นหรีอ อยากฝากถามไป


นายเนวินกล่าวต่อว่า เรียนไปยังประชาชนที่จะเข้าร่วมชุมนุมโปรดคิดสักนิด  เพราะจากโดยประสบการณ์ของตนที่เข้าไป เป็นส่วนหนึ่งการการร่วมชุมนุมครั้งนี้ พบว่า มีการวางแผนให้เกิดสถานการณ์รุนแรง ประเทศชาติจะเสียหาย และประชาชนจะเป็นเหยื่อ
 
นายเนวิน กล่าวต่อถึงประเด็นที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีการโจมตีสถาบันองคมนตรีซึ่งเชื่อมโยงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า

ตนและเพื่อนๆ ขอยืนยันจุดยืนว่า พวกตนยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย จะไม่ปกป้อง และไม่มีเจตนาที่จะปกป้ององคมนตรี แต่การออกมาแสดงความคิดเห็น เป็นการออกมาแสดงความคิดเห็นด้านความเป็นห่วงต่อการก้าวล่วงในพระราชอำนาจและพระราชอัชฌาสัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คำพูดบางคำของแกนนำที่บอกว่าไม่มีเจตนาให้กระทบต่อสถาบันพระมาหกษัตริย์ แต่พฤติกรรมของแกนนำบางคนที่อยู่บนเวที ฟ้องว่าอะไรเป็นอะไร และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พวกตนเคยรักก็ไปร่วมกับขบวนการนี้


นายเนวิน กล่าวต่อว่า การโฟนอิน หรือการวิดีโอลิงค์ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีอยู่ในการชุมนุมของคนเสื้อแดงทุกวันนี้ มีเป้าหมายขับไล่องคมนตรี

ซึ่งตนขอยืนยันว่า เป็นความล่อแหลมต่อสถาบันพระมหากษัตริย์  เพราะองคมนตรีแต่ละท่านมาจากการโปรดเกล้าฯ ตามพระราชอัชฌาสัย ในฐานะที่ตนเป็นคนไทย คำว่าพระราชอัชฌาสัยมีมากกว่า พระราชอำนาจเสียอีก ดังนั้น เมื่อพระองค์ มีพระราชอัชฌาสัย อยากถามแกนนำกับพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า บุคคลที่พระองค์โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นองคมนตรี ซึ่งพวกคุณเรียกว่า เป็นคนเลว ไม่ดี มีความหมายอย่างไร  พวกคุณคิดว่า รู้จักคำนี้ ดีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรืออย่างไร ไปก้าวล่วงพระราชอัชฌาสัยของพระองค์ท่านได้อย่างไร พวกคุณมีสิทธิ์อะไร


นายเนวิน กล่าวต่อว่า ฝากถามไปยังแกนนำผู้ชุมนุมว่า แน่ใจหรืออย่างไรว่า ขณะที่พวกคุณพูดหยุดไว้ที่บุคคลที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ในใจไม่คิดเลยไปกว่าสิ่งที่คุณพูด มาจนถึงวันนี้ จากสถานการณ์ตรงนี้ ต้องเรียนไปยังประชาชนว่า หากพวกเราคนไทยรักประเทศไทย หากพวกเราอยากทำความดีถวายพระเจ้าอยู่หัว ผมว่าสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดและเร็วที่สุดคือ ช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบ  ขอเรียกร้องให้คนไทยทุกคนทำความดีเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยการคืนความสงบสุขแก่ประเทศไทย

"ในโอกาสนี้ ผมอยากกราบเรียนไปยังพี่น้องประชาชนที่เจะเข้าร่วมชุมนุมในวันพรุ่งนี้ (8 เม.ย.) ว่า ได้โปรดทบทวนและพิจารณาอีกครั้งว่า หรือสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมหรือส่วนตัวกันแน่"
 
 

อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีตนถูกกล่าวหาว่าหักหลัง ทรยศและต้องการไม่มีที่สิ้นสุด จึงต้องบอกว่า พวกตนได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ตั้งแต่ปี พ.ศ.2531

ขณะนั้นยังไม่ได้ตั้งพรรคไทยรักไทย และพ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้ตัดสินใจลงเล่นการเมือง ขณะที่นายชัย ชิดชอบ บิดาของตนและประะธานผู้แทนราษฎรเป็นส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ พ.ศ.2512 รุ่นเดียวกับบิดาของพ.ต.ท.ทักษิณ "คนอย่างผมและคุณพ่อผมไม่มีความจำเป็นต้องพึ่งพากระแส พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคไทยรักไทยในการรับเลือกตั้ง เพราะพวกผมทุกคนได้รับการเลือกตั้งมาด้วยตนเองก่อนพรรคไทยรักไทยก่อตั้ง และพ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศลงรับเลือกตั้ง" นายเนวินกล่าว


ส่วนการเข้าทำงานร่วมกับพรรคไทยรักไทยนั้น เพราะพ.ต.ท.ทักษิณได้เชิญตนทำงานทางการเมืองร่วมกัน เพื่อนำจุดแข็งของแต่ละฝ่ายเติมให้แก่กัน

เห็นได้จากการเลือกตั้ง พ.ศ.2544 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกของพรรคไทยรักไทย พรรคไทยรักไทยไม่ได้รับเลือกในพื้นที่อีสานใต้ ขณะที่ตนและเพื่อนได้รับเลือกในพื้นที่ดังกล่าวในสังกัดพรรคชาติไทย เพราะฉะนั้นจึงเป็นการเติมเต็มซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเพิ่มจำนวน ส.ส. หรือเพิ่มจำนวนปาร์ตี้ลิสต์ให้พรรคไทยรักไทย ไม่ใช่พรรคไทยรักไทยเติมคะแนนให้ตนและเพื่อนในจังหวัดบุรีรัมย์


ก่อนอยู่พรรคไทยรักไทย เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงมาแล้ว 3 กระทรวง

ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งวันที่เดินทางเข้าร่วมกับพ.ต.ท.ทักษิณ ที่พรรคไทยรักไทย ก็เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สังกัดชาติไทยอยู่ก่อนแล้ว พอสังกัดพรรคไทยรักไทย ตนก็เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เหมือนเดิม ไม่มีอะไรดีขึ้น


หลายคนบอกว่า ตนได้รับอะไรจาก พ.ต.ท.ทักษิณมากมาย ไม่รู้จักพอ แต่สิ่งที่ตนได้จากอดีตนายกฯ หลักๆ มีอยู่ 3 เรื่อง

คือ 1.ได้รับแนวคิดและแนวทางการทำงานใหม่ ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการทำงานการเมือง ซึ่งตนระลึกอยู่เสมอถึงต้นแบบการทำงานเพื่อประชาชนในการแก้ไขปัญหา ที่ตนยอมรับที่สุด 2.ได้ทำงานมากมาย ทั้งภารกิจที่มีคนอยากทำและไม่อยากทำ หลังเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ที่ถูกจับไปขังทั้งหมด 11 วัน 10 คืนและ 3.ต้องตกเป็นจำเลยในคดีความ 2 คดี ทั้งคดีหวยบนดิน และคดีกล้ายาง


"วันนี้ผมก็ยังอยู่ในประเทศไทย เพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็พร้อมน้อมรับ และได้เห็นว่าคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ร่วมรัฐบาลกับพรรคไทยรักไทยทุกคน ยังอยู่ต่อสู้ในประเทศไทย มีแต่เพียงท่านนายกฯทักษิณที่หนีไป ไม่ต่อสู้คดีตามกระทรวงยุติธรรม" นายเนวิน กล่าว


ส่วนกรณีนายชัยได้รับเลือกเป็นประธานสภาฯ เป็นมติส.ส.พรรคพลังประชาชนเห็นชอบ ซึ่งเกิดขึ้นหลังยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาฯ พ้นจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นมติเดียวที่ให้นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ


"ถ้าบอกว่านายกฯ จัดให้พ่อผมเป็นแทนนายยงยุทธ เหตุผลเดียวเพราะอดีตนายกฯ ทักษิณไม่ไว้ใจส.ส.คนอื่นในพรรค ไม่ใช่ให้พ่อผมเป็นเพราะให้รางวัลหรือตอบแทน ผมถูกกล่าวหา หักหลัง ทรยศ เนรคุณ อยากเรียนว่า กรณีผมและอดีตนายกฯทักษิณ ไม่ใช่การหักหลัง แต่เป็นเรื่องของคนคิดต่างกันในทางการเมือง เห็นต่างการเมือง เพราะมาถึงจุดหนึ่งทางการเมอืง เมื่อเราเห็นต่างกันต้องเดินตามในทางที่เราเชื่อว่าเป็นผลดีกับประเทศชาติ" นายเนวินกล่าว

 
ถ้าจะบอกว่าผมหักหลังต้องดูกรณีของนายสมัคร เมื่อครั้งที่ไม่ยอมโหวตให้สมัครเป็นนายกฯในวันที่ 12 กันยายน  คนเดิมในพรรคไทยรักไทยเดิมข้อร้องให้นายสมัคร เป็นหัวหน้าพรรค พปช.

การที่มาเป็นหัวหน้าพรรคทำให้นายสมัครต้องเผชิญวิบากกรรมอย่างคนที่อายุ 74 ปี ไม่ควรต้องได้รับ ผมเป็นคนหนึ่งที่มีส่วนร่วมในการประกันว่าจะไม่ทอดทิ้งและปกป้องนายกฯสมัคร จนกระทั่งวันที่ 12 กันยายน 2550 ผมเชื่อว่า คนอย่างนายสมัครพร้อมที่จะเป็นและไม่เป็นนายกฯ บอกนายสมัครคำเดียว ว่าไม่อยากให้เป็น ผมคิดว่าท่านสมัครจะไม่เดินเข้าไปในสภา ผมและเพื่อนๆที่นั่งที่นี้ได้รับคำสั่งการนายกฯทักษิณ  ขอร้องให้ทำทุกอย่างเพื่อให้นายสมัครกลับไปเป็นนายกฯ (at any cost) หลังจากที่นายสมัครเจอคำสั่งชิมไปบ่นไป ทุกคนได้รับโทรศัพท์ และยังมีที่ประชุมพรรคไปเรียนท่านสมัครถึงบ้านว่าให้เป็นนายกฯ เอาดอกไม้แสดงความยินดีด้วย

 
"ในคืนนั้นก็มีการสั่งให้พรรคร่วมไม่เข้าประชุม พ.ต.ท.ทักษิณ ยังโทรบอกว่าให้ทำทุกวิถีทางให้สมัครเป็นนายกฯให้ได้ ทั้งที่มีการตกลงกับพรรคร่วมแล้วว่าไม่เอาสมัคร ถึงเรียกกรณีนี้ว่ากรณีหักหลัง ตลอดเวลาที่ผ่านมา นายสมัครได้ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องพ.ต.ท.ทักษิณ ทำจนพ.ต.ท.ทักษิณ ได้กลับมา แล้วพ.ต.ท.ทักษิณ ทำแบบนี้กับนายสมัครได้อย่างไร อย่างนี้เรียกว่าเนรคุณหรือไม่  คำว่าหักหลังต้องใช้กับนายสมัครกับพ.ต.ท.ทักษิณ และใช้คำว่าเนรคุณต้องใช้กับพ.ต.ท.ทักษิณ กับนายสมัคร"

พฤติกรรมที่พ.ต.ท.ทักษิณทำกับนายสมัคร ทำให้มองอีกมุมว่าทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ยอมตายถวายชีวิต

เผชิญหน้ากับ ทหาร คมช. ยึดอำนาจ ผมเป็นศัตรูอันดับต้นๆ ถูกจับขัง ไม่รู้จะมีชีวิตรอดหรือไม่แต่ก็ทำให้ แต่การเห็นกระทำกับ นายสมัครมเมื่อวันที่ 12 ก.ย. รับไม่ได้แบบไม่มีน้ำใจต่อกัน แบบไม่ใช่ลูกผู้ชาย ผมและเพื่อนเห็นชะตากรรมนายสมัคร และมองย้อนไปที่ผู้ใหญ่บ้านเมือง นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช นายสมคิด (จาตุศรีพิทักษ์)  นายสมศักดิ์ (เทพสุทิน) อดีตกรรมการบริหารพรรค ทำให้ต้องคิดในสถานการณ์ตอนนั้น

 
เหตุการณ์ที่เกิดกับนายสมัคร แล้วก็คิดว่าวันนั้นต้องมาถึงเราแล้ววันนั้นก็มาถึง เราทำงานร่วมกัน เคารพสิทธ รักพ.ต.ท.ทักษิณ

ทำงานทุ่มเทกับพี่น้องประชาชนชน นั่นคือด้านดี พวกเราไม่เคยปฏิเสธ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาในเส้นทางการเมือง อยากพูดคำหนึ่งว่า "คนเป็นพนักงานคนเป็นลูกจ้างเหมือนกับสื่อมวลชน ทำงานบริษัท หากอยู่ไม่ได้อึดอัดใจไม่สบายใจลาออกก็จบ นายจ้างไม่พอใจไล่ออกก็จบ แต่การเมืองเห็นต่างกันย้ายพรรคก็จบ แต่กรณีพวกผมเห็นต่างกับพ.ต.ท.ทักษิณ ผมถูกไล่ล่าถูกตามล้าง อยากฝากบอกพ.ต.ท.ทักษิณว่าผมเป็นคนมนุษย์ไม่ใช่ทาส กี่คนแล้วที่แยกออกไปจากพ.ต.ท.ทักษิณแล้วถูกไล่ล่า ผมอยากฝากถึงแกนนำเสื้อแดงว่าผมเคยถูกไล่ล่ามาแล้ว วันไหนผมเห็นต่าง ผมไม่ตามใจ ผมก็เป็นแค่คนเนรคุณ อยากให้พวกผมเอาชีวิตเป็นอุทธาหรณ์ คิดดูสิว่าหลัง 19 ก.ย.49 ถูกยึดอำนาจ ใครเป็นคนเอาชีวิตเข้าแลก  อยากฝากถามว่าหลัง 19 ก.ย.พวกผมอะไรให้ พ.ต.ท.ทักษิณบ้าง ใช้พวกผมทำอะไรบ้าง หลังจากชนะเลือกตั้ง พปช. ในการต่อสู้กับภาคอีสาน พวกผมต่อสู้จนชนะการเลือกตั้ง"


ถึงวันนี้กราบฝากถามนายกฯทักษิณว่าใครหักใครกันแน่ ทั้งหมดที่กราบเรียนคือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นเริ่องส่วนตัวระหว่าง ผมกับพ.ต.ท.ทักษิณ ผมกับเพื่อนๆไม่อยากเห็นบ้านเมืองเสียหายต้องพังพินาศไปเพราะคนเดียว ทั้งหมดที่กราบเรียนคงพิสูจน์ว่า นอกจากแนวคิดการทำงาน ผมไม่เคยได้รับอะไรจากพ.ต.ท.ทักษิณ ถ้ามันจะมีคุณงามความดีที่เคยได้ทำไว้กับ พ.ต.ท.ทักษิณที่มีความหมาย มีเยื่อใยอยู่บ้าง ไม่เคยขออะไรมีแต่ทำงานกับเอาชีวิตเข้าแลก

" ผมอยากจะขอนายกทักษิณ 2 เรื่อง คือ  เรื่องแรก ผมกราบขอให้ท่านสั่งคนอของท่านหยุดก้าวล่วงพระราชอัชฌาสัยของในหลวง เรื่องที่สองถ้ารักประเทศจริงอย่างที่พูดขอให้สนับสนุนการเคลื่อนไหว ขอให้หยุดทำให้บ้านเมืองแตกแยก ถ้าจะทำให้ได้ขอ 2 อย่างแค่นั้น" นายเนวินกล่าว พร้อมกับยกมือไว้ด้วยเสียงสะอื้น
 

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์