เทือกเจอซาอุฯ ซักตั้งสมคิด ขู่ปิดแผนกวีซ่า

"เทพเทือก" เผชิญหน้า "อุปทูตซาอุฯ" กลางวงประชุม กมธ. เจอซักหนักตั้ง "สมคิด" ผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่า "อัลรูไวรี่" เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. "พิเชษฐ์" เผยอุปทูตซาอุฯ เตรียมเสนอแนวทางตอบโต้หากไทยไม่ทบทวน ด้วยการปิดแผนกออกวีซ่าให้คนไทย

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้อง 220 อาคาiรัฐสภา 2 คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่ประธาน ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณากรณีปัญหารัฐบาลซาอุดีอาระเบียมีความสงสัยในการ แต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 ผู้ต้องหาคดีการหายตัวไปของนายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวรี่ นักธุรกิจชาวซาอุฯ เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. โดยเชิญนายนาบิล เอช. อัชรี อุปทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) พล.ต.ท.อาจินต์ โชติวงศ์ ผบช.ก.ตร. ผู้ได้รับมอบหมายจาก ผบ.ตร.และ ผบ.กำลังพล รวมถึงผู้บังคับการกองคดีอาญา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นายอิศร ปกมนตรี เอกอัครราชทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ได้รับมอบหมายจาก รมว.ต่างประเทศ เข้าชี้แจง ซึ่งมีนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคมาตุภูมิ และ พ.ต.อ.สนธยา แสงเภา ส.ว.สรรหา เข้าร่วมรับฟังด้วย

ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่การซักถามของกรรมาธิการ นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน กรรมาธิการจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวว่า ในฐานะอดีต รมช.มหาดไทย อดีต รมว.ยุติธรรม ได้พยายามติดตามเร่งรัดคดีดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง แต่ความล่าช้ามาจากเหตุผลหลายประการ ส่วนตัวเห็นว่า อุปทูตซาอุฯ และทางประเทศซาอุฯ มีสิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะติดตามคดีนี้ ถึงแม้หลายคนจะท้วงติงว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายใน และกระบวนการยุติธรรมของไทย แต่ส่วนตัวไม่เห็นเช่นนั้น เพราะภาครัฐก็ต้องตอบคำถามคาใจของฝ่ายซาอุฯ ให้ได้ ผลกระทบนี้ไม่ใช่แค่กับคนใดคนหนึ่ง หรือความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาล แต่กระทบถึงคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะพี่น้องมุสลิม ดังนั้น จึงขอให้อุปทูตซาอุฯ ได้ซักถามกับนายสุเทพ รวมถึงเจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้องโดยตรงทั้งหมดด้วยตัวเอง เพื่อให้หมดข้อสงสัย

จากนั้น อุปทูตซาอุฯ ได้กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการปรึกษาหารือ และเป็นเรื่องใหญ่ ตนอยากให้การพูดคุยเป็นการเจรจาหารือระหว่างสองประเทศ ไม่อยากให้มีสื่อมวลชนร่วมรับฟัง ซาอุฯไม่ต้องการแทรกแซงกระบวนการระหว่างประเทศ ส่วนตัวไม่รู้จักกับ พล.ต.ท.สมคิด เป็นการส่วนตัว แต่ยังมีความเชื่อว่าผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับปัญหาทั้งหลาย ตนก็มีเพื่อนเป็นคนไทยมากมาย การทำหน้าที่ก็ต้องแยกแยะ เพราะตนมาในฐานะตัวแทนราชอาณาจักรซาอุฯ มีหน้าที่ต้องปกป้องผลประโยชน์และประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับคนซาอุฯ แต่จนถึงบัดนี้ยังไม่เคยได้รับการชี้แจงจากทางการไทยถึงการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิด ให้ได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นเลย

ต่อมานายประชา ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ว่า อุปทูตซาอุฯ ยังคงยืนยันในข้อกังวล และข้อสงสัยถึงการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิด ทั้งที่ถูกดำเนินคดีอาญาว่า ทำไมต้องแต่งตั้งคนๆ นี้ด้วย ทำไมทางการไทยถึงไปหยิบยก พ.ร.บ.ล้างมลทิน ขึ้นมาใช้กับกรณีนี้ ซึ่งนายสุเทพ ได้ชี้แจงว่าเมื่อมี พ.ร.บ.ล้างมลทินขึ้นมา ก็หมดประเด็นที่จะดำเนินการทางวินัยแล้ว ส่วนกระบวนการของศาลไม่มีใครแทรกแซงได้ ขณะที่นายสุทัศน์ ได้ให้ความมั่นใจว่า หากทางซาอุฯ มีหลักฐานชัดเจนว่า มีการข่มขู่พยานหรือแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ก็ขอให้ร้องเพิกถอนประกัน พล.ต.ท.สมคิดได้ แต่ทางอุปทูตซาอุฯ ก็ยังมีความสงสัยอยู่ เขาไม่ได้ติดใจในอำนาจศาล แต่เขายืนยันว่า คดีดังกล่าวมีผลต่อความสัมพันธ์และการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ซึ่งเขายังหวังว่ารัฐบาลไทยจะนำความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกลับมาดีเหมือนเดิม

ทั้งนี้ นายสุเทพ ได้แจ้งให้ทราบว่าจะส่งเอกสารกระบวนการขั้นตอนแต่งตั้ง กฎหมาย รวมถึงระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไปยังสถานทูตซาอุฯ ไม่เกิน 2 วันนี้ จึงขอให้อุปทูตซาอุฯ ศึกษาเอกสาร หากยังมีประเด็นโต้แย้ง ขอให้ส่งกลับผ่านกระทรวงการต่างประเทศและส่งมาที่คณะกรรมาธิการด้วย ซึ่งคณะกรรมาธิการจะตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมายเป็นการเฉพาะกิจ เพื่อสรุปถึงประเด็นต่างๆ และข้อกฎหมายที่จะนำมาหักล้างกับ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ และ พ.ร.บ.ล้างมลทิน โดยจะใช้เวลาศึกษา 15 วัน เพื่อนำข้อสรุปมาดู โดยอาจเชิญอุปทูตซาอุฯ นายสุเทพ ฝ่ายตำรวจ และฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอีกครั้ง

วันเดียวกัน นายพิเชษฐ์ สถิรชวาล เลขาธิการกรรมการกลางอิสลามประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางโทรทัศน์ช่อง 3 เปิดเผยว่าได้เข้าพบกับนายนาบิล เอช. อัชรี อุปทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย เมื่อวันจันทร์ที่่ผ่านมา (13 ก.ย.) เพื่อหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน โดยทางอุปทูตซาอุฯ บอกว่ารอดูการแก้ปัญหาของทางการไทยมานานถึง 20 ปี ถ้าไทยไม่สามารถให้ความเป็นธรรมกับซาอุฯ ด้วยการทบทวนการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้ ตัวเขาก็จะเสนอไปทางซาอุฯ ให้มีการตอบโต้ ซึ่งการตอบโต้ทางการทูตที่ดีที่สุดก็คือ การปิดสถานทูต หรืออย่างน้อยคือปิดแผนกวีซ่า ตนจึงอยากเสนอรัฐบาลอย่าเอาเรื่องของคนๆ เดียวไปทำให้ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศเสียหาย

ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวยืนยันว่า ยังไม่มีแนวโน้มหรือท่าทีปรับระดับความสัมพันธ์ ไปจนถึงขั้นปิดสถานทูต หรืองดออกวีซ่า กระบวนการที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคือการพยายามทำความเข้าใจกับทางซาอุฯ ว่าการแต่งตั้งข้าราชการของเรา มีขั้นตอน ธรรมเนียมปฏิบัติอยู่ มีระบบอาวุโสที่ชี้แจงได้ และการแต่งตั้งดังกล่าวก็ไม่กระทบกระเทือนกับกระบวนการยุติธรรมที่เดินหน้าต่อไป เวลานี้เรากำลังทำเอกสารแปลเป็นภาษาอังกฤษส่งไปยังสถานทูตซาอุฯ เพื่อชี้แจงไปยังรัฐบาลซาอุฯ ซึ่งทางอุปทูตซาอุฯ เองก็มีความเข้าใจกระบวนการตรงนี้ ดังนั้น จึงมองไม่เห็นว่าจะมีการปิดสถานทูต หรืองดออกวีซ่าให้กับคนไทยได้อย่างไร 

"ผมเรียนได้ว่าท่านอุปทูตได้ยืนยันมาตลอดว่า การจะดำเนินมาตรการใดๆ กับประเทศไทย จะไม่ได้ออกมาจากความคิดของท่าน เพราะฉะนั้นหมายความว่ารัฐบาลจะต้องเป็นคนสั่งกลับมายังสถานทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย ว่ามีเหตุอย่างนี้นะ ทางรัฐบาลเห็นว่าอย่างไร ท่านอุปทูตนี้ผมยืนยันว่าท่านมีความพยายามอย่างเต็มที่ในการจะร่วมกันแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น" นายชวนนท์ กล่าว

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์