เทือก เปิดศาลประชาชน มติเอกฉันท์พาม็อบสู้ต่อ - ลาออก ส.ส. - ประกาศ 4 มาตรการขัดขืน

ภาพจาก ข่าวสดภาพจาก ข่าวสด


วันที่ 11 พ.ย.  ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า หลังการประชุมแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อหารือถึงการยกระดับเคลื่อนไหวต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และการขับไล่รัฐบาล มีข้อสรุปว่า 

ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จะลาออกจากตำแหน่ง ออกมาต่อสู้นอกสภาฯ เพื่อไม่ให้กระทบต่อพรรค ที่กำลังถูกฝ่ายรัฐบาลยื่นยุบพรรค

โดยมีส.ส.ของพรรค 9 คนประกาศลาออกบนเวทีชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเป็นการยกระดับการเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล ประกอบด้วย 1.นายถาวร เสนเนียม สงขลา 2.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ตรัง 3.นายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อจากอีสาน 4.นายวิทยา แก้วภราดัย นครศรีธรรมราช 5.นายชุมพล จุลไส ชุมพร 6.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรุงเทพ 7.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ 8.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ กรุงเทพ และ 9.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

 รายงานข่าวระบุว่า ในการหารือดังกล่าว นายสุเทพจะขอลาออกคนเดียว แต่ที่ประชุมเห็นว่าไม่ควรให้สถานการณ์ถูกตีความว่าเป็นการโดดเดี่ยวนายสุเทพ จึงเห็นว่า ควรไฟเขียวให้ ส.ส.ของพรรคลาออกได้ตามความสมัครใจ แต่เมื่อประเมินผลดี ผลเสียแล้ว หากมีการลาออกจำนวนมาก จะทำให้ต้องพะวักพะวงกับการเลือกตั้งซ่อมภายใน 45 วัน แทนที่จะเป็นการช่วยทางเวทีได้  ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติว่า ไม่ควรลาออกกันมาก โดยเฉพาะ ส.ส.กทม. ตอนนี้ห้ามลาออก แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็ต้องประเมินสถานการณ์เฉพาะหน้า จึงค่อยตัดสินใจ  

 อย่างไรก็ตาม จุดยืนของ ส.ส.ที่ออกมาเคลื่อนไหว จะเป็นการกดดันให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบ ในการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตามกระแสที่ประชาชนและหลายฝ่ายในบ้านเมืองเรียกร้อง ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จะปฎิเสธ แล้วเมินเสียงเรียกร้องของประชาชนไม่ได้ หากถึงจุดหนึ่งแล้ว รัฐบาลยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง จะมี ส.ส.ของพรรคลาออกอีกจำนวนมาก เพื่อมาสู้ร่วมกับประชาชนนอกสภาฯ

 เวลา 18.10 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ในฐานะแกนนำ กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า ขณะนี้ถึงได้ล่วงเลยเวลา 18.00 น. ตามที่เราเคยประกาศให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ถอนกฎหมายนี้ออกจากรัฐสภา จึงเป็นที่ปรากฏชัดเจนว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิเสธข้อเรียกร้องของคนไทยทั้งประเทศ มิหนำซ้ำยังได้พยายามใช้เล่ห์เลี่ยม เพทุบาย สาระพัดชนิด สร้างข่าวเท็จใส่ร้ายต่อประชาชนที่เคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรม แม้กระทั่งในขณะนี้หน่วยงานของรัฐก็ยังกลั่นแกล้งประชาชนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นบนเวทีนี้ ได้ถูกข่มขู่คุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐมากมาย จนในที่สุดประชาชนทั้งประเทศทนไม่ไหวจึงออกมาร่วมชุมนุมเพิ่มมากขึ้นทุกเวที น.ส.ยิ่งลักษณ์ คงได้รับรายงานจำนวนผู้มาเข้าร่วมชุมนุม แต่กฎหมายอันตรายก็ยังไม่ตายไปจากรัฐสภา อีกทั้งยังอ้างอีกว่าการที่ประชาชนออกมาต่อต้านจำนวนมากทำให้รัฐบาลถูกขัดขวาง ไม่เช่นนั้นวุฒิสภาซึ่งเป็นสภาทาส คงจะพิจารณากฎหมายนี้จบไปแล้วสามวาระ แต่ตนอยากบอกว่าหากไม่มีประชาชนออกมาต่อต้านจำนวนมากขนาดนี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็คงชนะและคงสามารถพาทักษิณกลับบ้านได้แล้ว

 นายสุเทพกล่าวอีกว่า  ในขณะที่ศาลประชาชนกำลังเปิดพิจารณาคดีอยู่นี้ แต่กฎหมายอันตรายยังไม่ทลายลง ถ้า ส.ว. ลงใติไม่เห็นชอบกับร่างกฎหมายนี้ กฎหมายนี้ก็จะเพียงชะงัก ยังไม่ตาย เพราะหลังจากนี้ 180 วัน ฝ่ายรัฐบาลก็อาจจะยกกฎหมายดังกล่าวขึ้นมาและใช้เสียงข้างมากทำให้กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ดังที่จ.ส.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทยได้เคยพูดไว้ นี่คือความจริงที่ศาลประชาชนแห่งนี้ควรได้รับทราบไว้ในเบื้องต้น และวิปรัฐบาลได้ออกมาแถลงว่าจะทำให้กฎหมายนี้ตายไป แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้เมื่อไหร่ อีกทั้งตนอยากให้ประชาชนรับทราบไว้ว่าหากเผลอเมื่อไหร่รัฐบาลก็จะใช้กฎหมายนี้เป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อมีผลบังคับใช้ทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. และนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ  พูดว่าได้หารือกับยิ่งลักษณ์แล้วว่าจะออกเป็นพ.ร.ก. แทน

 "ขอให้ประชาชนตั้งสติให้ดี ว่าจะตัดสินใจอย่างไรกับเรื่องดังกล่าว และพวกตนก็จะปฏิบัติตามมตินั้น เพราะคำพิพากษาของประชาชน ไม่ต้องบรรยายมาก มีอยู่ 2 ทางเลือกเท่านั้น คือ 1.ยินดีกับชัยชนะเบื้องต้นที่รัฐบาลได้ชะลอกฎหมายนิรโทษกรรมเอาไว้ และรอให้วุฒิสภาคว่ำกฎหมายนิรโทษกรรมในตอนค่ำวันนี้ หรือ 2.เราจะสู้ต่อไปด้วยพลังมหาชน ทำให้กฎหมายนิรโทษกรรมอันชั่วร้ายนี้ตายไปจากโลกและไม่มีวันผุดขึ้นมาอีก"

  จากนั้นนายสุเทพ ได้ถามผู้ชุมนุมว่าจะเลือกข้อใดโดยให้ประชาชนส่งเสียงโห่ร้องแทนคำตอบ ปรากฏว่า ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เลือกให้มีการชุมนุมต่อไป นายสุเทพกล่าวว่า มติของประชาชนชาวไทยว่ามีมติเป็นเอกฉันท์ให้สู้ต่อไป เพื่อให้การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ของมวลมหาประชาชนโดยบริสุทธิ์ ไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และตนขอประกาศลาออกจากความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แม้ว่าการเป็นนักการเมืองคือความใฝ่ฝันของตน แต่การลาออกนี้เพราะตนรักประชาชน รักประเทศไทย และพระเจ้าแผ่นดิน อีกทั้งที่ตนตัดสินใจลาออก เพราะว่าชีวิตตนไม่ใช่ของตนคนเดียว แต่ตนมีความต้องการออกมาสู้ร่วมกับประชาชน ต่อจากนี้ตนกับประชาชนมีฐานะเท่าเทียมกัน ติดคุกได้เหมือนกัน 

 นายสุเทพกล่าวอีกว่า พรุ่งนี้ (12 พ.ย.) เวลา 11.00 น. ตนจะเดินทางไปลาออกอย่างเป็นทางการที่รัฐสภา จะไม่ใส่ชุดเครื่องราชอิสริยาภรณ์ หากไม่ชนะตนก็จะไม่ขอกลับไปที่รัฐสภาอีกต่อไป อย่างไรก็ตามได้มี ส.ส. ลาออกพร้อมกับตนอีก 8 คน ได้แก่ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง นายอิสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร นายพุฒิพงศ์ ปุณกันต์ ส.ส.กทม. นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ ส.ส.กทม. และนายณัฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ 

 "ผมจำเป็นต้องแยกทางกับเพื่อสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ พวกที่มีหน้าที่สู้ในสภา ขอให้สู้ในสภาอย่างเข้มแข็ง แต่พวกตนที่ลาออกขอรวมหัวใจเป็นอันหนึ่งเดียวกับประชาชนนับแต่นี้ต่อไป เพราะเราไม่มีเวลาต่อสู้ยืดยาว เราจำเป็นที่ต้องเร่งรัดการต่อสู้ของเรา เพราะฉะนั้นพวกตนได้เตรียมใจไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าหากประชาชนต้องการต่อสู้ต่อไป เราก็จะต่อสู้ตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ และเราจะยึด ถ.ราชดำเนินเป็นที่มั่นในการต่อสู้ต่อไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ"นายสุเทพกล่าว

  นายสุเทพกล่าวต่อว่า ตนขอเสนอมาตราการอารยะขัดขืน โดย 1.ให้ทุกบริษัทเอกชนและสถาบันศึกษาประกาศหยุดงานและการเรียนการสอนในวันที่ 13 14 และ 15 พ.ย. เพื่อมาร่วมต่อสู้กับพวกตน 2.ขอให้นักธุริกจพ่อค้าแม่ค้าต่างๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงการชำระภาษีประจำปี ก็ขอให้โปรดชะลอการชำระภาษีเพื่อไม่ให้รัฐบาลนำเงินไปโกงกินได้อีก 3.ขอให้ประชาชนทุกคนพกธงชาติและนกหวีติดตัวเสมอ และ 4.หากประชาชนคนไหนพบเจอน.ส.ยิ่งลักษณ์ และบรรดารัฐมนตรีรวมทั้งลิ่วล้อทั้งหลาย ก็ไม่ต้องไปด่าทอ แต่ขอให้เป่านกหวีดใส่อย่างเดียวเพราะไม่ผิดกฎหมาย  

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์