เทพไทชี้เด็จพี่ปูดวินาศกรรม หวังตีปลาหน้าไซ

"เทพไท" ชี้ "พร้อมพงษ์" แถสีข้างแดงปูดข่าววินาศกรรม ดักทางหวังตีปลาหน้าไซ หากเกิดเหตุ ปัดข่าวอำนาจใหม่ล้มรัฐเป็นไปไม่ได้...

เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาปูดข่าวเรื่องการก่อวินาศกรรมสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินว่า เรื่องนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าเป็นการปล่อยข่าวเพื่อหวังผลทางการเมืองทั้งที่ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด เพราะเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกหน่วยงาน ต่างออกมายืนยันว่า ไม่มีข้อมูลดังกล่าว ทำให้นายพร้อมพงษ์หน้าแตกเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน แต่เมื่อจนด้วยข้อมูลของฝ่ายความมั่นคงก็ยังตะแบงตีกรรเชียงแก้ตัวน้ำขุ่นไปว่าเรื่องนี้สอดคล้องกับคำพูดของนายกรัฐมนตรี ที่ยอมรับว่าหากมีการยุบสภาในช่วงนี้จะไม่มีการเลือกตั้ง ทั้งที่ข้อเท็จจริงเป็นคนละประเด็นกัน สิ่งที่นายกฯพูดถึงเพราะเป็นห่วงสถานการณ์ที่กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาสร้างความปั่นป่วนจนทำให้สถานการณ์บ้านเมืองเลวร้ายลงไปอีก จนไม่สามารถจัดการเลือกตั้งทั่วไปได้ เป็นการเรียกร้องให้กลุ่มคนเสื้อแดงที่พร่ำเรียกหาการเลือกตั้งให้เกิดขึ้นโดยเร็ว

ขณะเดียวกันกลุ่มเสื้อแดงก็ยังคงสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองไม่เป็นที่จบสิ้น แล้วจะให้มีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้นได้อย่างไร

ตนขอตั้งข้อสังเกตว่าข่าวการก่อวินาศกรรมของนายพร้อมพงษ์ ไม่มีข้อมูลเท็จจริงจากหน่วยงานด้านความมั่นคง จึงเป็นไปได้หรือไม่ว่า ข้อมูลที่นายพร้อมพงษ์นำมาเปิดเผยได้รับมาจากพวกเดียวกันและออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะตีปลาหน้าไซ เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงก็จะปฏิเสธความรับผิดชอบและโยนความผิดให้รัฐบาล อ้างว่าฝ่ายตนได้เตือนรัฐบาลล่วงหน้าแล้ว แต่รัฐบาลเพิกเฉยและไม่เอาใจใส่

ส่วนการปูดข่าวเรื่องกลุ่มอำนาจใหม่ว่ามีการจับมือระหว่างกลุ่มคนสีเขียวกับนักการเมืองที่มีเงินมากบารมี

ได้ตั้งกลุ่มอำนาจใหม่ขึ้นมาเพื่อให้รัฐบาลชุดนี้หมดอำนาจลงโดยใช้ผลของคดีการยุบพรรคประชาธิปัตย์และกรณีคำร้องที่นายกฯ ส่งข้อความทางเอสเอ็มเอสว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ อาจเป็นฝันกลางวันของนายพร้อมพงษ์และคนของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้ออ้างในคดีการยุบพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าดูจากแนวทางการไต่สวนพยานที่ผ่านมา 2 นัดจะเห็นว่าปากคำของทนายฝ่ายผู้ร้องไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะนำไปสู่การยุบพรรคได้ รวมถึงคดีการส่งเอสเอ็มเอสที่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าผลจะออกมาอย่างไร สำหรับการพยามที่จะอ้างถึงกลุ่มอำนาจใหม่ที่ขึ้นมาสกัดกลุ่มอำนาจเก่าและพรรคเพื่อไทยเพื่อ ไม่ให้กลับมามีอำนาจใหม่อีกนั้น ก็คงไม่มีอำนาจไหนจะมาสกัดได้เว้นแต่อำนาจของประชาชนที่ไม่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย เพราะรู้ดีว่าเป็นพรรคการเมืองที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุมของกลุ่ม นปช.และคนเสื้อแดงที่เผาชาติบ้านเมือง.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์