เทพไท แนะเพื่อไทยเจรจาทักษิณ มอบตัวสู้คดี

เทพไท จวก เด็จพี่ ปูดข่าวมั่วหวังพรรคร่วมแตกแยก แนะเพื่อไทย เจรจา “ทักษิณ-แกนนำ นปช.”มอบตัวสู้คดี ดักทาง “ตู่”ขู่ป่วนชาติ ใช้วิธีแบล็กเมล์ อสส.

“เทพไท”จวก “เสด็จพี่”ปูดข่าวสร้างแตกแยกพรรคร่วมที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาพูดเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังจากผ่านการพิจารณางบประมาณร่ายจ่ายประจำปี 2554 ไปแล้ว โดยระบุว่า จะมีการปรับใหญ่ โดยเฉพาะมีการพูดว่า มีการต่อรองอย่างหนักในพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงปล่อยข่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลติดต่อฝ่ายค้านให้ยกมือผ่านพ.ร.บ.งบ โดยเปิดเผยถึงตัวเลข 7-8 หลัก ว่า ตนอยากเรียนว่า การปล่อยข่าวดังกล่าวเพื่อสร้างความแตกแยก ยุยง ให้เกิดความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งเป็นไปไม่ได้

แต่เป็นเจตนาที่พยายามพูดเรื่องเหล่านี้เพื่อหวังสร้างข่าว ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าไม่มีพฤติรรมเช่นนั้นแน่นอน

ซึ่งคนเหล่านี้คงเคยชินพฤติกรรมกับการว่าจ้าง เพราะเป็นพฤติกรรมเคยชินในพรรคเพื่อไทย ที่ชอบใช้เงินฟาดหัวคนอื่น เพราะฉะนั้น การตีปลาหน้าไซ หากมีการเลือนการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 54 ออกไป เท่ากับเป็นการต่อรองกับพรรคร่วมรัฐบาลไม่ลงตัว และยืนยันว่าการพิจารณางบ ได้กำหนดวันแน่นอน คือ 18-19 ส.ค. ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และมั่นใจว่าเสียงสนับสนุนมีเอกภาพพร้อมเพรียงกัน และที่ผ่านมาการที่พรรคเพื่อไทยพยายามพูดเรื่องสภาล่ม และเชี่อมโยงไปถึงความขัดแย้งภายในรัฐบาลนั้น ตนยืนยันว่าไม่มีนัยยะทั้งสิ้น แต่เป็นการขัดข้องทางเทคนิคทางการเมือง ซึ่งไม่เป็นไปตามที่พรรคเพื่อไทยปูดข่าว

นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยและแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พยายามพูดใส่ร้ายกระบวนการยุติธรรม คือ อัยการสูงสุด (อสส.)

และพยายามตั้งคำถามในการดำเนินคดีในส่วนต่างๆของการชุมนุมนปช. และอ้างถึงการตาย 80 กว่าศพ และเจ็บ 200 กว่าคน โดยไม่มีความคืบหน้านั้น ตนอยากเรียนว่าคดีดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก และจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องได้จำนวนมาก โดยเฉพาะแกนนำ 20 กว่าคน และที่คืบหน้าที่สุดคือการที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องแกนนำนปช. 19 คน เป็นจำเลยในข้อหาก่อการร้าย แต่ที่จับไม่ได้คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และส่วนแกนนำบางส่วนอีก 4-5 คน ซึ่งหากจับไม่ได้ ก็อยากให้แกนนำพรรคเพื่อไทยไปเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณให้มอบตัวสู้คดี  

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรค กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะข่มขู่และสร้างความหวาดกลัวให้กับสังคมคือ

พร้อมปลุกระดมมวลชนคนเสื้อแดงให้มาชุมนุมที่หน้าสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) และออกมาแทงกั๊กคือ ตอนนี้อาจจะยังไม่เคลื่อนการชุมนุม แต่วันข้างหน้าไม่แน่ ซึ่งตนคิดว่าพฤติกรรมดังกล่าว คือ 1.แบล็กเมล์ อสส. โดยเฉพาะการแฉประวัติของอัยการ 2. การอ้างว่าอสส.ไม่มีเกียรติประวัติ หากเคลื่อนไหวก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านคดี ซึ่งนายจตุพรอาจจะรู้ตัวว่า หากเคลื่อนไหวต่อไป จะไม่ได้รับการประกันตัววันที่ 16 ส.ค. ในคดีก่อการร้าย แม้มีเอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครองก็ตาม และตนเชื่อว่าหลังจาก 16 ส.ค. ไปแล้ว นายจตุพรก็ต้องเคลื่อนไหวลักษณะดังกล่าวต่อไปอีก

ทั้งที่ความจริงสังคมไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายต่อไปอีก ทั้งนี้ ตัวเลขทางเศรษฐกิจดีขึ้น ตนจึงอยากให้ นายจตุพรเห็นแก่นายจาตุรนต์ ฉายแสง ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมครั้งนี้

ส่วนการที่นายจตุพรและสมาชิกพรรคเพื่อไทยออกมาพูดใส่ร้ายกระบวนการยุติธรรม ในการสั่งฟ้องคดีก่อการร้ายเป็นการปฏิบัติ 2 มารตฐานและระบุว่ามีการเมืองเข้ามาแทรกแซงนั้น

ตนยืนยันรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและใช้อำนาจเข้าไปแทรกแซง ไม่ว่าขั้นตอนใดก็ตาม และการกล่าวหากระบวนการยุติธรรมเป็นการปฏิบัติ 2 มาตรฐานนั้น ตนอยากถามกลับว่า เมื่อครั้งที่อสส.สั่งไม่ฟ้องนปช.ที่บุกบ้านสี่เสาเทเวศน์ ทำไมไม่ออกมาพูดบ้าง แต่พอตัวเองเสียประโยชน์ออกมาพูดในลักษณะว่าดำเนินการ 2 มาตรฐาน จึงอยากวิงวอนให้นายจตุพร ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่เหลืออยู่คนเดียว เพราะมีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองอยู่นั้น ขอให้ยุติการเคลื่อนไหว อย่าซํ้าเติมประเทศชาติ ทั้งๆที่ตัวเองได้เสพสุขอยู่คนเดียว แต่เพื่อนที่เหลือต้องไปชดใช้กรรมในเรือนจำ หากต้องการให้สังคมมีมาตรฐานเดียวกัน คืออยากให้นายจตุพล สละการใช้เอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครอง และไปนอนกับเพื่อนในคุก


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์