วันนี้ (13 มี.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึง การเตรียมการรับศึกญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจพร้อมยื่นถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
พร้อมรัฐบาล 5 คน ประกอบด้วย นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อย่างไร เพราะที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ถนัดแต่เป็นฝ่ายอภิปรายฯ ว่า ไม่หนักใจ มั่นใจว่านายกฯ และรัฐมนตรีที่อยู่ในบัญชีถูกยื่นอภิปรายฯ คราวนี้จะชี้แจงประเด็นต่างๆ ได้ชัดเจน และน่าจะเป็นโอกาสดีของรัฐบาลที่จะได้ใช้โอกาสที่คนสนใจฟังการถ่ายทอดสดในสภาฯ จะได้อธิบายชี้แจงประเด็นต่างๆ ที่เคยถูกฝ่ายค้านกล่าวหามาตามที่ต่างๆ ให้ประชาชนเข้าใจ และไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาอะไรสำหรับรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายฯ เพราะได้ติดตามดูการ ทำงานของรัฐมนตรีทั้งหลายอย่างใกล้ชิด แต่ละท่านก็ตั้งใจทำงาน ไม่มีประเด็นอะไรที่ทำความเสียหายต่อประเทศชาติ และประชาชน เชื่อว่าจะสามารถชี้แจงได้
เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายฯ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในประเด็นเงินบริจาค 258 ล้านในสมัยเป็นเลขาธิการพรรคฯ รองนายกฯ กล่าวอีกว่า ตนเข้าใจว่าฝ่ายค้านคงพยายามจะเล่นงานพรรคฯ
โดยเอานายประดิษฐ์มาเป็นตัวล่อ สังเกตดูที่พยายามยกเรื่องเงิน 258 ล้าน และงบประมาณจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 23 ล้านบาท มาเป็นประเด็นที่เล่นงานพรรคฯ ซึ่งเดิมจะอภิปรายนายกฯ ในประเด็นนี้ แต่เมื่อเห็นว่าถ้าอภิปรายฯ นายกฯจะไม่เข้าข่ายเพราะไม่ใช่เรื่อง ที่นายกฯ จะต้องรับผิดชอบ ก็เลยไปอภิปรายนายประดิษฐ์แทน เพราะเคยเป็นเลขาธิการพรรคฯ ในยุคนั้น เป้าหมายก็คงจะอภิปรายนายประดิษฐ์ เพื่อจะทำลายเครดิตความน่าเชื่อถือมากกว่าพรรคฯ
เมื่อถามว่า ทางพรรคจะมีการช่วยนายประดิษฐ์หรือไม่ เพราะแม้จะอยู่ต่างพรรคในปัจจุบันแต่ประเด็นจะโยงถึงพรรคประชาธิปัตย์ในอดีต นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่านายประดิษฐ์ชี้แจงได้
เพราะรู้และเข้าใจเรื่องทั้งหลายดี แต่ถ้ามีขยายออก มานอกกรอบ จากที่นายประดิษฐ์เคยรับผิดชอบเป็นเลขาธิการพรรค พวกตนก็จะต้องช่วยชี้แจงถ้าพาดพิง และทำให้พรรคถูกเข้าใจผิด ซึ่งประเด็นนี้ไม่ไหนักใจเลยเพราะไม่ใช่เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว ทำให้เกิดความเสียหาย ข้อสำคัญเรื่องนี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้วตั้งแต่ยังเป็นฝ่ายค้านอยู่
เมื่อถามว่า ในส่วนของนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่เป็นรัฐมนตรีสายล่อฟ้า จะดำเนินการอย่างไร เพราะขณะนี้พรรคฯ กำลังมีปัญหากับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)
นายสุเทพ กล่าวว่า ทางพรรคฯ ไม่ได้มีปัญหากับพันธมิตรฯ ซึ่งเคยพูดหลายครั้ง แต่บังเอิญไม่มีคนนำไปรายงานข่าวต่อพันธนิตรฯ ตนให้ความเคารพในความคิดเห็นทางการเมืองของพันธมิตรฯ คนที่มาเดินขบวนมาชุมนุมเป็นพันธมิตรฯ เขาไม่ได้ประโยชน์อะไร เมื่อเหตุการณ์จบ เขาก็กลับบ้านไปทำมาหากินตามปกติไม่ได้มายุ่งเกี่ยวอะไรกับการเมือง ส่วนที่ฝ่ายค้านจะยกมาเป็นประเด็นอภิปรายฯ นายกษิตเพื่อจะโยงไปตำหนิพันธมิตรฯ นั้นเป็นหน้าที่ของประธานสภาฯ ที่จะควบคุมการกอภิปรายให้อยู่ในกรอบ และไม่ควรมีการพาดพิงบุคคลภายนอก
เมื่อถามว่า แกนนำพันธมิตรฯ ไม่พอใจที่ขอให้โยกย้ายนายตำรวจแล้วไม่ได้รับการตอบสนอง รองนายกฯ กล่าวต่อว่า อย่าไปตั้งข้อสังเกตอะไรเลย
ทางแกนนำพันธมิตรฯ ก็ไม่ได้เคยติดต่อมาถึงตนและตนก็ไม่จำเป็นต้องต่อสายไปพูดคุยด้วย ส่วนที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ออกมาโจมตีรัฐบาลต่อเนื่องหลายเรื่องนั้น ตนเชื่อว่า ประชาชนจะมีวิจารณญาณติดตามข่าวสารบ้านเมือง แยกแยะได้ ตนเป็นนักการเมืองมา 30 ปี ถูกสอนให้เคารพวิจารณญาณของประชาชน ตนเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่เคยคิดผิด ส่วนการที่พันธมิตรฯ จะไปอภิปรายที่แอลเอ สหรัฐอเมริกานั้นก็คงไม่ต้องไปติดตามอะไรเป็นพิเศษ เมื่อถามว่า ทางแกนนำพันธมิตรฯ เองได้ติดต่อมาหรือไม่ว่าต้องการอะไร หรืออยากให้รัฐบาลช่วยตรงไหน นายสุเทพ กล่าวด้วยสีหน้ายิ้ม แต่ไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่รายชื่อหลุดไม่มีรายชื่อถูกอภิปรายฯไม่ไว้วางใจแล้ว รองนายกฯ ได้แต่หัวเราะแต่ไม่ได้ตอบอะไร
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
