“เทพเทือก”ขอโทษคุมบึ้มไม่อยู่

“สุเทพ” ขอโทษประชาชนคุมบึ้มไม่อยู่ ยันไม่เกี่ยวเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชี้เป็นขบวนการสร้างความวุ่นวาย

วันนี้ (27 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และ ผอ.ศูนย์แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ)

กล่าวถึง กรณีเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในหลายพื้นที่ ว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษประชาชนที่ไม่สามารถควบคุมได้ทุกจุด ทั้งที่ผ่านมาได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ตั้งด่านตรวจ จัดชุดลาดตระเวน พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังไม่พอ มีช่องโหว่จนได้ เพราะคนร้ายคอยจ้องหาจุดอ่อนตลอด เมื่อสบโอกาสก็จะลงมือทันที จากนี้ จะเร่งระดมอุดช่วงโหว่อย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ ยืนยันว่า ระเบิดที่เกิดขึ้นถี่ในช่วงนี้ ไม่เกี่ยวกับการที่จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่เป็นขบวนการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบเท่านั้น

เมื่อถามว่า มีการใช้อาวุธกันขนาดนี้ แสดงว่าอาวุธเหล่านี้ ซื้อหากันได้ง่ายใช่หรือไม่ ผอ.ศอฉ. ชี้แจงว่า ต้องแยกกันให้ชัดเจน เพราะบางส่วนเป็นอาวุธที่ผลิตมาจากโรงงานสำเร็จรูปแล้ว แต่บางส่วนมีการประกอบขึ้นเอง หน้าที่เราคือก็ต้องหาทางควบคุมให้ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายความมั่นคงได้มีการประเมินหรือไม่ว่า เวลาที่จะมีการยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก็มักจะมีเหตุการณ์เหล่านี้ เกิดขึ้นทั้งใน กทม. และ ตจว.
นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าพยายามโยงประเด็นนี้ เข้าด้วยกัน เพราะจะทำให้คนเข้าใจสับสน เรื่องของคนที่หวังร้ายต่อบ้านเมือง ต้องการสร้างสถานการณ์ และทำให้เห็นว่าบ้านเมืองไม่มีความสงบ รัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ คนพวกนี้เป็นขบวนการซึ่งมีความมุ่งมั่น พยายามที่จะสร้างสถานการณ์อย่างนี้ อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่มีก็ตาม เป้าหมายของเขามีมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และเขายังเดินหน้าทำงานของเขาต่อไป ส่วนเรื่องการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั้น เป็นเรื่องของการควบคุมสถานการณ์ไม่ให้รุนแรงจนทำความเสียหายกับบ้านเมือง

ผู้สื่อข่าวถามถึง ความคืบหน้าการตรวจสอบวิถีกระสุนปืนที่ยิงเข้าไปยังวัดปทุมวนาราม เมื่อช่วงเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบ นายสุเทพ ชี้แจงว่า ทางดีเอสไอยังไม่มีการรายงานมาอย่างเป็นทางการ
 
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ผ่านไปตั้ง 4 เดือนแล้ว ทำไมเพิ่งคิดจะมาตรวจสอบ อย่างนี้จะได้หลักฐานอะไร

นายสุเทพ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบก็พบหลักฐาน ทั้งนี้ ยืนยันว่า ยังทำได้อยู่ เพราะใช้หลักการทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยตนกำชับว่าให้ดำเนินการทุกอย่างแบบตรงไปตรงมา เพราะทุกวันนี้ เราต้องว่ากันด้วยความเป็นจริงเท่านั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางดีเอสไอได้เสนอขยายเวลาในการสอบสวนกรณี 89 ศพ มาหรือยัง รองนายกฯ กล่าวว่า ยัง ตนคิดว่าเขาน่าจะทำได้ทันในเวลาที่ตนกำหนดไว้คือ 60 วัน แม้ว่าจะมีพยานหลักฐานมากมายก็ไม่เป็นไร ให้เขาพูดเองดีกว่าว่าทันหรือไม่ทัน เดี๋ยวเขาคงมาบอกตนเอง เราอย่าเพิ่งไปดักหน้าเขา.