“เทพเทือกการันตี“กษิต”ไม่เข้าข่ายผู้ก่อการร้าย

“สุเทพ” การันตี “กษิต” ไม่เข้าข่ายผู้ก่อการร้าย ระบุเป็นการตั้งข้อหาเกินไป ยันรัฐบาลไม่เข้าอุ้ม ใครผิดว่าไปตามผิด ปัดไม่เคยล็อบบี้ทหารปลด “กษิต”

(13ก.ค.) เวลา 11 .00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมเพื่อกดดันให้นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ลาออกจากตำแหน่ง ว่า
 
ตนคิดว่าพี่น้องประชาชนสามารถแยกแยะเรื่องนี้ได้ เพราะมีเหตุผลและความถูกต้องที่สามารถใช้ยึดถือเป็นบรรทัดฐาน
ซึ่งกรณีของนายกษิตนั้นเห็นว่าตั้งแต่มาเป็นรมว.ต่างประเทศได้ช่วยทำงานให้รัฐบาลตามกำลังและความสามารถและพิสูจน์ให้เห็นว่ามีความสันทัดในเรื่องกิจการต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นกำลังสำคัญของรัฐบาลได้ดีที่สุด นอกจากนี้ขณะที่นายกษิตทำหน้าที่อยู่นั้นยังไม่เห็นว่าทำอะไรบกพร่อง
 
 ส่วนที่ตำรวจออกหมายเรียกนายกษิตให้ปากคำกรณีปิดสนามบิน ตนมองว่าเป็นการไปร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาลเกือบ 1 ปี ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องที่เป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ดังนั้นจึงต้องแยกแยะเรื่องนี้ ตนถือว่าสิ่งที่ตำรวจกล่าวหาก็ควรให้นายกษิตไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามกระบวนการยุติธรรมไม่ว่าจะถูกหรือผิด รัฐบาลไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ไม่ปกป้อง ช่วยเหลือก็ไม่ได้ ซ้ำเติมก็ไม่ทำว่าทุกคดีที่เกี่ยวกับเสื้อเหลืองและเสื้อแดง รัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมอย่างแน่นอน ดังนั้นทุกคนมีสิทธิที่จะพิสูจน์ตัวเอง
 
 นายสุเทพ กล่าวว่า ทั้งนี้รัฐบาลจะวางมาตรฐานเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานว่า ต้องไม่มีใครเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมในทุกขั้นตอน ส่วนใครจะมากดดันรัฐบาลก็พร้อมยอมรับ ใครจะกดดันไม่สำคัญเพราะจะเอาความจริงมาพูดกัน และยืนยันว่าตนไม่ได้มีอคติกับใครทั้งนั้น ส่วนใครจะกล่าวร้ายป้ายสีรัฐบาล เพราะถูกกระทบและพาดพิง ตนก็จะชี้แจง จะทนเอา และไม่หวั่นเกรงใดๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามการที่ฝ่ายค้านดำเนินการเชื่อว่า ประชาชนก็เห็นว่าฝ่ายค้านทำโดยมีเป้าหมายว่า สิ่งที่เขาเรียกร้องมีเหตุผลหรือชอบด้วยเหตุผลหรือไม่
 


นายสุเทพ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามตนอยากจะชี้แจงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า
 
ตำรวจได้เรียกพี่ชายนายพร้อมพงศ์ไปสอบปากคำ เกี่ยวกับกรณีที่มีการวางระเบิด 5 จุดที่ จ.สุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่มีการสืบสวนจนได้ตัวผู้ที่นำระเบิดไปวาง และจะมีเหตุอะไรที่จะเชื่อมโยงหรือไม่เชื่อมโยงกับพี่ชายนายพร้อมพงศ์นั้นอยากเรียนว่าให้นายพร้อมพงศ์ไปตั้งสติให้ดี อย่าเอาเรื่องนี้มาโยงกับสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการเกี่ยวกับการจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน
ยืนยันว่าอะไรคือความผิดก็ต้องว่าไปตามผิด เราไม่ให้ใครไปกลั่นแกล้ง เพราะรัฐบาลนี้กับรัฐบาลของนายพร้อมพงศ์ไม่เหมือนกัน แต่ถ้ามีการพูดจาพาดพิงมาถึงตนที่ทำให้เกิดความเสียหายตนก็จะดำเนินการ ปากมีก็ให้พูดไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน แต่ถ้าพูดผิดกฎหมายเมื่อไหร่จะดำเนินการทันที
 
 ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีทหารเข้ามากดดันให้ดำเนินการปลดนายกษิต นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เคยมี เมื่อถามว่ามีข่าวว่า เรื่องนี้ไปพูดกันในวงรับประทานอาหารช่วงวันเกิดของนายสุเทพ ที่เกาะสมุย นายสุเทพ กล่าวว่า
 
ตนไม่ได้เชิญใครที่อยู่ในวงราชการหรือวงการเมืองไปร่วมงานวันเกิดของตนแม้แต่คนเดียว เพราะเป็นคนที่ไม่นิยมจัดงานวันเกิดอยู่แล้ว วันเกิดของตนคือ จะไปทำบุญที่วัดสวนโมกข์ ซึ่งไปตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา เพราะวันเกิดตรงกับวันอาสาฬหบูชา ทั้งนี้ยอมรับว่าวันเกิดตนอยู่เกาะสมุยจริงแต่เป็นการรับประทานอาหารกันในครอบครัว ยืนยันว่าไม่มีนักการเมืองแม้แต่คนเดียวไปงาน ไม่มีตำรวจ ทหารไปร่วมงานอย่างแน่นอน ส่วนข่าวที่ออกมาคิดว่า เป็นความจงใจที่จะให้เกิดความวุ่นวายปั่นป่วน ตนทำงานกับผู้ใหญ่ในวงการทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ ไม่เคยมีการก้าวก่ายในเรื่องการเมืองเลย รัฐบาลขอให้มาช่วยทำงานก็มาช่วยทำงานให้ และไม่เคยเข้ามายุ่งเรื่องการเมืองเพราะการเมืองเป็นเรื่องของการเมืองเท่านั้น ฉะนั้นคนที่เอาข่าวนี้มาปูดมีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดกัน
 
 เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีการไปพบกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม หรือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. นายสุเทพ กล่าวว่า

ตั้งแต่ต้นเดือนนี้ที่ผ่านมาตนยังไม่เคยไปนั่งพูดคุยกับบุคคลเหล่านี้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว และครั้งสุดท้ายที่ประชุมด้วยคือการประชุมเตรียมการดูแลความสงบให้กับผู้เข้าประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่ภูเก็ต โดยไม่มีเรื่องการเมือง ผู้สื่อข่าวถามว่านายกษิตระบุว่ามีทหารไปดำเนินการพูดคุยกับนายสุเทพ รองนายกฯ กล่าวว่า นายกษิตพูดเองหรือมีคนไปถาม เรื่องนี้ตนอยากขอความกรุณาให้แยกแยะ
 
 ต่อข้อถามว่ากรณีที่แกนนำพันธมิตรฯออกมาแสดงความสงสัยว่านายสุเทพ เป็นคนบงการเรื่องนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า คนที่คิดอย่างนี้น่าเวทนาที่ใช้เจตนาการในทางที่ผิด ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ เพราะเขาไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าตนกับนาย กษิต รู้จักก่อนที่พวกเขาจะรู้จักกับนายกษิตมาก่อนด้วยซ้ำ เมื่อถามว่านายกษิตติดใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมากถึงกับออกปากให้มาถามกับนายสุเทพด้วยตัวเองโดยโยงไปถึงคดีการลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล การปองร้ายนายกฯ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ได้ฟังจากนายกษิตเอง แต่มั่นใจว่า ในชีวิตนี้นายกษิตไม่มีโอกาสสงสัยตนแน่นอน เพราะรู้จักกันมาเป็นอย่างดี เคยร่วมงานกันมา และนายกษิตถือว่าเป็นมากกว่าเพื่อน
 
 เมื่อถามว่า ในเมื่อรู้จักกันดีและคิดว่านายกษิตจะมีพฤติกรรมการก่อการร้ายตามที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า

 
ไม่เป็น แต่ถ้าคนที่ใช้ปากเป็นอาวุธก็อาจจะเข้าข่ายและตั้งแต่มีเรื่องก็ยังไม่ได้คุยกับนายกษิต เพราะนายกษิตไปต่างประเทศ และนายกษิตก็ช่วยกันทำงานกันมาหลายๆ เรื่องมาแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มองว่ามีความพยายามที่จะโยงให้เห็นว่านายกษิตและกลุ่มพันธมิตรฯระแวงขั้วใหม่เพราะมีชื่อของนายสุเทพไปเป็นตัวละครอยู่ในนั้น รองนายกฯ กล่าวว่า ตนเข้าใจเรื่องนี้ดี แต่อยากให้ไต่รตรองให้ดี สมมุติว่าไม่มีชื่อนายกษิตอยู่ในบัญชีผู้ถูกกล่าวหาก็ต้องตำหนิตนอยู่แล้วว่า ตนช่วยนายกษิต แต่พอมีชื่อนายกษิต อีกข้างก็บอกว่า นายสุเทพ เล่นงานกษิต ดังนั้นจึงเข้าใจว่า ไม่
ว่าจะออกซ้ายหรือออกขวาก็โดนตนอยู่แล้ว แต่ความตั้งใจของตนแน่วแน่อยู่แล้วว่าผิดก็คือผิด ไม่ผิดก็คือไม่ผิด ถ้านายกษิตผิดก็ต้องรับโทษเป็นธรรมดา แต่ตนคิดว่าการตั้งข้อหาก่อการร้ายมันรุนแรงเกินเหตุ เหมือนกรณีหลายๆ อย่างที่เคยเกิดขึ้น ไม่ใช่การก่อการร้าย แต่ถ้าผิดในกฎหมายอื่นก็ว่าไป ไม่ได้หมายความว่าไม่ผิดต่อการร้ายแล้วจะไม่ผิดต่อกฎหมายอื่นก็ไม่ใช่
 
 นายสุเทพ กล่าวว่า
 
ทั้งนี้มองว่าการที่รัฐบาลจะทำงานถูกใจใครหรือไม่ถูกใจใครไม่สำคัญ แต่สำคัญที่ประชาชนได้เห็นข้อเท็จจริงทั้งหมด เพราะระบอบประชาธิปไตยต้องเชื่อเสียงประชาชนส่วนใหญ่ รัฐบาลนี้ไม่ได้ทุจริต คอรัปชั่น ไม่ได้ใช้อำนาจบาตรใหญ่หรือไปอุ้มฆ่าใครและบริหารบ้านเมืองตามหลักยุติธรรม ฉะนั้นจึงไม่ต้องไปกลัวใคร ถูกใจใครหรือไม่ถูกใจใครก็ช่วยไม่ได้ เพราะเราทำเอาประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่าจะบอกให้กลุ่มพันธมิตรฯสบายใจ ที่เคยร่วมงานกันอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า
ตนไม่เคยร่วมงานกับกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่เคยสนับสนุน ส่งเสริม หรือขัดแย้งกับพันธมิตรฯ แต่ถ้าใครรู้สึกว่า ตนทำหน้าที่และไปทำให้ใครไม่สบายใจ ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ความตั้งใจ แต่อยากให้มองว่าทำตามหน้าที่ ใครจะด่าถือเป็นเรื่องธรรมดา
 
 ผู้สื่อข่าวถามว่านายคำนูน สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ฟันธงว่าพรรคประชาธิปัตย์จะโหนกระแสสังคมและสุดท้ายจะเขี่ยนายกษิตทิ้ง นายสุเทพ กล่าวว่า

ไม่เคยได้ยินนายคำนูนพูดเช่นนั้น แต่ถ้านายคำนูนพูดออกมาจริงๆ ก็ถือว่าน่าเสียดายเพราะนายคำนูนก็เป็นคนที่มีชื่อเสียง พูดจาอะไรก็เป็นเรื่อง เป็นราว แต่วันนี้เกิดพูดอะไรที่ไม่เป็นเรื่องเป็นราวก็น่าเสียดาย

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์