เต้นชี้ปชต.ต้องเป็นสากลซัดบวรศักดิ์ทำถอยหลัง

กล่าวผ่านรายการเข้าใจตรงกันนะถึงการอภิปรายรัฐธรรมนูญร่างแรกของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมาตอนหนึ่งว่า คำว่าประชาธิปไตยต้องไม่ใช่ประชาธิปไตยของประเทศหนึ่งประเทศใดเป็นการเฉพาะประชาธิปไตยเป็นรูปแบบการปกครองที่เปิดโอกาสให้มนุษย์มีส่วนร่วมในการกำหนดอำนาจและทิศทางของตัวเองผ่านวิวัฒนาการไปมา ประชาธิปไตยจึงเป็นเรื่องของสากล ไม่ว่ากี่ชาติ กี่ภาษามีหลักใหญ่จับต้องได้ อธิบายตรงกัน   

ถ้าเป็นแบบนี้ประเทศไทยจะถอยหลังไปอีกหลายสิบปีแล้วเราจะได้การเมืองหลังการเลือกตั้งที่เป็นเรื่องของนักการเมืองเฉพาะในสภาชิงไหว ชิงพริบ ต่อรอง เล่นเกมอำนาจ เล่นเกมประโยชน์ เหมือน 30-40  ปีที่แล้ว โยกไปดึงมา สักพักยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่และนโยบายต่าง ๆ ของพรรคที่ประกาศหาเสียงไว้กับประชาชนแทบไร้ความหมายผลักดันไม่ได้เพราะแต่ละพรรคไล่ ๆ กัน หากรัฐบาลได้ 7 พรรค 6 กลุ่มเป็นรัฐบาล จะดันนโยบายอย่างไร จะถอยหลังกลับไปเอาแผนสภาพัฒน์ฯมาทำเป็นโยบายรัฐบาล

“พอเป็นแบบนั้นความหมายคือการขับเคลื่อนกลไกในการพัฒนาประเทศตกอยู่ในมือกลไกราชการจึงเป็นรัฐราชการโดยสมบูรณ์แบบ ภายใต้กรอบความคิดอนุรักษ์นิยม จะให้คนขานรับชูมือสุดคาดหวังไปหรือไม่ คนบนเรือแป๊ะบางคนบอกอย่าไปฟังนักการเมืองมากเพราะเขาเสียประโยชน์นึกถึงแต่วิธีเข้าสู่อำนาจ เรื่องนี้ไม่ใช่ แต่เป็นปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น ถ้ารัฐธรรมนูญออกมาแบบนี้เราจะหาอำนาจประชาชนไม่เจอว่าอยู่ตรงไหนรัฐบาลทำอะไรไม่ได้ เป็นรัฐบาลผสมรอวันยุบสภา รอวันมีอันเป็นไป เพราะมีวุฒิสภาคุมอำนาจฝ่ายบริหารชัดเจนส.ส.ที่มาก็ไม่ใช่ตัวแทนอำนาจของประชาชนแท้จริง เพราะมีบทบาทจำกัด”นายณัฐวุฒิ กล่าว.