เตือนสติปูไม่ควรทูลเกล้าฯรธน. ชี้เป็นนายกฯไม่ใช่ประธานาธิบดี

เตือนสติปูไม่ควรทูลเกล้าฯรธน. ชี้เป็นนายกฯไม่ใช่ประธานาธิบดี

2 ต.ค.56  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ ในเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกวุฒิสภา นำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่1 ต.ค.ว่า ขอเรียกร้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ทบทวนการนำ ขึ้นทูลเกล้าฯ เนื่องจากเป็นร่างกฎหมายที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการตรากฎหมายว่า อาจไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ  และฝ่ายค้านได้ยื่นให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามมาตรา 154 แล้ว

ปธ.วิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า นายสมศักดิ์ ไม่มีหน้าที่ใช้ดุลพินิจว่าจะไม่ส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญ
 
โดยอ้างว่าศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยกรณีนี้ในสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ เพราะประเด็นข้อเท็จจริงแตกต่างกัน ผู้ที่มีอำนาจวินิจฉัยคือศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่ประธานรัฐสภา เนื่องจากกระบวนการพิจารณาชัดเจนว่าเนื้อหาไม่ชอบ มีการกดบัตรแทนกัน และปลอมร่างตั้งแต่ที่เสนอเข้าสู่สภาและร่างที่เข้าสภาในตอนรับหลักการเป็นคนละร่างกัน การไม่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็ถือว่าประธานรัฐสภาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่ขอพูดล่วงหน้าว่าจะยื่นถอดถอนซ้ำเป็นครั้งที่สามหรือไม่ ขณะนี้หนังสือที่ยื่นไปประธานรัฐสภาก็ยังไม่ทำอะไร ถือว่าช้าแล้ว เพราะเป็นสองมาตรฐาน

นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า ยังเตรียมที่จะยื่นหนังสือถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้ขอทบทวนเรื่องที่มีการทูลเกล้าฯ แล้ว

โดยสามารถขอเรื่องกลับมาได้ เพราะเพิ่งส่งเรื่องขึ้นทูลเกล้าเมื่อวันที่ 1 ต.ค.56 หรือแม้แต่ในวันที่ 3 ต.ค.56 ก็ยังอยู่ในวิสัยที่จะถอนเรื่องกลับมาได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากการนับกรอบเวลา 20 วันที่ต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯตามรัฐธรรมนูญนั้นเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.2556 วันครบกำหนด 20 วัน คือ วันที่ 17 ต.ค.2556 แต่ขณะนี้เพิ่งเข้าวันที่ 1 ต.ค.นายกฯ ก็ทูลเกล้าแล้ว ทั้งที่ยังมีเวลา

“แสดงให้เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีเจตนาเร่งรัดทูลเกล้าฯ โดยไม่สนใจต่อคำทักท้วงของฝ่ายต่างๆ และไม่สนใจศาลรัฐธรรมนูญที่กำลังวินิจฉัยอยู่ว่าคดีมีมูลโดยรับคำฟ้องตามมาตรา 68 ไปแล้ว ทั้งนี้หากนายกฯยังเดินหน้าต่อก็ต้องรับผิดชอบต่อปัญหาที่จะเกิดขึ้นด้วย จะอ้างว่าเป็นฝ่ายบริหารมีหน้าที่ส่งตามที่ฝ่ายนิติบัญญัติเสนอมาไม่ได้ เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นส.ส.และได้ร่วมลงมติเห็นชอบในวาระ 3 ด้วย จึงต้องเข้าใจว่าระบอบประชาธิปไตยของไทยไม่ใช่ระบบประธานาธิบดีที่ฝ่ายบริหารแยกออกจากฝ่ายนิติบัญญัติ”
 


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์