เติ้งเลี้ยงหูฉลามทักษิณ อ้างส่วนตัวไม่เกี่ยวฝ่ายค้าน

"เติ้ง"เลี้ยงหูฉลาม"ทักษิณ" อ้างส่วนตัวไม่เกี่ยวฝ่ายค้าน

เติ้งรับเลี้ยงหูฉลามน้องแม้วก่อนไปนอก เชื่อพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่เข้าใจ เป็นเรื่องส่วนตัว จี้เร่งปฎิรูป-เลือกตั้งเร็วสุด ระบุแม้วมีนายกฯนอมินีอยู่ในใจ แต่หาทางเปิดสภาให้ได้ก่อน จวกกกต.เลือกปฎิบัติตัดสิน แม้วไม่ผิด

(11เมษายน) นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยให้สัมภาษณ์กรณีที่จะรับประทานอาหารร่วมกับนายกฯซึ่งนายกฯระบุว่าตกงานแล้วคงไม่มีใครเลี้ยงว่า ไม่เป็นไรตนจะเลี้ยงท่าน ก่อนไปต่างประเทศ กำลังจะนัดอยู่ ภายใน 1-2 วันอีก จะเลี้ยงท่านเอง เพราะมีเรื่องที่จะคุยกับนายกฯมาก ต่อข้อถามว่ากลัวหรือไม่ว่าคุยกันแล้วพอออกไปข้างนอกนายกฯก็จะเปลี่ยนท่าทีอีก นายบรรหาร กล่าวว่า ตอนนี้มันจบแล้ว ไม่มีอะไรที่กลัวว่าจะเปลี่ยนแปลง เพราะไม่ได้ตกลงอะไรกัน การเลือกตั้งผ่านไปแล้ว เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวอะไร แต่จะคุยกันในเรื่องกว้างๆ จะคุยว่าอะไรถูกต้องไม่ถูกต้อง มันควรเป็นอย่างไร บางอย่างก็จะให้ข้อคิดกับท่าน ทำอย่างไรถึงจะอยู่อย่างสุขกายสบายใจ ไม่ทนทุกข์ทรมาน

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าเมื่อเสนอแนะอะไรนายกฯจะรับฟัง นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่เกี่ยวตนไม่ได้เสนอแนะอะไร เป็นเพียงให้ข้อคิดเท่านั้นเอง ส่วนท่านจะทำตามหรือเปล่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านก็คงไม่ว่าหวาดระแวงอะไร คนละเรื่องกัน นี่เป็นเรื่องส่วนตัว เมื่อถามว่าเป็นการรับประทานอาหารฉันท์พี่น้อง นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่รู้ซิ จะเป็นหรือเปล่าก็ไม่รู้

ส่วนกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เปลี่ยนแปลงการจัดคูหาเลือกตั้งกลับไปเหมือนเดิม นายบรรหาร กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีควรจะเปลี่ยนไปเหมือนเดิม กกต.คงจะฟังเสียงคนที่ไปลงคะแนนที่บอกว่าจะให้เห็นเบอร์ผู้สมัครอย่างชัดเจนคงไม่ถูกต้อง กลายเป็นมองเห็นว่าผู้ไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนให้เบอร์ไหน เพราะฉะนั้นเมื่อกลับไปเหมือนเดิมก็หมดปัญหา เมื่อถามว่ามีการรับสมัครใหม่โดยให้ผู้สมัครเปลี่ยนเขตสมัครใหม่ได้ นายบรรหาร กล่าวว่า ตรงนี้ทำไมมันวุ่นวายกันอย่างนี้ เมื่อวิ่งรอกสมัครพอเขตนี้ไม่ได้ก็ย้ายไปสมัครเขตเลือกตั้งใหม่ แต่เขาก็อ้างว่าไม่มีกฎหมายห้ามไว้ อยู่ดุลยพินิจที่กกต.อ้างว่าทำได้ แต่มันถูกต้องชอบธรรมหรือไม่ตอบไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่พันธมิตรประชาชาชนเพื่อประชาธิปไตยยื่นหนังสือถึงกกต.ให้สอบสวนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคชาติไทย กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง 4 ประเด็น ซึ่งกกต.ชี้ว่าไม่มีความผิด นายบรรหาร กล่าวว่า เมื่อกกต.บอกว่าไม่ผิดก็ถือว่าไม่ผิด เพราะกกต.เป็นใหญ่ คนที่ให้ใบเหลือง ใบแดงก็คือท่าน เมื่อท่านบอกว่าไม่ผิดจะไปทำอะไรได้ เมื่อเลือกตั้งครั้งก่อนฝ่ายรัฐบาลไปหาเสียงแบบนี้กกต.ก็บอกว่าไม่ผิด แต่ถ้าเป็นฝ่ายค้านไปหาเสียงก็อาจจะผิดก็ได้เมื่อถามว่าพฤติกรรมกกต.น่าไว้วางใจหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวสั้น ๆว่าน่าเป็นห่วง

เมื่อถามทางพรรคไทยรักไทยจะเปลี่ยนแนวทางการปฎิรูปการเมืองที่นายโภคิน พลกุล รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เคยเสนอให้ใช้รูปแบบสภาสนามม้าเป็นไปปรึกษาพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นายบรรหาร กล่าวว่า คิดว่าไม่ใช่ เป็นการพูดไปเท่านั้นเอง เพราะถ้าเป็นแนวทางนี้ยิ่งไปกันใหญ่ อย่างนี้ 1 ปีก็ไม่เสร็จ ความจริงรัฐธรรมนูญแก้ไม่ยาก โดยแก้ไม่กี่ข้อที่เป็นประเด็นปัญหา ส่วนใหญ่รัฐธรรมนูญดีอยู่แล้ว แต่มีบางประเด็นเช่นการปลดล็อค 90 วัน ให้ส.ว.หาเสียงได้ ระบบบัญชีรายชื่อไม่ต้องถึง 5 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งผู้รับเลือกตั้งต้องได้คะแนน 20 เปอร์เซ็นต์ ถ้าจะแก้กันจริง ๆใช้เวลาไม่เกิน 3-4 เดือน หรือย่างมาก 1 ปี ก็เสร็จ แล้วเลือกตั้งกันใหม่ แต่ถ้าเป็นสภาสนามม้าตนคิดว่าไม่เสร็จ อย่างไรก็ตามจะต้องเร่งรัดการปฎิรูปการเมือง เพราะมีสภาเพียงพรรคเดียวอย่างนี้ไม่ได้

เมื่อถามต่อว่าเป็นเกมของพรรคไทยรักไทยเพื่อดึงเวลาหรือไม่ หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า ตอนนี้ดึงเวลากันไม่ได้แล้ว มันต้องเร่งรัดแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วเลือกตั้งให้เร็วที่สุด ปล่อยให้สภามีพรรคเดียวไม่ได้ ส่วนจะเป็นรูปแบบไหนคงตอบไม่ได้ แต่ขอให้ดำเนินการให้เร็วที่สุดก็แล้วกัน เมื่อถามว่ากระบวนการที่เป็นกลางที่สุดควรจะเป็นอย่างไร นายบรรหาร กล่าวว่า คงต้องไปคิดกันอีกที แต่ตนไม่ใช่คนคิด

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ไปเรียกร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ นั้นจะเกิดความสมานฉันท์ได้หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า เห็นมีการร้องต่อศาลปกครองอยู่ในขณะนี้ คงต้องรอฟังผลก่อน เมื่อถามว่าเป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตยหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า จะว่าใช่ก็ใช่ จะว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่ เพราะกระบวนการประชาธิปไตยมันก็เป็นอย่างนี้ไม่ได้ แต่ก็เป็นไปได้ถ้าจะตีความกัน มันก็ไม่เคยมี

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องนายกฯคนใหม่ หากทิ้งเวลาไปนานจะมีปัญหาหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า คนที่จะมาเป็นตัวแทนเข้าใจว่านายกฯมีอยู่ในใจแล้ว แต่ท่านไม่พูดเท่านั้นเอง ท่านคงรอดูว่าจะเปิดสภาได้หรือเปล่า ถ้าเลือกตั้งรอบใหม่ในวันที่ 23 เม.ย.ไม่จบมันก็ต้องต่อไปอีก อาจจะมีการยื่นศาลปกครอง และเลยไปถึงเดือนพฤษภาคม เพราะฉะนั้นตัวนายกฯคงจะกำหนดไม่ได้ ต้องรอดูว่าจะเปิดสภาได้เมื่อไหร่ก่อน เมื่อถามว่าหากสภาเปิดไม่ได้อาจจะกลับเข้าไปสู่ช่องทางใช้มาตรา 7 หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า รอให้ถึงตรงนั้นค่อยว่ากันอีกที ขณะนี้ยังไปไม่ถึง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์