เติ้งความดันขึ้นเข้านอนรพ.สมชายตามจีบถึงเตียง

"สมัคร" ฉุน "เติ้ง" ดูหมิ่น ลั่นไม่ต้องมาสั่งสอนเรื่องความจงรักภักดี ยกประวัติบรรพบุรุษรับใช้สถาบันตั้งแต่สมัย ร.5

แกนนำพรรคพลังประชาชนแสดงท่าทีไม่พอใจและออกมาตอบโต้นายบรรหารศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ภายหลังจากเมื่อค่ำวันที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายบรรหาร ศิลปอาชา พร้อมด้วยนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน มีมติร่วมกันให้ยื่น 5 ข้อเสนอต่อพรรคพลังประชาชน ในการเข้าร่วมรัฐบาล

ข้อเสนอของพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินเมื่อคืนวันที่ 27 ธันวาคม ทั้ง 5 ข้อ ได้แก่ 1.จะต้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์และจะล่วงละเมิดมิได้ และจะต้องทำความกระจ่างให้ชัดว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่สูงสุด 2.พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ถือเป็นรัฐบุรุษที่สูงที่สุดในบรรดาผู้คนทั้งหลายและเป็นที่เคารพของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ จะต้องรักษาไว้และไม่ก้าวล่วง 3.จะต้องไม่ล้างแค้นซึ่งกันและกัน เพราะหากมีการล้างแค้นเกิดขึ้นก็จะเกิดการล้างแค้นไม่สิ้นสุด 

4.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยต้องไม่มีการแทรกแซงและก้าวก่าย และ 5.คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) จะต้องไม่ยุบ ไม่ยกเลิกและต้องไม่ไปแตะต้อง 

ทั้งนี้เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 28 ธันวาคม นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนและนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค แถลงข่าวร่วมกันถึงจุดยืนของพรรคที่มีต่อเงื่อนไข 5 ข้อของพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน 

นายสมัครแถลงว่า ตนชื่อ "สมัคร" เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน การที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ออกมายื่นเงื่อนไข 5 ข้อ โดยเฉพาะข้อแรกในเรื่องของสถาบันนั้น เหมือนกับเป็นการดูหมิ่นตนและพรรคพลังประชาชนว่า ไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน ทั้งๆ ที่นายบรรหารรู้จักกับตนมานาน แต่ไม่ศึกษาประวัติตระกูลของตน ซึ่งบรรพบุรุษของตนรับใช้สถาบันมานานตั้งแต่รัชกาลที่ 5

"ตระกูลผมรับราชการสนองพระเดชพระคุณมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 คุณตาผมมหาเสวกตรี พระยาอนุศาสน์จิตรกร (จันทร์ จิตรกร) เป็นพระยาจางวาง เป็นจิตรกรประจำพระราชสำนักรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 คุณลุงผม มหาเสวกตรี พระยาแพทยพงศาวิสุทธาธิบดี (สุ่น สุนทรเวช) เป็นแพทย์ประจำพระองค์รัชกาลที่ 6 คุณพ่อผมชื่อ พระยาบำรุงราชบริพาร (เสมียน สุนทรเวช) เป็นข้าราชการในรัชกาลที่ 6 คุณลุงผมอีกคน จมื่นเทพดรุณาทร นามสกุล กัลยาณมิตร หรือ เปรื่อง กัลยาณมิตร คุณอาผม จมื่นอมรดรุณารักษ์ (แจ่ม สุนทรเวช) ตระกูลผมรับสนองพระเดชพระคุณมา ผมนี่ล่ะไม่ได้รับราชการ แต่เป็นนักการเมืองก็มีโอกาสได้สนองพระเดชพระคุณทุกครั้งที่ผมได้เป็นรัฐมนตรี ผมเป็นมาแล้ว 5 หน รองนายกฯ อีก 2 หน เป็นรัฐบาลมาแล้ว 8 ครั้ง เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2545 ผมได้รับพระราชทานตราทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) นี่ครั้งหลังสุดเป็นอย่างนี้ ที่พูดก็อยากจะบอกคุณบรรหาร ศิลปอาชา ว่า คุณบรรหารนั้นควรจะแหงนขึ้นมาดูที่หน้าอกผมด้วย ว่าผมนั้นได้ตราจุลจอมเกล้าสูงกว่าคุณบรรหาร เพราะฉะนั้นคนอย่างคุณบรรหารไม่ต้องมาอบรมสั่งสอนผมถึงเรื่องความจงรักภักดีในสถาบันพระมหากษัตริย์" นายสมัคร กล่าว 

นายสมัครยังกล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์มากว่าพรรคพลังประชาชนจะตามเช็กบิล คมช.และ คตส.ว่า ยืนยันว่าไม่คิดจะทำเช่นนั้น เพราะต้องการตอบแทนและสนองพระเดชพระคุณ ซึ่งมีพระราชกระแสรับสั่งให้คนในประเทศปรองดองกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสมัครได้นำภาพที่สวมชุดเต็มยศที่ติดตราจุลจอมเกล้ามาตั้งระหว่างการแถลงข่าว โดยมีสีหน้าและอารมณ์หงุดหงิด และปฏิเสธที่จะตอบคำถามโดยอ้างว่าไม่สบาย เจ็บคอ


"หมอเลี้ยบ" ชี้ 5 เงื่อนไขคนละประเด็นกับการร่วมรัฐบาล

จากนั้นนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค ได้อ่านแถลงการณ์เพื่อตอบโต้เงื่อนไข 5 ข้อของพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน พร้อมยืนยันว่า เงื่อนไขดังกล่าวไม่ควรจะมาเป็นข้อต่อรองในการเข้าร่วมรัฐบาล หลังจากนี้ก็ให้สิทธิพรรคชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดินว่าจะมาร่วมงานการเมืองด้วยหรือไม่ 

นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า เงื่อนไขทั้ง 5 ข้อเพื่อเข้าร่วมรัฐบาลนั้นพรรคพลังประชาชนมีความเห็นว่า ข้อแรก ในเรื่องของการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเรื่องของความผูกพันที่ในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทยจะต้องมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว และในฐานะพรรคการเมืองก็มีหน้าที่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน

ส่วนข้อที่2 เรื่องของประธานองคมนตรีนั้น คณะองคมนตรีมีหน้าที่ในการถวายความเห็นต่อพระมหากษัตริย์ ในพระราชกรณียกิจทั้งปวงที่ทรงปรึกษา องคมนตรีทุกท่านจึงต้องอยู่ในฐานะที่สูงกว่าทางการเมือง และจะต้องเป็นกลางทางการเมืองอย่างเคร่งครัด ทุกพรรคการเมืองจะต้องให้ความเคารพคณะองคมนตรี ไม่แต่เฉพาะ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เท่านั้น ยังรวมไปถึงองคมนตรีทุกท่าน ซึ่งพรรคจะไม่ยอมให้ใครนำสถาบันองคมนตรีไปกล่าวอ้างในทางที่มิชอบโดยเด็ดขาด 

3.เรื่องต้องไม่มีการล้างแค้นซึ่งกันและกัน พรรคพลังประชาชนเห็นว่าเมื่อมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 แล้ว บุคคลทั่วไปย่อมได้รับการคุ้มครองทางสิทธิและเสรีภาพตามกฎหมาย การใช้อำนาจที่ล่วงละเมิดกำหนดกฎเกณฑ์กติกาของบ้านเมือง ก็จะต้องถูกตรวจสอบโดยองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญและประชาชน ซึ่งนโยบายของพรรคพลังประชาชนจะยึดพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสร้างความปรองดองกับทุกฝ่าย เพื่อให้ประเทศชาติลุล่วงเจริญก้าวหน้า

4.เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของไทยโดยปราศจากการแทรกแซงอำนาจของศาล พรรคพลังประชาชนเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง สิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ จะต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่มีบุคคลใดอยู่เหนือกฎหมาย เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกกล่าวหาไม่ว่าอยู่ในกระบวนการยุติธรรมขั้นตอนใด เป็นเรื่องอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะต้องพิจารณาโดยอิสระ และให้ความยุติธรรม พรรคพลังประชาชนเห็นพ้องด้วยว่า ไม่ควรจะมีบุคคลหรือพรรคการเมืองใดเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าขั้นตอนใดให้เบี่ยงเบนไปในทางที่มิชอบ 

5.กรณีต้องไม่ยกเลิก คตส. พรรคเห็นว่ามีความเข้าใจผิดกันว่า เมื่อยกเลิก คตส.แล้วคดีทุกคดีที่ คตส.พิจารณาอยู่จะยุติไป ความเข้าใจผิดนี้ทำให้พรรคการเมืองบางพรรคและประชาชนส่วนใหญ่สับสน ซึ่งความจริงแล้วหากการกระทำของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นความผิด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีอำนาจดำเนินคดีสอบสวนได้ ดังนั้น คดีทุกคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของ คตส.จะต้องดำเนินการต่อไป จนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการยุติธรรม การยกเลิก คตส.จึงไม่เป็นประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ 

"แม้ว"สาบานจงรักภักดีสถาบันกษัตริย์

วันเดียวกันเวลา 11.00 น. ที่โรงแรมเรดิสัน นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดแถลงข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกแถลงการณ์ 1 ฉบับ 6 ข้อ จำนวน 2 หน้า เพื่อชี้แจงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการทำใบปลิวโจมตีสถาบัน

เนื้อหาในแถลงการณ์เป็นการยืนยันในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และไม่เคยคิดกระทำการใดๆ หรือสนับสนุนให้มีการกระทำที่กระทบต่อสถาบัน จึงขอสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านเมืองว่า จะจงรักภักดีต่อสถาบัน 

"หากผิดคำปฏิญาณสาบาน ขอให้ผมและครอบครัวมีอันเป็นไป ไม่มีความเจริญและไม่มีความสุขในชีวิต หากยึดมั่นปฏิบัติตามคำปฏิญาณสาบานตน ก็ขอให้ผมและครอบครัวมีความสุขความเจริญต่อไป" แถลงการณ์ระบุ 

นายนพดลกล่าวย้ำว่า ในการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชาชน เป็นเรื่องของนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค ตามที่กรรมการบริหารพรรคมีมติมอบหมายให้เป็นผู้เจรจา เพราะหากคุยเรื่องนี้ก็อาจถูกหาว่าเป็นนอมินีสั่งได้ หรือนำโผ ครม.ไปส่งที่ฮ่องกง

เมื่อถามว่ากรณีเหตุลอบสังหารนางเบนาซีร์ บุตโต อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน จะเป็นเหตุให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ตัดสินใจไม่เดินทางกลับหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ไม่มีผลกระทบ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นห่วงการลอบสังหารผู้นำในทุกที่ และเป็นห่วงกระบวนการประชาธิปไตยที่หยุดชะงัก อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นคนเก็บขยะหรืออดีตนายกฯ หน่วยงานของรัฐต้องดูแลอย่างเท่าเทียมกัน ยังมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารมีศักยภาพพอ และคิดว่าคนไทยคงไม่เลือกใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา 

นายนพดลยืนยันด้วยว่าพรรคยืนยันจะไม่มีการเช็กบิลหรือตามแก้แค้น และดำเนินการใดๆ ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญบนพื้นฐานความปรองดองในระบอบประชาธิปไตย 


ชท.ชี้ข้อยังไม่ใช่เงื่อนไขร่วมรัฐบาล

เมื่อเวลา12.15 น. พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ร่วมกันแถลงข่าวว่า ข้อเสนอ 5 ประเด็นของพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน ไม่ใช่เงื่อนไขที่จะเข้าร่วมรัฐบาล แต่เป็นแนวทางที่พรรคเชื่อมั่นว่า จะนำสังคมกลับคืนสู่ภาวะปกติยุติปัญหาความขัดแย้งของคนในชาตินำสู่ความสมานฉันท์ และจะนำความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมให้เกิดขึ้นในอนาคต

ผู้สื่อข่าวถามว่าข้อเสนอดังกล่าวได้ประสานกับพรรคพลังประชาชนหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยัง เพียงแต่ได้นำเสนอไปเป็นแนวทางเท่านั้น แต่คาดว่าจะมีการแสดงออก หรือคำตอบอย่างใดอย่างหนึ่งหลังปีใหม่ ดังนั้น ตอนนี้คงต้องรอคำตอบจากพรรคพลังประชาชนว่ามีความเห็นสอดคล้องกับเราหรือไม่

ด้านพล.ต.สนั่น กล่าวถึงกรณีที่มองว่า หากภายหลังพรรคพลังประชาชนไม่ปฏิบัติตามข้อเสนอ จะทำอย่างไรว่า อะไรก็ประกันไม่ได้ทั้งนั้น ใครจะไปรับประกันให้คนอื่นได้ แต่ถ้าเป็นตัวเองก็รับประกันได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าไม่ทำตามข้อเสนอพรรคชาติไทย จะแสดงสปิริตลาออกหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ถ้าผิดไปจาก 5 ข้อ เราก็ไม่ร่วมอยู่แล้ว แต่ถ้าร่วมรัฐบาลไปแล้วก็เป็นเรื่องของอนาคต ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกที เมื่อถามย้ำว่าจะต้องมีการทำสัตยาบันกันหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า เป็นข้อเสนอไม่ใช่เงื่อนไข ซึ่งพรรคชาติไทยก็ยินดีที่จะร่วมรัฐบาล ไม่มีข้อเรียกร้อง เพียงแต่เสนอแนวทางในการทำงานเท่านั้น จากนี้ไปก็ไม่มีข้อเสนออะไรอีก พูดกันครั้งเดียวก็จบ

หาม"เติ้ง"ส่งรพ.ความดันโลหิตสูง

ส่วนที่บ้านริมน้ำซอยนนทบุรี 5 ของนายสุชาติ ตันเจริญ อดีตกรรมการสภานโยบายยุทธศาสตร์พรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดบ้านเลี้ยงอาหารค่ำบรรดาแกนนำพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งประเมินสถานการณ์ทางการเมือง โดยมีนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ แกนนำพรรคชาติไทย นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำกลุ่มโคราช นายรณฤทธิชัย คานเขต ว่าที่ ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อแผ่นดิน เข้าหารือ

ทั้งนี้นายบรรหารเดินทางมาถึงก่อนเวลาและเดินชมบริเวณบ้าน พร้อมกล่าวชมว่า บ้านสวยบรรยากาศดี นายบรรหารใช้เวลาอยู่บ้านนายสุชาติไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงและเดินทางกลับซึ่งก่อนจะขึ้นรถ นายบรรหารพูดคุยกับ พล.ต.สนั่น และนายสมศักดิ์ เหมือนฝากข้อความบางอย่างเอาไว้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่นายบรรหารพร้อมนายวราวุธ ออกจากบ้านริมน้ำของนายสุชาติแล้ว นายบรรหารเดินทางไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลรามาธิบดี หลังจากการเข้าพบแพทย์ แพทย์ได้สั่งให้นายบรรหารนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 

นายวราวุธกล่าวว่า นายบรรหารรู้สึกปวดหัวตั้งแต่ช่วงเช้าเนื่องจากตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ทำงานหนักและพักผ่อนน้อย สาเหตุที่นายบรรหารต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพราะมีความดันโลหิตสูง เนื่องจากในช่วงเลือกตั้งนายบรรหารโหมช่วยลูกพรรคหาเสียงมาโดยตลอด และแพทย์เห็นว่าควรให้นายบรรหารรักษาตัว


 "สมชาย" จีบ "บรรหาร" ถึงเตียงคนไข้เผย

เมื่อเวลา 20.30 น. แกนนำพรรคพลังประชาชน นำโดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กรรมการบริหารพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ และนายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ เดินทางนำกระเช้าผลไม้มาเยี่ยมนายบรรหาร  โดยเข้าเยี่ยมประมาณ 30 นาที นายสมชายให้สัมภาษณ์ว่า ที่มาเยี่ยมในนามตัวแทนพรรคเพราะนายบรรหารเป็นผู้หลัก ผู้ใหญ่ที่นับถือ  พร้อมกับมาเรียนเชิญชวนนายบรรหารให้เข้าร่วมรัฐบาลกับพลังประชาชน เชื่อว่านายบรรหารจะมาช่วยสร้างรัฐบาลให้มั่นคงขึ้น

ส่วนที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน พูดในวันนี้พวกตนไม่รู้เรื่อง อย่างไรก็ตามนายบรรหาร ยังไม่รับปากว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ เพียงแต่บอกว่าวันพรุ่ง(29ธ.ค.) นี้จะแถลงให้สื่อรับทราบเอง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทุกอย่างคงจะดำเนินไปได้ด้วยดี

"สมศักดิ์"สวด"หมัก"กินปูนร้อนท้อง

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายสมัครกล่าวพาดพิงนายบรรหาร ว่าได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงกว่า ว่า ต้องแยกส่วนกัน เพราะมันเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของนายสมัคร ไม่ใช่ความเห็นของพรรคพลังประชาชน ซึ่งเชื่อว่าจะไม่ทำให้เรื่องต่างๆ บานปลาย กลายเป็นความขัดแย้งระหว่างสองพรรค ยืนยันว่า ข้อเสนอทั้ง 5 ข้อ ไม่ได้พูดถึงเรื่องของตัวบุคคล ไม่ได้ระบุว่า ใครไม่จงรักภักดี จึงไม่ทราบว่า เพราะเหตุใด นายสมัครจึงต้องกินปูนร้อนท้อง ไม่อยากให้สังคมเข้าใจผิดว่า คนที่มีเครื่องราชฯ เท่านั้น จึงจะมีความจงรักภักดี เพราะไม่ได้อยู่ที่ว่าใครอยู่ในตระกูลสูงหรือต่ำ แต่อยู่ที่จิตใต้สำนึกของแต่ละคน

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าคิดว่าพรรคพลังประชาชน จะปฏิบัติตามข้อเสนอทั้ง 5 ข้อหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คิดว่า นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองหัวหน้าพรรค พูดแล้ว ก็น่าจะเป็นสิ่งที่เชื่อถือได้ เพราะการพูดทุกอย่างต่อหน้าสาธารณชน คือพันธะอย่างหนึ่ง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์