เติ้ง ไม่เชื่อ แม้ว วางมือ ห่วงกลับไทยยากแน่

เติ้งไม่เชื่อ "แม้ว" วางมือ ห่วงโอกาสกลับไทยยากขึ้น

นายบรรหาร ศิลปอาชา


นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าววันนี้ (17 ม.ค.) ถึงมาตรการตอบโต้ทางการทูตสิงคโปร์ กรณีรองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เปิดโอกาสให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าพบ ว่า แม้การเข้าพบกันดังกล่าว จะเป็นเรื่องส่วนตัว

ก็ถือว่าไม่เหมาะสม เพราะการเดินทางไปมาในประเทศต่างๆ สร้างความหวาดระแวงให้กับรัฐบาล และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และยังขัดกับคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ระบุว่า จะวางมือทางการเมือง

"ท่านพูดอะไรผมไม่เชื่อเลยเดี๋ยวนี้ วันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้พูดอีกอย่าง เมื่อท่านบอกจะละมือทางการเมือง ผมก็เห็นด้วย แต่การที่ท่านบินไปบินมา ไม่รู้ว่าเพื่ออะไร ผมเป็นห่วงโอกาสจะกลับเมืองไทยไม่ง่าย จะยากขึ้น"

นายบรรหาร กล่าว

หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า หากมีโอกาสจะโทรศัพท์ไปพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อขอให้หยุดการเคลื่อนไหวดังกล่าวด้วย และเห็นด้วยกับมาตรการโต้ตอบของกระทรวงการต่างประเทศ ตอนนี้พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. ต้องเหนื่อยหน่อย


นายบรรหาร กล่าวถึงผลสำรวจความนิยมรัฐบาล ที่ลดลงจากเดิม ว่า

นายบรรหาร ศิลปอาชา


รัฐบาลควรต้องปรับปรุงการทำงานของกระทรวงต่างๆ ให้มีความฉับไวมากกว่าเดิม ซึ่งหากนายกรัฐมนตรี ไม่คิดจะปรับคณะรัฐมนตรี รัฐบาล

ก็ควรปรับเปลี่ยนการทำงานให้กระชับ และสามารถทำงานเชิงรุกมากขึ้นกว่าเดิม โดยเสนอให้เพิ่มตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เพื่อประสานการทำงานกับ คมช.

ส่วน โฉมหน้ากรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 25 คน หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วพอใจ และเชื่อว่า ไม่มีการบล็อกโหวตเกิดขึ้น

ด้าน น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า มาตรการตอบโต้ทางการทูตที่ไทยมีต่อสิงคโปร์ จะไม่กระทบถึงความสัมพันธ์ทางการทูต หรือการเมืองของทั้ง 2 ประเทศ

ซึ่งการดำเนินการของรัฐบาลถือว่ามีความเหมาะสมแล้ว ที่จะทำให้สิงคโปร์เข้าใจท่าทีของรัฐบาลไทยดีขึ้น แม้ว่าสิงคโปร์จะเป็นมิตรประเทศกับไทย แต่การปล่อยให้นักการเมืองที่พ้นสภาพไปแล้ว ไปใช้พื้นที่กระทำบางสิ่งบางอย่างที่ไม่เหมาะสมก็เป็นหลักสากลที่รัฐบาลจะดำเนินการได้

อย่างไรก็ตาม ท่าทีต่อจากนี้กระทรวงการต่างประเทศควรจะให้ทูตของไทยที่ประจำในประเทศต่างๆ ชี้แจงสถานภาพของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเป็นอย่างไร แล้วกำลังมีคณะกรรมการตรวจสอบการทำความผิดต่างๆ ที่ผ่านมา


ส่วนนายสุจิต บุญบงการ รองประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ

นายบรรหาร ศิลปอาชา


กล่าวว่า กรรมาธิการต่างประเทศ จะนำเรื่องดังกล่าว เข้าหารือในที่ประชุมในวันนี้ โดยเห็นว่า เจตนาของรัฐบาล น่าจะมีความเป็นห่วง และไม่พอใจ

โดยเฉพาะการเข้าพบกันระหว่าง รองนายกรัฐมนตรีประเทศสิงคโปร์ กับพ.ต.ท. ทักษิณ แม้จะอ้างว่า เป็นการพบปะส่วนตัว แต่อาจมีการฉวยโอกาสพูดคุยบางอย่าง เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลไทย แสดงท่าทีมาก่อนหน้านี้ เพื่อให้รัฐบาลสิงคโปร์รับทราบ จะทำให้มีความนุ่มนวลมากขึ้นกว่านี้

"เชื่อว่า ท่าทีของรัฐบาลไทย เป็นเพียงการส่งสัญญาณกับสิงคโปร์เท่านั้นเท่านั้น จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ในระยะยาว

เนื่องจากการขอระงับโครงการความร่วมมือ ภายใต้กรอบโครงการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานข้าราชการพลเรือนไทย-สิงคโปร์ (CSEP) เป็นเพียงความร่วมมือกันระหว่างข้าราชการด้วยกัน" นายสุจิต กล่าว

และว่า ท่าทีของรัฐบาลไทย ต่อประเทศสิงคโปร์ ไม่ได้ปิดโอกาสให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พำนักในประเทศต่างๆ เพราะคงห้ามไม่ได้ และจะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ในต่างประเทศ แต่หากเป็นการเข้าไป เพื่อสร้างกระแสทางการเมือง วิธีการดังกล่าว จะทำให้ประเทศนั้นๆ ต้องพิจารณาโดยรอบคอบ

ขณะที่ พล.อ. อู๊ด เบื้องบน โฆษกกรรมาธิการความมั่นคง กล่าวว่า กรรมาธิการ จะมีการหารือในประเด็นดังกล่าวด้วย

เนื่องจาก ในอดีตที่ผ่านมา ประเทศไทย ไม่เคยใช้วิธีการถึงขั้นนี้ ส่วนท่าทีของรัฐบาลที่ไม่พอใจ ซึ่งแตกต่างกับ คมช. นั้น เนื่องจากรัฐบาล ได้ดำเนินการคนละส่วนกับ คมช.

ขอขอบคุณ :

ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
(หนังสือพิมพ์ที่มียอดขายสูงสุด)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์