เตรียมฉะ คนที่อ้างกติกาบิดเบือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. วานนี้ (30 ส.ค.)

ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ถนนสุขุมวิท สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยจัดเสวนาเรื่อง การปฏิรูปการเมืองครั้งใหม่ โดยนายอานันท์ ปันยารชุน ประธานองค์การเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์ ปัจจุบันมีความอ่อนไหว การโต้เถียง แลกเปลี่ยนความรู้ สอบถาม กลายเป็นเรื่องการเมืองไปหมด


แต่เป็นยุคที่คนพูดเรื่องการเมืองไม่ได้จะถูกหาว่าอยู่ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ทันที ต้องระวังไม่ให้เกิดเป็นปฏิปักษ์กัน แต่ตนประกาศตัวไม่เป็นกลาง เพราะในชีวิตไม่เคยเป็นกลางระหว่างความถูกต้องกับความชั่ว ระหว่างความเป็นประชาธิปไตยกับไม่เป็นประชาธิปไตย ระหว่างธรรมกับอธรรม ระหว่างวิชชากับอวิชชา ระหว่างความยุติธรรมกับความอยุติธรรม ถึงเวลาแล้วที่จะบอกว่าสังคมไทยใช้คำว่า ความเป็นกลาง พร่ำเพรื่อ สังคมไทยต้องมีจุดยืน ต้องแน่ใจว่าเป็นจุดยืนของฝ่าย ไม่ใช่จุดยืนเรื่องบุคคล และต้องเป็นจุดยืนที่ถูกต้อง

แขวะคนปลดล็อกได้แต่ไม่ยอมทำ


นายอานันท์กล่าวต่อว่า ไม่ชอบคำว่าปฏิรูป เพราะหมายถึงทำไปแล้วพอเสร็จก็เลิก แต่ต้องเป็นกระบวนการต่อเนื่อง หยุดไม่ได้ เราพูดเรื่องปฏิรูปการเมืองมานาน แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มได้เมื่อไหร่ ถ้าสภาพการเมืองยังเป็นสภาพที่คนไม่เชื่อถือ ไม่ไว้ใจกัน มีทั้งความรักความชัง ล่อแหลมอึมครึม มีแต่ทางตัน คนปลดล็อกได้ก็ไม่ยอมปลด แต่อยู่ไปเพื่อบริหาร อยู่ตามระเบียบวาระ แล้วสุดท้ายอยู่ไปทำไม ถ้าเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ ไม่เห็นเลยว่ากระบวนการปฏิรูปจะเกิดขึ้นได้ ปัจจุบันสังคมไทยแตกแยกเป็นสองซีก และสิ่งแวดล้อมยังเอื้อให้เกิดการเกลียดชังกันต่อไป มันน่ากลัวมาก ผมเป็นห่วงคนทุกรุ่นทุกวัยมีความสับสนและความแปลกประหลาดในวิธีคิด ไม่รับความจริง ไม่พูดความจริง การไม่เข้าถึงข่าวสารที่ถูกต้อง ไม่ได้รับความยุติธรรมในระบบยุติธรรม ถ้าจะปฏิรูปสังคมต้องคำนึงว่าสังคมจะเปลี่ยนไปอย่างไร นโยบายของรัฐส่งเสริมคุณค่าที่ถูกต้องหรือไม่ ปัจจุบันสังคมมัวแต่หมกมุ่นว่าใครเป็นพวก ใครเป็นศัตรู ใครได้ใครเสียผลประโยชน์

จี้ผู้นำแสดงความรับผิดชอบ


อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า การปฏิรูปการเมืองทำมาเรื่อย แต่ก็เลวลงๆ พอมีรัฐธรรมนูญใหม่คนดีใจว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน แต่ผลคือผู้แทนจากประชาชนนี่แหละที่ทำให้การปฏิรูปชะงักหมด รัฐธรรมนูญนี้มีจุด อ่อน ควรเปลี่ยนแปลง แต่ปัญหาการเมืองปัจจุบันไม่ได้สืบเนื่องจากรัฐธรรมนูญ แต่เกิดจากการบิดเบือนรัฐธรรมนูญ เป็นฝีมือของคนที่บอกว่าต้องทำตามกติกา ถามว่ากติกาคือการเลือกตั้งหรือไม่ ตอบว่าไม่ใช่ สังคมประชาธิปไตยไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเลือกตั้ง หรือมีรัฐบาล รัฐสภา นั่นเป็นเพียงรูปแบบ แต่ประชาธิปไตยต้องอยู่บนพื้นฐานของสังคมเปิด สังคมที่ใฝ่หาความจริง สังคมที่อยู่บนหลักนิติธรรม สังคมที่มีสื่อเสรี สังคมที่มีการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตัดสินปัญหาทางการเมือง สมัยที่ตนเป็นรัฐบาล ถ้ามีโครงการอะไรแล้วอธิบายประชาชนไม่ได้ ก็ไม่เคยโทษว่าประชาชนงี่เง่า แต่โทษตัวเองว่าไม่มีความสามารถอธิบาย รัฐบาลเอื้ออาทรต้องเป็นความเอื้ออาทรที่หมายถึงรัฐบาลเอาใจใส่ประชาชน ไม่ใช่แจกของฟรี ซื้อคน ศัพท์ที่ใช้มีความสวย ถูกต้อง แต่วิธีการอธิบายผิด เพราะคำนี้ไม่ใช่ให้ฟรี แต่ต้องให้ประชาชนช่วยตัวเองได้ ดังนั้นผู้นำต้องกล้าหาญที่จะแสดงความรับผิดชอบ


งงประเทศไทยแบ่งภาคนิยม


นายอานันท์กล่าวด้วยว่า หากจะให้พูดถึงอนาคตเมืองไทย ต้องพูดถึงอนาคตอีก 10-20 ปี รุ่นลูกรุ่นหลาน โดยส่วนตัวเป็นห่วงว่าข่าวสารออกไปตามต่างจังหวัดบ้างหรือไม่ เราล้างสมองคนต่างจังหวัดมาช้านาน จนถึงบัดนี้เริ่มไม่ค่อยแน่ใจแล้ว เคยบอกกันว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะแยกดินแดน ตนเป็นประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) ยืนยันว่า ไม่ใช่การแบ่งแยกดินแดน แต่ทำไมปัจจุบันนี้มันเปลี่ยนไปทั้งประเทศ พรรคประชาธิปัตย์ไปภาคเหนือไม่ได้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ไปภาคใต้ไม่ได้ นี่มันประเทศอะไร ไม่ใช่ประเทศด้อยพัฒนาแล้ว ไม่อยากใช้คำที่สหประชาชาติบัญญัติ และใช้เรียกบางประเทศในแอฟริกาว่าเป็นประเทศที่กำลังล้มเหลว (failing state) หรืออาจล้มเหลวไปแล้ว (failed state) เมืองไทยไม่ใช่อย่างนั้น แต่ถ้ายังเป็นอย่างนี้นานๆ ไม่แน่ เพราะไม่มีภาวะที่จะบริหาร หรือความตั้งใจจะบริหาร

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์