เด็จพี่เหน็บมาร์คขวางกู้เงิน2.2ลล.

เด็จพี่เหน็บมาร์คขวางกู้เงิน2.2ลล.


"เด็จพี่" เหน็บ "มาร์ค-ปชป." ทำตัวเป็นขอนไม้เก่า ขวาง รบ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท ปัด"เกษม"ลาออกปูทาง"เจ็แดง"นายกฯสำรอง

          วันที่ 17 มี.ค.56  เมื่อเวลา 10.15 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาคัดค้านกรณีที่รัฐบาลเตรียมเสนอเสนอร่าง พ.ร.ก.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ต่อสภาผู้แทนราษฎร ว่า ขอให้นายอภิสิทธิ์ ย้อนกลับไปดูผู้หลักผู้ใหญ่ ของพรรคประชาธิปัตย์ เช่น นายศุภชัย พาณิชย์ภักดิ์ เลขาธิการสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังถัดส์) ที่ออกมาระบุว่าเห็นด้วยกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพราะถือเป็นสิ่งที่ถูก เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศชะลอตัวมาก เพื่อนำไปสู่การลงทุนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมไทย และการปรับโฉมประเทศ ซึ่งถือว่านายศุภชัย มีวิสัยทัศน์ กว้างไกล ต่างจากนายอภิสิทธิ์ อย่างมาก อีกทั้งในการที่รัฐบาลจัดนิทรรศการ “ก้าวใหม่เชื่อมไทย สู่โลก ไทยแลนด์ 2020" ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ก็มีประชาชนเห็นด้วยจำนวนมาก

            “ ขอฝากไปยังนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ อย่าทำตัวเป็นขอนไม้เก่าๆ คิดเก่าๆ ขวางทางรถไฟความเร็วสูงให้ตกราง เชื่อว่าถ้านายศุภชัย เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้ประเทศไทยคงดีกว่านี้ เพราะคงทำหน้าที่ค้านแต่เรื่องสร้างสรรค์ ต่างจากนายอภิสิทธิ์ ค้านทุกเรื่องไม่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ” นายพร้อมพงศ์ กล่าว

โต้"ปชป."จินตนาการเกินไป หลังระบุ"เจ๊แดง"เสียบลงสมัครลต. ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่

               โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่นายเกษม นิมมลรัตน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นส.ส. เขต 3 จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า เรื่องนี้นายเกษม ได้แจ้งต่อกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ที่ขอลาออกจากการเป็น ส.ส.เขต 3 จ.เชียงใหม่ เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องสุขภาพ รวมถึงสนใจที่จะลงเล่นการเมืองท้องถิ่น เพื่อจะรับใช้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เชียงใหม่ ซึ่งนายเกษม ยืนยันว่าไม่มีแรงกดดัน จากผู้ใหญ่ภายในพรรคแต่อย่างใด เนื่องจากการสรรหาตัวผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 3 จ.เชียงใหม่ นั้น เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการโซนภาคเหนือ โดยมีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็นประธานคณะกรรมการโซนภาคเหนือ ที่จะต้องเสนอรายชื่อมายังกรรมการบริหารพรรค เพื่อตัดสินใจอีกครั้งว่าจะส่งใครลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะเปิดเผยรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 3 จ.เชียงใหม่นั้น คงต้องรอให้กกต.ประกาศวันเลือกตั้งซ่อมเสียก่อน

                 นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ที่พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่าการลาออกจากตำแหน่งของนายเกษม เนื่องจากจะเปิดทางในนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ลงสมัครรับเลือกตั้ง และถูกวางตัวให้เป็นนายกฯสำรอง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้นกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในกรณีที่มีคดีค้างอยู่ระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ปปช.) กรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ แจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ในการปล่อยเงินกู้ 30 ล้านบาท ให้บริษัทแอ๊ค อินเด็กส์ ซึ่งมีนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ถือหุ้นอยู่ คดีโครงการรับจำนำข้าว ที่อาจจะมีการขยายผลไปถึงนายกรัฐมนตรี กรณีโครงการพัฒนาศักยภาพหมูบ้านและชุมชน หรือเอสเอ็มแอล รวมถึงกรณีที่มีการยื่นให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบการคืนพาสปอร์ต ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยนั้น ตนขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน เชื่อว่าเป็นการจินตนาการเกินจริงของพรรคประชาธิปัตย์ ที่หวังเล่นเกมการเมืองทำลายความน่าเชื่อถือของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และรัฐบาล เนื่องจากขณะนี้การบริหารงานของนายกรัฐมนตรี ได้รับการยอมรับจากประชาชนและนานาประเทศ

              “ หากนางเยาวภา สนใจที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ ก็สามารถที่จะเสนอตนเองเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งได้ เพราะนางเยาวภา ได้พ้นโทษจากการถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีแล้ว อีกทั้งเขต 3 เชียงใหม่ ยังเป็นเขตเดิมที่นางเยาวภา เคยเป็นส.ส.อยู่ และเป็นพื้นที่บ้านเกิดของนางเยาวภา ด้วย อย่างไรก็ตามขณะนี้คงต้องรอให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งหนังสือแจ้งไปยังคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อรับทราบและประกาศวันเลือกตั้งซ่อมต่อไป”นายพร้อมพงศ์ กล่าว

               

"พร้อมพงศ์" แนะ ควรออกกฎหมายตรวจสอบศาลรธน.

              นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวยอมรับในเวทีสัมมนา"การรักษาดุลยภาพทางการเมืองของศาลรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย"ที่ จ.เพชรบุรี ว่า คำวินิจฉัยในคดีของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีจัดรายการอาหาร”ชิมไปบ่นไป” เป็นคำวินิจฉัยที่ใช้ไม่ได้ รวมถึงการวินิจฉัยบุบพรรคพลังประชาชน ชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่นายวสันต์ ออกมายอมรับต่อสังคมเช่นนี้ เพราะสังคมจะได้เห็นความจริงว่าการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นั้นยึดกระแสมากกว่าตัวบทกฎหมายและหลักการของกฎหมาย ซึ่งตนเห็นว่าการวินิจฉัยคดีต่างๆ ควรยึดหลักกฎหมาย ความยุติธรรม และควรทำหน้าที่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญมากกว่า ไม่ควรขยายขอบเขตอำนาจหน้าที่ตนเอง ดูได้จากคดีล่าสุดที่มีการยื่นฟ้องกรณีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เข้าข่ายการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ โดยมีการยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 68 ระบุว่า ต้องยื่นผ่านอัยการสูงสุดก่อน แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัยว่ากรณีนี้ประชาชนสามารถยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ดังนั้นตนมองว่าควรที่จะมีการออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยเรื่องกระบวนตรวจสอบการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญไว้ด้วย เพื่อต่อไปคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่มีผลผูกพันกับทุกองค์กร จะได้มีกระบวนการตรวจสอบในการวินิจฉัยคดีของศาลไว้ด้วย เพื่อเป็นการถ่วงดุลการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ




 

"พร้อมพงศ์" จี้ "ปชป." อย่าตีกิน หาก "รัฐบาล" แก้ปัญหาไฟใต้ได้สำเร็จ

           นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะไปเจรจาสันติภาพครั้งที่ 2 ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้กับกลุ่มก่อความไม่สงบ บีอาร์เอ็น คอร์ออร์ดิเนต ในวันที่ 28 มี.ค. 56 นี้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อย 65 สะท้อนผ่านสวนดุสิตโพลและโพลต่างๆ

ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยที่รัฐบาลจัดเวทีเจรจากับกลุ่มก่อความไม่สงบครั้งนี้ เนื่องจากมองว่าดีกว่าว่าไม่ทำอะไรเลย ถือว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะนำสันติภาพสู่ภาคใต้ พร้อมเชิญชวนทุกฝ่ายมาร่วมกันแก้ปัญหาและให้กำลังใจแก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ที่จะเจรจาให้เกิดความสงบเรียบร้อยในชายแดนใต้ด้วย อย่างไรก็ตาม ส.ส.พรรคพร้อมสนับสนุนแนวทางของรัฐบาลในการเจรจาครั้งนี้ด้วย
 
           นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายถาวร เสนเนียม อดีตรมช.มหาดไทย ได้ออกมาปฏิเสธที่จะไม่เข้าร่วมในการแก้ปัญหาความไม่สงบชายแดนใต้กับรัฐบาลนั้น เรื่องนี้ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ ว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ร่วมขบวนรถไฟสันติภาพครั้งนี้ ซึ่งถ้าหากการเจราสำเร็จ เกิดสันติภาพในภาคใต้ขึ้นมา ตนขอร้องให้นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ อย่ามาหว่านกล้าตีกิน อย่ามาอ้างว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้เสนอความคิดในการแก้ไขปัญหานี้
 
           “ คนในภาคใต้รู้ดีว่าในสมัยที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ได้หาเสียงไว้ว่า “99 วันทำได้จริง” แต่กลับไม่เคยแก้ปัญหาดังกล่าวได้เลย ซึ่งครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และทุกภาคส่วนร่วมจุดแสงสว่างปลายอุโมงค์ ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ไม่ควรนำเอาประเด็นนี้มาเป็นประเด็นทางกรเมือง พรรคประชาธิปัตย์ควรยุติ และหันมามองประโยชน์ของบ้านเมืองและคนภาคใต้เป็นหลักจะดีกว่า”นายพร้อมพงศ์ กล่าว

 

"พร้อมพงศ์" ระบุ สตช. ขยายสัญญา พีซีซี สร้างโรงพักทดแทน อีก 30 วัน

          นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ขยายสัญญาเพิ่มอีก 30 วัน ให้กับ บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อป เม้นท์ แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด ว่า ส่วนตัวเคารพการตัดสินใจของสตช. แต่ในฐานะที่ตนเป็นผู้ร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เห็นว่า ถึงแม้ สตช.จะขยายเวลาให้ แต่เชื่อว่าทางบริษัท พีซีซี จะไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างสถานีตำรวจ ทั้ง 396 แห่ง แล้วเสร็จทันเวลาได้ เนื่องจากจากการลงพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในพื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธร ภาค 8 และภาค 9 ก็ยังไม่มีความคืบหน้าในการก่อสร้างแต่อย่างใด มีเพียงหญ้าที่ยาวขึ้นปกคลุมบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโรงพักเท่านั้น ยังไม่เห็นว่ามีโรงพักแห่งใดสร้างเสร็จและสามารถส่งมอบงานได้เลยแม้แต่แห่งเดียว ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้า ตนจะลงพื้นที่ ภาค 7 เพื่อเก็บข้อมูล และจะเตรียมนำข้อมูล ข้อเท็จจริงทั้งหมด ส่งให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำไปพิจาณาว่า หลังครบสัญญาในวันที่ 17 เม.ย.นี้นั้น ควรจะต้องขยายสัญญาเพิ่มให้กับ บริษัท พีซีซี อีกหรือไม่
 
           นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ในวันที่ 19 มี.ค.นี้ เวลา 10.00 น. พรรคเพื่อไทยนำโดยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการ "บทเรียนประเทศไทย พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านรัฐบาลอภิสิทธิ์ คนไทยได้อะไร" ที่บริเวณชั้น 1 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ซึ่งนิทรรศการนี้จัดขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูล ข้อเท็จจริง ที่เกี่ยวกับพ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาทสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในโครงการไทยเข้มแข็ง ถนนปลอดฝุ่น จัดซื้อครุภัณฑ์ของกรมอาชีวะ ชุมขนพอเพียง และการจัดซื้อเครื่องมือของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนิทรรศการนี้จะมีถึงวันที่ 17 เม.ย.นี้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์