เด็จพี่ชมยงยุทธมีสปิริตลาออก

เด็จพี่ชมยงยุทธมีสปิริตลาออก


'พร้อมพงศ์' ชม 'ยงยุทธ' มีสปิริต เชื่อยังไม่ปรับครม. ยัน ไม่ลักไก่โหวตแก้รธน. ประชุมร่วม 2 ต.ค. เตรียมยื่น DSI สอบกทม. ทุจริตลอกท่อ-อุโมงค์ยักษ์ จี้ 'กลาโหม' ถอนสิทธิ์ราชการทหาร 'มาร์ค'

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 55  นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีการลาออกจากตำแหน่งรองนายกฯและรมว.มหาดไทย ของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่า พรรคขอชื่นชมในสปิริตและเป็นแบบอย่างให้กับรัฐมนตรีอื่นๆ ในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งเป็นรัฐมนตรีคนแรกที่ลาออกกรณีมีความขัดแย้งในเรื่องการตีความข้อกฎหมาย ซึ่งจากโพลก็เชื่อว่า เป็นเรื่องสปิริต แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับนำมาขยายผลโจมตีนายยงยุทธ ว่า เป็นการกระทำเพื่อไม่ให้กระทบต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ถือเป็นการเล่นการเมืองหวังทำลายล้าง ซึ่งการให้สัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่านายกฯมอบอำนาจให้นายยงยุทธ รักษาการนายกฯระหว่างเดินทางต่างประเทศส่อว่า ผิดกฎหมายก็เป็นการเล่นไม่เลิกด้วย


          ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมยื่นตีความความเป็นส.ส.ต่อศาลรัฐธรรมนูญของนายยงยุทธ ในวันที่ 2 ต.ค. นั้น เชื่อว่านายยงยุทธ คงไม่จำเป็นต้องลาออกและคงไม่กระทบต่อพรรคเพื่อไทย ถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะทำเช่นนั้นจริงถือว่าเป็นเกมการเมือง ทั้งที่สามารถรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วินิจฉัยตรวจสอบคุณสมบัติความเป็น ส.ส.ของนายยงยุทธได้เช่นกัน

          นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า การปรับครม. ยังจะไม่มีการปรับในช่วงนี้ตามที่มีกระแสข่าวถูกกดดันจากบ้าน 111 และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯอย่างแน่นอน เพราะจะเข้าทางฝ่ายตรงข้ามได้ว่า การลาออกของนายยงยุทธ เป็นเงื่อนไขให้มีการปรับครม.ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง คนที่ปล่อยข่าวก็คงจะฝันค้างต่อไป อีกทั้งถ้ากกต.ตีความวินิจฉัยว่าคุณสมบัติการเป็นส.ส.ของนายยงยุทธ ไม่ขัดต่อกฏหมายและมีการดึงคนอื่นมานั่งแทนในตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยจะทำอย่างไร ตนเชื่อว่านายกฯมีวุฒิภาวะพอในการตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม ตนขอแช่งคนที่ปล่อยข่าวถึงผู้ที่จะมาเป็นรมว.มหาดไทย เมื่อถึงเวลาแล้วก็ขออย่าให้ได้เป็นรัฐมนตรี และขอให้คนที่ทำงานให้กับพรรค ช่วยเหลือพรรคได้เป็นรัฐมนตรี

ยัน ไม่ลักไก่ โหวตแก้รธน. ประชุมร่วม 2 ต.ค.

           นายพร้อมพงศ์ แถลงว่าในการประชุมพรรคเพื่อไทย วันที่ 1 ต.ค.นี้ ทางพรรคจะมีการหารือในประเด็นที่ประธานรัฐสภาเรียกประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 2 ต.ค. โดยยืนยันว่า จะไม่มีการลงมติเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ มีการปล่อยข่าวว่า รัฐบาลและแกนนำรัฐบาล รวมถึงประธานรัฐสภาจะลักไก่ นำวาระแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ค้างอยู่เข้ามาอยู่ในระเบียบวาระ พรรคเพื่อไทยยืนยันว่า ไม่มี เป็นการพิจารณาตามกรอบวาระการเรียกประชุมเท่านั้น ซึ่งในการประชุมพรรคทางสมาชิกจะมีการหารือเรื่องน้ำท่วมด้วย ซึ่งทางพรรคได้สั่งให้ส.ส.ลงพื้นที่ว่ามีปัญหาอุปสรรคอย่างไร จะได้รวบรวมข้อมูลเป็นข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลต่อไป

เตรียมยื่น ดีเอสไอ สอบกทม. ทุจริตลอกท่อ-อุโมงค์ยักษ์

           นายพร้อมพงศ์ แถลงถึงกรณีผู้บริหารกทม.ออกมาแถลงว่า ขุดลอกท่อระบายน้ำเป็นเรื่องการเมืองว่า ล่าสุดมีการตรวจสอบลอกท่อโดยตำรวจนครบาลร่วมกับกรมราชทัณฑ์โดยพบเศษหินขนาดใหญ่และขยะมหาศาล อีกทั้งตนยังได้รับข้อมูลจากข้าราชการกทม. และภาคประชาชนว่า เรื่องนี้น่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น เพราะเมื่อฝนตกต่อเนื่องจะเกิดน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ ดังนั้นเมื่อมีการลอกท่อโดยกรมราชทัณฑ์ และตำรวจนครบาล จึงเท่ากับเป็นการประจานการทำงานของผู้บริหารกทม. โดยตนได้ตรวจสอบพบว่า วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้ตำหนิเรื่องนี้ผิดพลาดครั้งแรกยังพออภัยได้ แต่ถ้าผิดพลาดครั้งที่ 2 ถือว่ารับไม่ได้ รวมถึง 7 อุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำมีอุโมงค์ยักษ์บางส่วนเป็นอุโมงค์ดัมมี่เหมือนกล้องซีซีทีวี 

           ทั้งนี้ตนจะรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดเพื่อยื่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในวันที่ 3 ต.ค. เวลา 10.00 น. เพื่อให้ดีเอสไอตรวจสอบงบประมาณในการลอกท่อของกทม. ว่าจะมีการทุจริตและตรวจสอบการใช้อุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำที่มีปัญหา และอุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำที่พระโขนงน่าจะเสียด้วย ถ้ามีความผิดก็คงยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ต่อไป และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องก็จะยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กระทรวงยุติธรรมเพื่อตรวจสอบด้วย และการที่รัฐบาลทดสอบการระบายน้ำในกทม. เมื่อ กทม.ไม่กล้าทดสอบ ผลงานจึงประจานให้เห็นว่าน่าจะเป็นการทุจริตงบประมาณมหาศาล

จี้ 'กลาโหม' ถอนสิทธิ์ราชการทหาร 'อภิสิทธิ์'

           นายกมล บันไดเพชร สมาชิกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ตนได้ยื่นร้องต่อ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมให้เรียกเงินเดือนคืนจากการเข้ารับราชการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากใช้เอกสารหลักฐานการเข้ารับราชการอันเป็นเท็จว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีคำพิพากษาของศาลที่ยกฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ เเกนนำนปช.ในคดีหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ เรื่องหนีทหาร โดยตนได้สรุปคำพิพากษาซึ่งได้ระบุว่า นายอภิสิทธิ์หนีทหารจริง โดยนายอภิสิทธิ์ไม่มีหลักฐานสำคัญคือ สด.41 ซึ่งเป็นหนังสือผ่อนผันการไม่ต้องเข้ารับการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหาร โดยศาลเห็นว่า ไม่ใช่หนังสือผ่อนผันที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหนังสือผ่อนผันต้องลงนามโดยผู้ว่าราชการจังหวัด หรือรมว.มหาดไทยเท่านั้น ดังนั้น นายอภิสิทธิ์จึงไม่ได้เข้ารับการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารแน่นอน ซึ่งมีการยอมรับในศาล ทำให้นายอภิสิทธิ์ไม่มีสิทธิเข้ารับราชการโรงเรียนนายร้อยจปร.

          แต่เมื่อมีคำพิพากษายืนยันออกมาแล้ว กระทรวงกลาโหมก็ควรเร่งดำเนินการเพิกถอนคำสั่งที่นายอภิสิทธิ์ เข้ารับราชการทหารที่ไม่ถูกต้องด้วย หากกระทรวงกลาโหมไม่ดำเนินการเพิกถอนสิทธิการเข้ารับราชการทหารของนายอภิสิทธิ์ อาจเข้าข่ายมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยในสัปดาห์หน้าตนจะทำหนังสือเร่งรัดเรื่องดังกล่าวอีกครั้งไปยังพล.อ.อ.สุกำพล ให้เร่งรัดเพิกถอนคำสั่งที่มิชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงจะมีหนังสือเร่งรัดไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินด้วย นอกจากนี้หากพรรคประชาธิปัตย์จะถอดถอนนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกจากตำเเหน่งส.ส.แล้วก็ควรให้นายอภิสิทธิ์ลาออกหรือไม่ ตนคงไม่สามารถเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ลาออกได้ เพราะเป็นผู้นำฝ่ายค้านฯ และหัวหน้าพรรประชาธิปัตย์มีคุณวุฒิ ความพร้อมทุกด้าน นายอภิสิทธิ์ จะคิดเองได้ว่าจะลาออกหรือไม่


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์