“เด็จพี่” แจ้งจับ”เมียธาริต”วิ่งเต้นเรื่องภาษี

โฆษกพรรคเพื่อไทย แจ้งจับเมียธาริต ผิดอาญา กรณีเฮียเม้ง โอนเงินให้เพื่อวิ่งเต้นเรื่องภาษี

วันนี้ (5 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย

พร้อมด้วย นายพิชา วิจิตรศิลป์ ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ศานิตย์ มหถาวร รอง ผบก.ป.เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยาของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตามความผิดฐาน ผู้ใดเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นการตอบแทนหรือจูงใจเจ้าพนักงานโดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมายหรือโดยอิทธิพลของตนให้กระทำการหรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 โดยนำสำเนาคำร้องทุกข์ สำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องมอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน

 นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า จากกรณีที่นายธีรชัย ธำรงพงศกร หรือ “เฮียเม้ง” อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 391 ถนนเจริญพัฒนา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.

เจ้าของบริษัท มังกรเหิรฟ้า จำกัด ร้องเรียนกับพรรคเพื่อไทยว่า เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2551 นายธีรชัย ได้โอนเงินจำนวน 150,000 บาท ให้นางวรรษมล เพื่อเป็นค่าดำเนินการลดหย่อนหรือไม่ต้องเสียภาษีที่ถูกสรรพากรเรียกเก็บจำนวน 1.7 ล้านบาท ซึ่งเป็นกระทำที่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 143 และมีหลักฐานชัดเจน เพียงแต่วันเดียวกันนี้นายธีรชัย ติดภารกิจเดินทางมาร้องทุกข์เองไม่ได้จึงให้ตนดำเนินการแทน

 โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทบต่อบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งมีชื่อเสียงเช่นนายธาริต

ที่กำลังมีบทบาทหน้าที่สำคัญในการสอบสวนคดีต่างๆ ตนจึงอยากให้ทาง บก.ป.ดำเนินการกับนางวรรษมล อย่างตรงไปตรงมา และยืนยันว่าร้องทุกข์ครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง ส่วนกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับการขู่ฆ่านายธาริต นั้น คนเป็นถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีอำนาจมากมาย หากถูกขู่ฆ่าจริงคงมีการเพิ่มกำลังในการรักษาความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี ตนคิดว่าเป็นการสร้างภาพมากกว่าท่านก็มีสิทธิที่จะทำได้แต่ก็ไม่เหมาะสม กรมสอบสวนคดีพิเศษมีเครื่องไม้เครื่องมือมากมายไปหมดเรื่องเพียงเท่านี้มีหรือจะไม่สามารถตรวจสอบได้

 “ผมคิดว่าเป็นการกลบข่าวการตรวจสอบกรณีของนางวรรษมล มากกว่าแต่สังคมกำลังตรวจสอบท่านว่าผู้ที่มีอำนาจจะพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ใดก็ควรจะต้องดูตัวเองด้วยต้องพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ เหมือนพระสงฆ์จะสวดมนต์ให้ใคร ถ้าไม่มีธรรมะแล้วจะน่าเชื่อถือหรือไม่” นายพร้อมพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน พ.ต.อ.ศานิตย์ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พงส.(สบ3) กก.1 บก.ป.รับเรื่องและสอบปากคำในเบื้องต้น ก่อนส่งเรื่องให้ทางกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) รับไว้ดำเนินการเนื่องจากนางวรรษมล ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ