เด็จพี่-เรืองไกรยื่นหนังสือปปช. จี้ฟ้องคดีปรส.ก่อนหมดอายุความ

เด็จพี่-เรืองไกรยื่นหนังสือปปช. จี้ฟ้องคดีปรส.ก่อนหมดอายุความ

11 พ.ย.57 ที่สำนักงานคณะกรรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เดินทางมายื่นหนังสือต่อประธาน ป.ป.ช.ผ่าน นายศักดิ์ชัย เมทินีพิศาลกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช.เพื่อให้ ป.ป.ช.เร่งรัดฟ้องคดีการขายทรัพย์สินขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ที่จะหมดอายุความในวันที่ 30 พ.ย.นี้

ทั้งนี้ ขณะที่ยื่นหนังสือ นายเรืองไกร ได้สอบถามนายศักดิ์ชัย ว่า ขณะนี้ความคืบหน้าคดีไปถึงไหนแล้ว
 
ซึ่งก็ได้คำตอบว่า ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดทุกคดีที่เกี่ยวข้องในคดี ปรส.หมดแล้ว และส่งให้อัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินการ นายเรืองไกร จึงถามต่อว่า ที่ยังไม่ฟ้องเพราะยังมีข้อไม่สมบูรณ์อยู่ใช่หรือไม่ นายศักดิ์ชัย ตอบว่า ยังมีข้อไม่สมบูรณ์อยู่

โดยภายหลังการยื่นหนังสือ นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ปรส.ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้น

โดยพระราชกำหนดการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน พ.ศ.2540 เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลสถาบันการเงินที่ถูกระงับกิจการ 58 แห่ง ให้คุ้มครองผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้สุจริต แต่การชำระบัญชีของ ปรส.ไม่ได้แยกหนี้ดีและหนี้เสียออกจากกัน ทำให้ทรัพย์สินของสถาบันการเงิน มูลค่า 851,000 ล้านบาท ซึ่งถูกประมูลขายไปเพียง 190,000 ล้านบาท สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศ โดยคดีนี้เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาล นายชวน หลีกภัย ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องทั้งตัวใหญ่และตัวเล็ก ซึ่งคดีนี้ดำเนินการมากว่า 10 ปีแล้ว แต่จะหมดอายุความในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ซึ่งเหลือเวลาอีก 20 วัน โดยเราก็เห็นว่าคดีนี้เป็นคดีใหญ่ ทำไม ป.ป.ช.ไม่กล่าวถึงในรายละเอียด และรายงานให้ประชาชนทราบเลย เพราะถ้าหมดอายุความแล้วจะไม่สามารถเอาผิดกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังความเสียหายดังกล่าวได้ ซึ่งก็น่าเสียดาย
แตกต่างกับคดีโครงการรับจำนำข้าว และคดีการโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ไม่มีคนร้อง แต่ ป.ป.ช.เร่งรัดคดี ทั้งที่คดี ปรส.เป็นคดีล้มบนฟูก เงินที่เสียหายไปไม่ถึงประชาชน เพราะมีไอ้โม่งอยู่เบื้องหลัง แตกต่างกับคดีโครงการรับจำนำข้าวที่ประชาชนได้เงิน รัฐบาลได้ข้าว

"เทียบการดำเนินงานของ ป.ป.ช.ที่ผ่านมา อยากถามว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐบาล สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าหากคดี ปรส.หลุดไป จะต้องพิจารณาปฏิรูป ป.ป.ช.เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวหรือไม่" นายพร้อมพงศ์ กล่าว

ขณะที่ นายเรืองไกร กล่าวว่า ป.ป.ช.ระบุว่าชี้มูลผู้ถูกกล่าวหาหมดแล้ว

โดยขณะนี้อยู่ในชั้นของ อสส.ซึ่ง ป.ป.ช.ควรใช้อำนาจหน้าที่ฟ้องคดีเอง เพื่อให้อายุความสะดุดหยุดลงก่อน เพราะความเสียหายรวมดอกเบี้ยประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท ประชาชนแบกรับเป็นเวลา 50 ปี ก็ใช้ไม่หมด และกองทุนฟื้นฟูภาระหนี้กระทรวงการคลัง ก็โยนกันไปมาไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนแก้ไข จึงจำเป็นที่ ป.ป.ช.จะต้องทำอย่างไรก็ได้ให้อายุความสะดุดหยุดลง


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์