“เฉลิม”แย้มใกล้เปิดเจรจากับโจรใต้อีกกลุ่ม

                 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการทำความตกลงสันติภาพระหว่างเลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ของไทยกับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า คิดว่ามีการเปลี่ยนแนวทางบ้างก็ดี เพราะการพูดคุยจะทำให้รู้ความต้องการของแต่ละฝ่าย แต่เรื่องนี้ทางสมช. เป็นเจ้าภาพ 

             ซึ่งคงจะรายงานศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์และแก้ไขปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) การแก้ปัญหาต้องทำงานร่วมกัน ในส่วนของตนก็ได้เชิญกลุ่มวาดะห์ 9 คน มาร่วมปรึกษาหารือในวันเดียวกันนี้ (1 มี.ค.) โดยมีอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 และ 3 ซึ่งเคยปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ภาคใต้มาหลายปี รวมทั้ง พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนคลี่คลายคดีปล้นปืนเข้าร่วมด้วย แต่สุดท้ายก็ต้องยึดแนวทางของทหารเป็นหลัก

              ผมก็เปิดเจรจาของผมอีกส่วนหนึ่ง ส่วนจะเป็นกลุ่มไหน ยังพูดไม่ได้ เพราะยังไม่สำเร็จในเร็ววัน ต้องใช้เวลาโดยแม่ทัพภาคที่ 4 และเสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 มาหาผมเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ผมก็ได้เชิญอธิบดีดีเอสไอมาพูดคุยด้วย 3 ฝ่าย เรื่องผู้ต้องหาตามหมายจับของดีเอสไอว่ามีกี่คน เมื่อดูข้อกฎหมายแล้วไปได้ โดยใช้มาตรา 21 ได้ข้อสรุปแล้ว ผมก็ให้แม่ทัพภาคที่ 4 ลงมือทำเลย ซึ่งน่าจะเป็นข่าวดีให้ประชาชนได้ในเร็ว ๆ นี้ เดี๋ยวมีเซอร์ไพร์ส ยืนยันว่าดี ซึ่งเป็นคนละแบบกับการลงนามสันติภาพที่เลขาธิการ สมช.ทำไป” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

              เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าแทนที่ภาครัฐจะจับกุมกลุ่มขบวนการเหล่านี้ที่ทำผิด แต่กลับไปลงนามสันติภาพด้วย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า บางคนไม่มีหมายจับ จะไปดำเนินคดีไม่ได้ เมื่อถามว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้มีหลายกลุ่ม การไปลงนามทำข้อตกลงกับกลุ่มบีอาร์เอ็น จะทำให้กลุ่มอื่น ๆ ไม่พอใจและก่อเหตุรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ก็ต้องค่อย ๆ ทำไป อะไรไม่ดีก็เปลี่ยน อะไรดีก็ทำต่อ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย มันต้องลองหลาย ๆ สูตร ต้องรอดูว่าจะดีขึ้นหรือไม่ ถ้าไม่ดีนายกรัฐมนตรี และ สมช.ก็ต้องปรับเปลี่ยนแผน อย่างไรก็ตามคงเป็นไปไม่ได้ที่เหตุการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ สามารถถอนกำลังทหาร โดยให้ตำรวจไปดูแล ภายในเดือน เม.ย.นี้ คงไม่เร็วขนาดนั้น เมื่อถามว่ากลุ่มอาร์เคเคจะเข้ามาพูดคุยกับรัฐด้วยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เราคุยทุกกลุ่ม แต่ไม่มีเงื่อนไข ต้องอยู่บนพื้นฐานหลักนิติรัฐและนิติธรรม แต่โอนอ่อนผ่อนปรนในสิ่งที่เราทำได้โดยไม่ผิดกฎหมาย

              เมื่อถามว่า อุดมการณ์ของบีอาร์เอ็นก่อนหน้านี้คือการแบ่งแยกดินแดน ทำไมรัฐถึงตัดสินใจไปทำข้อตกลงด้วย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เชื่อว่าเวลาเปลี่ยนความคิดเปลี่ยน ถ้าอะไรที่ทำไม่ได้คงไม่ทำ เรื่องการแบ่งแยกดินแดนถึงคิดก็ทำไม่สำเร็จ ไม่มีทางเป็นไปได้ กองทัพและรัฐบาลไม่มีวันยอม รวมทั้งข้อเสนอให้เป็นเขตปกครองพิเศษ รัฐบาลก็ไม่มีทางเอาด้วย คงต้องรอชาติหน้า ทั้งนี้มั่นใจว่าการเจรจาครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการยกระดับหรือให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ แต่เอามาเป็นพวก

              เมื่อถามว่าการที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ช่วยประสานงานในการทำข้อตกลงสันติภาพครั้งนี้ ถือเป็นนิมิตหลายที่ดีต่อการแก้ปัญหาภาคใต้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนมองว่าน่าจะดี พ.ต.ท.ทักษิณก็รักประเทศชาติ อยากให้บ้านเมืองสงบ และรัฐบาลก็พรรคเพื่อไทย จะไม่ช่วยไม่ได้ ท่านก็ช่วยตลอด ส่วนที่ตนไม่ได้ร่วมเดินทางไปมาเลเซียกับคณะของนายกรัฐมนตรีด้วยนั้น ไม่ใช่เป็นเพราะถูกลดบทบาท แต่ต้องรักษาการแทนนายกรัฐมนตรี อีกทั้งติดปราศรัยใหญ่