เจ๊หน่อยเฮ!ปปช.ยกคำร้องปมคอมพ์ฉาว

ภาพจาก คมชัดลึกภาพจาก คมชัดลึก


'ปปช.'มีมติเอกฉันท์ 'คุณหญิงสุดารัตน์'ไม่ผิดคดียกเลิกจัดซื้อคอมพ์'สธ.'

 

เมื่อเวลา 16.40 น. นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการ ปปช. นานกว่า 6 ชั่วโมง ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาคดีการกล่าวหา ร้องเรียนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กับพวกรวม 16 คน ว่า 


กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และกระทำความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 กรณียกเลิกโครงการประกวดราคาจัดซื้อและติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์เพื่อการบริหารข้อมูลข่าวสาร ด้านการเงินการคลังและข้อมูลโรงพยาบาล จำนวน 818 แห่งทั่วประเทศ ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2547 โดยที่ประชุม โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ 8 เสียง ให้ยกคำร้อง ในประเด็นการกล่าวหานักการเมืองที่ประกอบด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณุข นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุขและนายอุดมเดช รัตนเสถียร เลขานุการ รมว.สาธารณสุขในขณะนั้น เนื่องจากไม่พบว่ามีพฤติกรรมข่มขืนใจและบีบบังคับให้ข้าราชการประจำ กลั่นแกล้งบริษัทกิจการร่วมค้า พีสแควร์ ไทยคอม ซึ่งเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดให้ไม่ได้เป็นผู้ชนะการประกวดราคาในโครงการดังกล่าว และจากการไต่สวนพยานบุคคลและเอกสารที่มีการอ้างถึง ข้อเท็จจริงไม่มีน้ำหนักที่จะฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามได้กระทำตามที่มีการกล่าวหาร้องเรียน


นายกล้าณรงค์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังมีมติเอกฉันท์ยกคำร้องกรณีกล่าวหา นายวิชัย เทียนถาวร ปลัดกระทรวงขณะนั้นในฐานะผู้อนุมัติยกเลิกการประกวดราคา นอกจากนี้ยังมีมติด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 3 เสียง ว่าการดำเนินการของคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา ที่ประกอบด้วย นายชาตรี บานชื้น ผู้ตรวจราชการกระทรวง นายสมชาย เชื้อเพชระโสภณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสาธารณสุข นายชาญวิทย์ ทระเทพ ผอ.สำนักพัฒนาระบบบริการสุขภาพ นายเทียม อังสาชน ผอ.รพ.สระบุรี นายวิบูลย์ แสงวีรพันธุ์ศิริ รศ. ศูนย์คอมพิวเตอร์คณะวิศวกรรมศาศตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายชัยเชวง กฤตยาคม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บ.ทศท คอเปอร์เรชั่น จำกัดมหาชน และนายวริทธิ์นันท์ จินดาถาวรกิจ นิติกร 7 กลุ่มกฎหมายสำนักบริหารกลาง ไม่มีมูลควาผิด ให้ยกคำร้อง ทั้งนี้ ในส่วนกรณีการกล่าวหานายพิพัฒน์ ยิ่งเสรี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขในฐานะประธานกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการประกวดราคาซื้อและติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ปี 2547 นายจรัญ ตฤณวุฒิพงษ์ อธิบดีกามควบคุมโรคและรักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายบุญเลิศ ลิ้มทองกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวง ที่ประชุม ปปช. มีมติให้เลื่อนการพิจารณาออกไปในการประชุมครั้งต่อไป

              

อย่างไรก็ตาม ปปช.ให้เหตุผลการยกคำร้องว่า แม้ในการประชุมของคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา ครั้งที่ 6 เมื่อ 16 เม.ย. 2547 ได้มีติเรียก บริษัทกิจการร่วมค้าพีสแควร์ ไทยคอม ที่เสนอราคาต่ำสุด โดยมีคู่แข็งคือบริษัท ไพรม์ลิ้งค์ จำกัด ที่เสนอราคาสูงกว่าแต่ไม่เกินร้อยละ 20 มาต่อรองราคากัน และต่อมาในวันที่ 3 พ.ค. 2547 คณะกรรมชุดดังกล่าว มีหนังสือถึงปลัดกระทรวงสาธารณสุขเพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อรัฐมนตรีในสมัยนั้น เพื่อให้ทบทวนการประกวดราคา โดยคณะกรรมการจึงได้มีการประชุมพิจารณาข้อร้องเรียนใน วันที่ 15 มิ.ย. 2547 และมีมติว่า บ.ไพรม์ลิ้งค์ จำกัด มีคุณภาพสินค้าและบริการหลังการขายดีกว่า คณะกรรมพิจารณาผลการประกวดราคาจึงมีมติเสียงข้างมากเห็นควรจึงเสนอให้ยกเลิกการประกวดราคา ซึ่งการประชุมดังกล่าวที่ประชุม ปปช พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการประชุมตามระเบียบสำนักนายรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุและมีเหตุผลที่รับฟังได้ อีกทั้งเป็นไปตามคำวินิจฉัยของอัยการกระทรวงการคลังและศาลปกครองกลาง ที่ระบุว่า ตราบใดที่คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคายังไม่มีการเสนอใบราคาจัดซื้อจัดจ้างไปยังหัวหน้าส่วนราชการผู้มีอำนาจในการอนุมัติสามารถจะนำกลับมาทบทวนแล้วพิจารณาใหม่ได้

               

โดยคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาย่อมมีดุลยพินิจพิจารณาทบทวนการดำเนินการของตนเองได้ การไม่รายงานผลการพิจารณา ผลการประกวดราคา จนนำไปสู่การพิจารณาสั่งยกเลิกผลการประกวดราคานั้นตามคำวินิจฉัยของ ศาลปกครองกลาง กระทรวงคลัง กรมอัยการ ก็เห็นตรงกันว่าการยกเลิกสามารถทำได้้เป็นการชอบด้วยระเบียบ ตลอดจนมีเหตุผลของการยกเลิก

              

 อย่างไรก็ตาม การล่าช้าของคดีนี้เกิดจากผู้ถูกร้องมีการยื่นขอถอดถอนบุลคลในคณะอนุกรรมการชุดแรกที่มีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ปปช. เป็นประธานพร้อมทั้งยังมีประเด็นปัญหาในเรื่องของเอกสารที่ไม่ตงกันระหว่างเอกสารที่ ปปช.ได้มา และเอกสารของผู้ถูกร้องยื่นเพิ่มเติมเข้ามา จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งนี้มติของ ปปช ในครั้งนี้ถือเป็นการปิดฉากคดีที่มีการกล่าวหา คุณหญิงสุดารัตน์และพวก รวมถึงข้าราชการ 16 คน เป็นเวลากว่า 10 ปี

 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์