เจาะแฟ้ม ครม.30 มี.ค.

พลิกแผนประชุมครม.สาธารณสุข  ต่ออายุพรบ.มั่นคง พร้อมประกาศพื้นที่มั่นคงชะอำ-หัวหิน  ศธ.ชง  ตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพครู ลุ้นคลังเสนอร่างพรบ.ภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้าง   พาณิชย์ขอเห็นชอบบันทึกตกลงขายข้าวฟิลิปปินส์


นับเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันที่รัฐบาลอภิสิทธิ์   ยังไม่สามารถใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)   แต่น่าสนใจกว่านั้น ภายหลังสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง แถลงวานนี้ว่า จะใช้ห้องประชุมศาสนสถานของกรมทหารราบที่ 11 ประชุมครม.  แต่ตกเย็นมีการเปลี่ยนใจกระทันหัน  กลับไปใช้ห้องประชุม 1 ชั้น 2 ตึกสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข  ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ต่างต่างนานา ไม่ว่าจะเป็นความห่วงกังวลต่อความไม่ปลอดภัย กรณีอาจมีการยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่สถานที่ประชุม  เพราะมีระยะใกล้กับกับถนนหน้ากรมทหาราบที่ 11


ขณะที่อีกกระแส มองว่า เพื่อลดเสียงวิจารณ์รัฐบาลอยู่ภายใต้การดูแลจากกองทัพ อีกทั้งเป็นความต้องการของนายกฯ  ต้องการสะท้อนให้เห็นว่าการทำงานของฝ่ายบริหาร ควรอิงกับสถานที่ราชการพลเรือน


อย่างไรก็ตาม การประชุมครม.วันนี้ มาตรการรักษาความปลอดภัยจะเป็นประเด็นที่ถูกจับจ้องอีกครั้ง เพราะกระทรวงสาธารณสุขเพิ่งโดนระเบิดเอ็ม 79 ยิวเข้าใส่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังนายกฯแถลงผลการประชุม ครม.ผ่านไปไม่นาน  จึงต้องติดตามว่าจะมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นซ้ำสองหรือไม่ และจะหาทางป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่


สำหรับการประชุมครม.วันนี้  นายกฯอภิสิทธิ์ ติดภารกิจเดินทางเยือนประเทศบาห์เรน  จึงมอบหมายให้สุเทพ นั่งเป็นประธานหัวโต๊ะ  แน่นอนวาระพิจารณาด้านความมั่นคง หนีไม่พ้น ขอความเห็นชอบ ให้ขยายการบังคับใช้ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(พ.ร.บ.มั่นคงฯ)   บริเวณพื้นที่ กทม.  พื้นที่บางส่วนของ จ.นนทบุรี  และพื้นที่บางส่วนของจ.สมุทรปราการ  ออกไปอีก 7 วัน


พร้อมกันนี้ จะมีการขอความเห็นชอบ ให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.  มั่นคงฯ   ในพื้นที่โดยรอบสถานที่จัดประชุมกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างวันที่ 2-5 เม.ย.    อำเภอชะอำ จ.เพชรบุรี  และอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์   ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับผู้นำประเทศที่จะเดินทางเข้าร่วมประชุมกลุ่ม ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ได้แก่ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า และจีน   โดยจะมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ( ศอ.รส.) ในพื้นที่ส่วนนี้


วาระพิจารณาอื่น    กระทรวงศึกษาธิการ  เสนอร่างพระราชกฤษฎีกา (พรฎ.) จัดตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพครูกัน  พรฎ.ฉบับดังกล่าวจะนำไปสู่การขอให้มีการจั้งตั้งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ โดยจะจัดตั้งเป็นองค์การมหาชน สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี  


ทั้งนี้ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ  จัดขึ้นเพื่อเป็นหลักในการกำหนดคุณวุฒิการเรียนการสอนสายอาชีพ ให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินสมรรถนะด้านวิชาชีพของผู้สำเร็จ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) และปริญญาตรีปฏิบัติการ ซึ่งจะมีผลถึงค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้นด้วย


ส่วนที่ต้องตามลุ้น เห็นจะเป็นกระทรวงการคลัง จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ...เข้าสู่การพิจารณาหรือไม่ หลังจากสัปดาห์ก่อนต้องเลื่อนออกไป


ด้านกระทรวงพาณิชย์จะขอความเห็นชอบการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทยกับกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมประเทศฟิลิปปินส์ โดยขออนุมัติการลงนามในบันทึกความเข้าใจและเสนอรัฐสภาพิจารณาเห็นชอบ มอบหมายให้รมว.พาณิชย์ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญขอให้ผู้ลงนามใช้ดุลพินิจในเรื่องนั้นๆ ได้โดยไม่ต้องนำเสนอ ครม.และรัฐสภา มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Power) ให้ รมว.พาณิชย์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ


ความพยายามทำบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ เป็นผลมาจาก ประเทศฟิลิปปินส์ ผูกพันสินค้าข้าวภายใต้ AFTA ไว้ในบัญชีสินค้าอ่อนไหวสูง มีอัตราภาษีปัจจุบัน  40 % ถึงปี 2555 โดยในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนปี  2552 ที่ กทม. ฟิลิปปินส์ยื่นข้อเสนอตารางการลดภาษีสินค้าข้าว โดยขอคงอัตรา  40 %  ถึงวันที่ 1 ม.ค. 2558 จึงจะลดลงเหลือ 35 %  แต่ประเทศไทยโดยกระทรวงพาณิชย์ได้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศแล้วมีมติว่าไม่สามารถรับข้อเสนอของฟิลิปปินส์ได้ และจะยังไม่ให้สัตยาบันความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน จนกว่าฟิลิปปินส์จะปรับปรุงการลดภาษี และหากไม่ปรับปรุงแผนการลดภาษีจะต้องเจรจาให้ฟิลิปปินส์ชดเชย โดยการนำเข้าข้าวจากไทย 367,000 ตัน หรือเท่ากับปริมาณนำเข้าจากไทยเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังตามที่ไทยเสนอไว้ ดังนั้น ไทยและฟิลิปปินส์ได้หารือจนสามารถสรุปร่างบันทึกความเข้าใจ


นอกจากนี้  กระทรวงพาณิชย์ จะเสนอให้พิจารณามาตรการรับซื้อข้าวเปลือกจาก เกษตรกรในราคาสูงกว่าราคาอ้างอิงตันละ 200 บาท ซึ่งถือเป็นราคานำตลาด และจะสามารถช่วยดึงราคาข้าวให้สูงขึ้นได้  แม้ก่อนหน้านี้ เคยหารือกับนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยนายกรัฐมนตรีอ้างว่า กรณีดังกล่าวเหมือนกับการรับจำนำข้าว และผิดหลักการณ์ประกันรายได้เกษตรกร


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์