เงินอย่างเดียว แก้ปัญหาไม่ได้

"จริยธรรมของผู้บริหารต้องเสียสละ"


หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาพูดเรื่องผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญแล้ว ก็มีการจับตาดูถึงความเคลื่อนไหวของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่าจะพูดถึงสภาพปัญหา ทางการเมืองในปัจจุบันอย่างไร ล่าสุด พล.อ.เปรมได้ออกมาพูดอีกครั้ง จริยธรรมของผู้บริหารจะต้องรู้จักเสียสละ ซื่อสัตย์และมีคุณธรรม

ป๋า ย้ำผู้นำต้องมาตรฐานเดียว

เมื่อวันที่ 18 ส.ค. เวลา 09.30 น. ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้เป็นประธานเปิดการสัมมนาวิชาการ 58 ปี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในหัวข้อ อภิปรายสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ว่าสิ่งที่พูดแสดงความเห็นในที่ประชุมนี้ ขอย้ำว่าเป็นความเห็นส่วนตัว จากประสบการณ์ที่ได้สั่งสมไว้ ไม่เป็นวิชาการ ทุกองค์กร ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรต่างๆต้องเรียนรู้วิชารัฐศาสตร์ทั้งนั้น ชาวคณะรัฐศาสตร์น่าจะนำสิ่งที่จะพูดไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมือง

มีข้อเสนอดังนี้คือ 1.มีมาตรฐานเดียว หมายความว่าการทำงาน การบริหารงานบุคคลหรือองค์กร ต้องมีมาตรฐานที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีความชอบธรรมเพียงมาตรฐานเดียว จะมีสองมาตรฐานหรือหลายมาตรฐาน หรือไม่มีมาตรฐานเลยไม่ได้ ไม่เช่นนั้นการ บริหารองค์กรก็จะไม่ราบรื่น ผิดทำนองครองธรรมและเสียหายได้ 2.มีคุณงามความดี นักรัฐศาสตร์ต้องถือศีลห้าอย่างเคร่งครัด มีพรหมวิหารสี่อย่างมั่นคงและต้องยึดอิทธิบาทสี่อย่างยั่งยืน


คนที่มีกิเลสจะไม่ซื่อสัตย์-เสียสละ


พล.อ.เปรมกล่าวต่อว่า 3.มีความเป็นไทย ต้องสำนึกอยู่เสมอว่าเราเป็นคนไทย มีหน้าที่อื่นๆทั้งที่รัฐธรรมนูญกำหนดและไม่ได้กำหนด อาจารย์มีหน้าที่ต้องให้ความรู้สั่งสอนศิษย์ให้เป็นคนดีคนเก่ง ให้เด็กมีความคิดแบบไทย แม้ผู้บริหารส่วนใหญ่จะจบจากต่างประเทศ แต่ควรจะมีรัฐศาสตร์แบบไทยที่ยังประโยชน์สูงสุดแก่สังคมไทย และประเทศชาติบ้านเมือง 4.มีความเป็นธรรม ขอให้นิยามคำว่าความเป็นธรรมให้กว้างขวาง คือจะต้องมีธรรมะอยู่ ในใจ มีความยุติธรรม

คุณธรรมและจริยธรรม เพื่อนำไปใช้ในการบริหารงานบุคคลและองค์กรเพื่อนำไปสู่ความสงบร่มเย็นของชาติ คงจะได้ยินตนพูดเรื่องคุณธรรม จริยธรรมมาหลายครั้ง มั่นใจว่าทุกท่านจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ ตราบใดที่ผู้บริหารองค์กรเพียบพร้อมด้วยคุณธรรม จริยธรรม องค์กรนั้นก็จะประสบความสำเร็จ จะได้รับความเชื่อถือศรัทธา ได้รับความเชื่อมั่น และยกย่องสรรเสริญ 5.มีความซื่อสัตย์สุจริต เสียสละและจงรักภักดี ซึ่งความหมายชัดเจนอยู่ในตัวแล้วไม่จำเป็นต้องขยายความ ผู้ บริหารองค์กรจะได้รับความร่วมมือยกย่องเชื่อถือจะต้องเป็นคนที่เข้าใจเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต แต่คนที่มีกิเลสจะปฏิบัติตามข้อนี้ได้ยาก หรือจะปฏิบัติไม่ได้เลย


ผู้นำที่ใช้แต่เงินแก้ปัญหาไม่สำเร็จ


พล.อ.เปรมกล่าวด้วยว่า 6.มีความประพฤติปฏิบัติเป็นตัวอย่างที่ดี สังคมใดที่ผู้บริหารปฏิบัติตัวดีเป็นแบบ อย่างให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ก็จะเป็นการสอนที่ง่ายกว่าการใช้สื่ออย่างอื่น 7.มีความรัก งานใดก็ตามต้องกระทำด้วยใจรัก ตราบใดที่มีความรักต่องาน เราก็จะทุ่มเทเพื่องาน และภูมิใจกับการทำงาน ปรารถนาดีต่องาน แต่การทำสิ่งใดโดยปราศจากความรัก ความปรารถนาดี ทำเพราะต้องทำตามหน้าที่ความสำเร็จก็จะอยู่ไกลมาก

การจะแก้ไขปัญหาความยากจน ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าไม่รักและปรารถนาดีต่อคนยากคนจน ไม่ปรารถนาดีต่อพี่น้องภาคใต้ ใช้แต่เงิน ใช้แต่คำที่เรียกโก้ๆว่ายุทธศาสตร์ คงจะสำเร็จได้ยาก


ย้ำคนดีจะไม่สร้างปัญหาให้ชาติ


ประธานองคมนตรีกล่าวอีกว่า 8. มีความสำนึกตลอด เวลาว่าเกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน ที่ผ่านมาได้พยายาม อย่างเต็มที่ที่จะให้คนไทยสำนึกบุญคุณแผ่นดินเป็นเวลานานแล้ว เข้าใจง่ายๆคือ การเป็นคนดี คิดดี พูดดี และ ทำดี คนดีจะไม่สร้างปัญหาให้กับผู้อื่น ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน โปรดถามตัวเองว่า ตั้งแต่เกิดมาเป็นคนไทย ได้เคยทำสิ่งใด ที่เป็นคุณให้แก่แผ่นดิน ได้ทำสิ่งใดที่เป็นโทษให้แก่แผ่นดิน สัญญากับตัวเองว่าจะปกป้องแผ่นดินไทย

จะไม่ทำให้สิ่งใด เสียหาย ปฏิญาณตนต่อหน้าพระสยามเทวาธิราชว่าจะซื่อสัตย์ต่อแผ่นดิน แค่นี้ก็มากพอแล้ว 9. มีพระบรมราโชวาท เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ยึดถือในการดำรงชีวิต คงทราบว่าพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในช่วง 60 ปี มีเป็นร้อย จะพบว่าหากยึดมั่น ในพระบรมราโชวาท เราจะมีแต่ความสุข ความสงบ บ้านเมือง จะเรียบร้อยพัฒนา คนดีจะได้รับหน้าที่สำคัญในชาติบ้านเมือง คนไม่ดียาก จะก่อความวุ่นวายได้ พระบรมราโชวาทเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งบริสุทธิ์ ผู้ใดประพฤติปฏิบัติตาม

อย่างเคร่งครัดถือเป็นสิริมงคล หนังสือหลายเล่มที่ออกสู่ ตลาดไม่ว่าจะเป็น คำพ่อสอน และ ร้อยเรื่องในรอยจำ คนไทยควรจะได้อ่าน รวมไปถึงหนังสือทฤษฎีใหม่เศรษฐกิจ พอเพียงก็ยังประโยชน์มหาศาลต่อประเทศ เมื่อ 20 ปีก่อนเรื่องนี้ไม่ค่อยจะได้รับความสนใจ แต่เดี๋ยวนี้สังคมยอมรับ เพราะเป็นทฤษฎีที่มีทั้งศักยภาพ มีเหตุผลและมีภูมิคุ้มกันความเสี่ยง เป็นทฤษฎีที่รู้ว่าคนไม่ว่าฐานะใด มีหรือจน องค์กร ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ย่อมนำไปประยุกต์ใช้ได้ผลทั้งสิ้น


นักวิชาการสับแหลกผู้นำประเทศ


ต่อมาเวลา 11.00 น. คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ได้จัดอภิปรายหัวข้อ จริยธรรมกับการเมือง เนื่องในวันครบรอบ 58 ปี ของคณะรัฐศาสตร์ โดยนายเอก ตั้งทรัพย์วัฒนา อาจารย์ภาควิชาการปกครอง จุฬาฯ กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาจริยธรรมของผู้นำอยู่ในขั้นวิกฤติ พฤติกรรม มักใช้เสียงส่วนใหญ่อ้างความชอบธรรมอยู่เสมอ ทำให้เห็นชัดว่าผู้นำประเทศขณะนี้ไม่มีความเข้าใจ หรือหัวใจของ ประชาธิปไตยถึงแก่นแท้ การอ้างเสียงข้างมากถือเป็นสิ่ง

ไร้จริยธรรมทั้งสิ้น เพราะการมีเสียงข้างมากไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงความชอบธรรม หรือความถูกต้องเสมอไป เช่น มีโจร 5 คน กับพระ 2 รูป จะโหวตกันว่าจะไปปล้นหรือไม่ คำตอบของเสียงส่วนใหญ่จะเป็นอย่างไร ดังนั้น การเอาเสียงข้างมากมาอ้างความชอบธรรมและความถูกต้องอยู่ ตลอดเวลา ถือได้ว่าเป็นความไร้เดียงสาทางการเมือง หลักการ ของระบอบประชาธิปไตยนั้น คือ การเคารพเสียงข้างน้อย ต้องมีการถกเถียง หรือดีเบตระหว่างความคิดของเสียงส่วนใหญ่และเสียงส่วนน้อย เพราะการดีเบตถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้การลงมติ


สังคมวิกฤติเข้ายุคปลาใหญ่กินปลาเล็ก


นายวีระ สมบูรณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาฯ กล่าวว่า จริยธรรมกับการเมือง เป็นเรื่องที่ต้องไปด้วยกัน เพราะการจะทำอะไรในทางการเมืองจะต้องมีความชอบธรรม หากการเมืองจะทำอะไรที่ ต้องขัดกับจริยธรรม ก็ต้องอธิบายให้ได้ว่าละเมิดจริยธรรมนั้นๆเพราะอะไร ทั้งนี้ เห็นว่าควรยึดจริยธรรมที่เน้นหลักการ มากกว่าผลลัพธ์ แต่ขณะนี้การเมืองมักจะอ้างแต่ผลลัพธ์ โดยคำนึงถึงจริยธรรม เช่น อ้างตัวเลขทางเศรษฐกิจ อ้างว่า ยาเสพติดลดลง

โดยไม่พูดถึงการฆ่าตัดตอนหลายพันคน ทั้งนี้ จุดมุ่งหมายของการเมืองระบอบประชาธิปไตยคือการ ไว้ใจซึ่งกันและกัน แต่เมื่อใดที่ไม่สามารถไว้ใจรัฐ หรือผู้บริหารได้ เราก็จะยิ่งถอยห่างประชาธิปไตย ที่ผ่านมาเราไม่มีโอกาสตั้งคำถามถึงจริยธรรมของผู้นำได้เลย สิ่งเหล่านี้นำไปสู่วิกฤตการณ์ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา สังคม ไทยถูกจริยธรรมที่เน้นผลลัพธ์ครอบงำ ปล่อยให้มีการคอรัปชัน เพียงแค่ให้เขามีผลงานบ้าง ยอมให้มีการฆ่าคน เป็นพันคน แล้วอ้างว่ายาเสพติดกำลังจะลดลง ยอมให้โกงได้ถ้าคนโกงทำให้ตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศสูงขึ้น หากสิ่งเหล่านี้ยังอยู่ต่อไปก็จะยิ่งทำให้ห่างไกลประชาธิปไตย และยิ่งนำไปสู่สภาพปลาใหญ่กินปลาเล็กมากขึ้นเท่านั้น



แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์