อ๋อย น้ำลายแตกฟอง อ้างสพรั่ง คนคุ้นเคย! ยกหูเคลียร์ใจ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2549 18:31 น.

จาตุรนต์ เผย พล.อ.สพรั่ง สายตรงขอเคลียร์ใจ ภาษาคนคุ้นเคย หลังเจอแฉนายทหารคุกคามอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย โดยระบุพรรคไม่อยากเผชิญหน้ากับ คมช.และพร้อมจะให้ข้อมูลเชิงลึกที่เปิดเผยในที่สาธารณะไม่ได้ หากต้องการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ขณะเดียวกัน แนะดับไฟใต้ต้องให้คนต่างศาสนาเข้าใจกัน และงบคุ้มกันครูและโรงเรียนควรมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว

วันนี้ (20 พ.ย.) ที่พรรคไทยรักไทย เมื่อเวลา 14.30 น.นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.ระบุว่า หัวหน้าพรรคไทยรักไทยควรให้ข้อมูลเรื่องทหารที่ไปข่มขู่คุกคามอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ว่า เท่าที่ได้อ่านคำพูดของ พล.อ.สนธิ โดยละเอียด แสดงให้เห็นว่า ท่านเป็นผู้ใหญ่ พร้อมรับฟังปัญหา และเข้าใจสิ่งที่ตนสะท้อนให้แก้ไข โดยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้รับโทรศัพท์จากพล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ.แจ้งว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.สนธิ ในฐานะที่ดูแลกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่ 3 ให้ประสานมายังตนเพื่อฟังข้อมูล โดย พล.อ.สพรั่งคุยด้วยความสุภาพ เป็นกันเอง เพราะคุ้นเคยกันมาก่อน ก็ได้บอกไปว่ารายละเอียดเรื่องนี้มีเสนอตามสื่อไปแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นการพูดในทิศทางใหญ่ๆ มากกว่า ท่านก็ไม่ได้ถามอะไรเลยในเรื่องนี้ ไม่ได้ให้ความสำคัญในรายละเอียดว่าเป็นบุคคลไหน อย่างไร ส่วนตัวก็ได้อธิบายให้เข้าใจว่า พรรคไทยรักไทยไม่ต้องการเผชิญหน้า หรือขัดแย้งกับ คมช. พล.อ.สพรั่งฟังแล้วก็แสดงความสบายใจ เพราะเชื่อว่า ต่างคนต่างมีเจตนาดีต่อบ้านเมืองเหมือนกัน ระบุถ้าจบตรงนี้จะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย

ท่านบอกว่า ในส่วนกองทัพภาค 2 และ 3 ถ้ามีข้อมูลอะไรก็สามารถประสานมายังท่านโดยตรงได้ท่านจะดูแลให้ ซึ่งตรงนี้เป็นท่าทีที่ตรงกับ พล.อ.สนธิ ที่บอกว่าไม่อยากให้เกิดความระแวง ต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ ผมก็ถือว่าได้ให้ข้อมูลในที่จำเป็น เพื่อให้หาทางในการแก้ปัญหา ท่านก็รับว่าจะไปดูแลทางนโยบายให้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องขอบคุณ พล.อ.สนธิ และพล.อ.สพรั่ง รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องหลายคนใน 4-5 วันมานี้ ที่ทราบว่ามีการประสานตรวจสอบว่ามีปัญหาตรงไหน ถ้าต่อไปยังต้องให้ไปชี้แจงอะไรอีกหรือไม่ ถึงวันนี้ผมไม่ทราบ เราก็เตรียมข้อมูลไว้ ถ้าเป็นข้อมูลในการแก้ปัญหาเท่าที่คุยกันก็น่าจะเพียงพออยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการลึกกว่านี้ ชัดเจนกว่านี้ ซึ่งผมก็ได้พูดไปแล้วว่าข้อมูลบางอย่างก็ไม่เหมาะที่จะนำมาเปิดเผย ให้กันแบบเชื่อถือกัน เพื่อไปแก้ปัญหาก็ยินดีให้ ขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าผู้ที่เกี่ยวข้องยังต้องการให้ดำเนินการอะไรอีกหรือไม่ ผมมีความเชื่อว่า ถ้ายุติที่ พล.อ.สพรั่ง หารือกับผมไว้อย่างนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย นายจาตุรนต์ กล่าว

นายจาตุรนต์ กล่าวถึง การเดินทางไปประชุมเอเปกของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ว่า สิ่งที่ต่างประเทศได้ให้ความสนใจ คือ การนำประชาธิปไตยกลับมาสู่ประเทศไทยโดยเร็วได้อย่างไร ซึ่งที่จริงแล้วเรื่องนี้รัฐบาลก็ได้ประกาศเป็นนโยบายไปแล้ว และนายกฯก็ได้ประกาศยืนยันกับต่างประเทศอีกว่าจะเร่งนำประชาธิปไตยกลับมาสู่บ้านเมืองให้มีการเลือกตั้งเร็วที่สุด ก็เท่ากับว่า นายกฯได้ประกาศยืนยันกับชาวโลกด้วย เท่ากับเป็นสัญญาประชาคมทั้งในและนอกประเทศ ถือเป็นเรื่องที่ดี ฉะนั้น ก็ให้กำลังใจนายกฯในการทำงานประสานกับหลายฝ่ายในเรื่องนี้ เพราะลำพังเพียงรัฐบาล หรือคณะรัฐมนตรีคงทำได้ยาก พรรคไทยรักไทยยินดีที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการสร้างประชาธิปไตย

รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยยังกล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า อยากเสนอแนะรัฐบาลให้มีการคุ้มครองประชาชนทุกหมู่เหล่า ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกที่ประชาชนทุกฝ่ายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คาดหวัง รัฐบาลควรกำหนดนโยบายที่เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพราะแม้จะมีการส่งสัญญาณหลายอย่างในทางสมานฉันท์ แสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย เน้นความยุติธรรม แต่ก็ยังไม่ปรากฏเป็นรูปธรรมชัดเจน ตรงนี้สำคัญเพราะถ้าไม่มีนโยบายที่ชัดเจนผู้ที่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถจะแยกแยะ หรือทราบได้ว่าจะให้ทำอย่างไร โดยเมื่อรัฐบาลทำนโยบายที่ชัดเจนขึ้นมาแล้วสิ่งที่ควรทำต่อไป คือ การปรับทัศนคติ สร้างความเข้าใจผู้บริหารและผู้ปฏิบัติ การต่อสู้ทางความคิดของประชาชนและสังคมโดยเฉพาะเยาวชน ผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน ถือเป็นเรื่องสำคัญ ต้องทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยและเข้าร่วมกับการแก้ปัญหา การเสนออย่างนี้เนื่องจากเห็นว่าที่ผ่านมามีการปรับนโยบายหลายครั้ง แต่ในการปรับแต่ละครั้งปรากฏว่าทั้งผู้บริหารและผู้ปฏิบัติจะไม่ได้รับฟังการชี้แจงว่าจะต้องทำอะไร อย่างไร แค่รู้สึกเพียงว่ามีการปรับแล้วเท่านั้นเอง ฉะนั้น วันนี้รัฐบาลควรจะทำนโยบายให้ชัดเจน ทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า สำหรับปัญหาสำคัญเฉพาะหน้า คือ การทำให้ประชาชนต่างศาสนากันมีความเข้าใจว่าทุกคนต่างก็ลำบากด้วยกัน ตรงนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและต้องรีบทำ อยากแนะนำให้ใช้ชุมชนเก่าแก่ที่ประชาชนต่างศาสนาสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างดีมาเป็น 100 ปี ซึ่งชุมชุนเหล่านี้ยังมีอยู่มากมายหลายแห่ง ควรใช้ชุมชนเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นในการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนใน 3 จังหวัดภาคใต้ นอกจากนี้ ในเรื่องของความปลอดภัยของครูและโรงเรียน จะเห็นว่า มีโรงเรียนที่ยังปิดอยู่หลายแห่ง เท่าที่ติดตามดูกระทรวงศึกษาธิการ พบว่ากำลังจะผลักดันการรักษาความปลอดภัย มาตรการรักษาความปลอดภัยครู ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกแล้ว แต่ที่อยากจะให้ความเห็น คือ นโยบายรักษาความปลอดภัยครูและโรงเรียนมักจะทำได้ช้าและได้งบประมาณไม่เพียงพอ ถ้าจะทำตามที่วางแผนไว้จริงๆ ต้องใช้งบประมาณมากกว่าที่เคยได้รับอีกมากหลายเท่าตัว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์