อ้างสกัดตัวป่วนแล้ว รัฐกลับลํา ไม่สลายการชุมนุม

จากกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เตรียมเดินหน้าไปชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ ถูกตำรวจสกัดไว้ก่อน จึงปักหลักยึดพื้นที่ถนนราชดำเนินนอก บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ จัดการชุมนุมและเปิดเวทีปราศรัย ที่เปลี่ยนเป้าหมายจากการเรียกร้องให้รัฐบาลถอนมติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 กลายมาเป็นการประกาศล้างระบอบทักษิณ  และไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ออกไป โดย 5 แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ถึงกับประกาศย้ำต่อหน้าผู้ชุมนุมว่าถ้าไม่ชนะไม่เลิกราด้วยนั้น 


“จำลอง” ยัวะ ตร.ขวางรถเข้ากลุ่ม


ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 31 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศที่สะพานมัฆวานฯ ว่ายังมีประชาชนราวสองพันคนปักหลักชุมนุมอย่างเหนียวแน่น โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมให้รถของผู้ที่จะเข้ามารวมกับกลุ่ม พันธมิตรฯผ่านเข้าไปในบริเวณที่ชุมนุม ดังนั้น จึงขอให้พี่น้องพันธมิตรฯรวมกลุ่มกันเข้าไปเจรจาโดยสันติวิธี จากนั้น  พล.ต.จำลองได้นำผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งไปทางหน้าวัดมกุฏฯ เปิดฉากเจรจากับตำรวจขอให้ปล่อยรถของสำนักสันติอโศกที่มีนายโพธิรักษ์ เจ้าสำนักสันติอโศก นั่งมาด้วย ซึ่งใช้เวลาเจรจาราว 5 นาที ตำรวจก็ต้องยอมเปิดทางให้รถคันดังกล่าวเข้ามา


“สมัคร” ฉะม็อบทำชาติพัง

 

จากนั้น ในเวลา 09.00 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ออกมาแถลงถึงเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 และช่อง 11 ว่า ตนมีความจำเป็นต้องมาพูดให้ประชาชนทั่วประเทศฟังถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่เชิงสะพานมัฆวานฯ เป็นความเสียหายอย่างยิ่งของบ้านเมือง อยากบอกว่ารัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งอย่างถูกต้องตามกติกา ทำงานมาใกล้จะครบ 4 เดือน ในวันที่ 6 มิ.ย. นี้ โดยรัฐบาลเข้ามาเริ่มต้นทำงานกันใหม่ ท่ามกลางปัญหาน้ำมันแพง สินค้าขึ้นราคา แต่ตนและ ครม.ทุกคนก็ทำงานให้บ้านเมืองอย่างเต็มที่ และทำงานร่วมกับข้าราชการได้เรียบร้อย วันนี้การเมืองเดินหน้ามาตามปกติมีขลุกขลักบ้าง เพราะเป็นรัฐบาลหลังการปฏิวัติ ซึ่งกำลังทำงาน แต่กลับมีคนไม่พอใจอ้างเหตุไม่ต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญ แต่ตอนที่รัฐธรรมนูญถูกฉีกทั้งฉบับ พวกนั้นไปมุดหัวอยู่ที่ไหน

ทั้งนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่

ไม่ใช่การช่วยเรื่องยุบพรรคหรือช่วยเหลือเรื่องคดีความ แต่ไอ้พวก 5 คนนี้กลับเอามาเป็นเหตุยึดถนนเคลื่อนขบวนขายหน้าไปทั่วโลก และเล่นรุนแรงขึ้นทุกวัน เมื่อไม่มีเหตุก็พยายามหาเหตุ แต่พอหาไม่ได้เพราะรู้ว่าชนวนดับหมดก็ไล่หาเหตุไล่ตนและรัฐบาลหาว่าเป็นรัฐบาลหุ่น


แฉจ้องป่วนหวังให้มีปฏิวัติอีก

นายสมัครได้กล่าวด้วยท่าทีที่ดุดันว่า “ไปฟังสิพูดจาหยาบคายทุกคน จะต้องโดนคดีความเรื่องหมิ่นประมาทวันนี้ผมจะบอกให้รู้ว่าสิ่งที่ท่านทั้งหลายได้ทำไปนั้น ผิดกฎหมายที่ไปยึดถนนแล้วตั้งกองกันขึ้น ทำไมผมจะไม่รู้ ความเคลื่อนไหวว่า มีการเตรียมการอย่างไร สิ่งที่ ร.ต.อ. เฉลิมพูดไปเพราะเรามีข่าวกรองมาว่าจะเล่นกันอย่างไร จะตูมๆๆ ตอนปีใหม่ก็จะทำจะเอาระเบิดโยนใส่กลางวงก็จะทำ เอาคนที่เป็นมือร้ายๆเข้ามาเรารู้หมด คนพวกนี้คิดอะไร คิดว่าวันนี้เป็นวันที่ 19 ก.ย.2549 หรือ ซึ่งผมจะเป็นคนดับปัญหานี้ ผมมีวิธีดำเนินการและจะทำด้วยความตั้งใจจริง” นายกฯกล่าว และว่าอยากบอกคณะที่ยึดบริเวณดังกล่าวว่า ทำแบบนี้หวังอะไร หวังใครจะมายึดอำนาจแล้วปฏิวัติกันอีกหรือ มันไม่มีเหตุและคนพวกนั้นก็ไม่มีเหตุเหมือนตอนปี 2549 ปีนี้เป็นปี 2551 นายกรัฐมนตรีชื่อนายสมัคร สุนทรเวช และเป็นรมว.กลาโหมด้วย ตนคุยกับแม่ทัพนายกองให้บ้านเมืองมีความเข้าใจดีระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายความมั่นคง 

สงสัย 5 หัวโจกต้องการทำอะไร

นายสมัครกล่าวว่า รัฐบาลนี้มาอย่างถูกต้อง ถ้าจะสู้ต้องมาสู้ในสภา แต่เดี๋ยวนี้มาใช้วิธีการเมืองภาคประชาชนทำกันข้างถนน ปลุกระดมเอาคนมาซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย อยากถาม 5 คน ที่เป็นหัวโจกว่าเป้าหมายที่ต้องการอยู่ตรงไหน ต้องการให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องเลือกตั้งกันใหม่หรือไม่ หากจะเลือกตั้งใหม่ภายใต้รัฐธรรมนูญกระโดกกระเดก จึงต้องมีการขอแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้การเลือกตั้งเข้าที่เข้าทางและได้มีการขอให้ทำประชามติว่าจะแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งหากจะแก้พรรคพลังประชาชนเพียงพรรคเดียวไม่สามารถแก้ได้ เพราะเสียงไม่ถึงต้องอาศัยเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบทั้งหมด ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญ กฎหมายก็บอกให้ทำได้และทุกพรรคก็บอกว่าจะแก้ทั้งนั้น แล้วเอาเรื่องนี้มาหาเหตุอะไรให้บ้านเมืองเสียหาย โดยเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่มีการยึดถนนนั้น ตนไปเป็นประธานประชุมทูตไทยประจำปี 96 คน ทุกคนล้วนแต่ส่ายหัวว่าทำไมบ้านเมืองเป็นแบบนี้จะให้ตอบว่า นายกฯมันเลวไม่เกรงใจสื่อหรือ ทูตจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

สั่งตำรวจ-ทหารเตรียมกำลังพร้อม


นายกรัฐมนตรีกล่าวต่ออีกว่า เหตุที่ต้องมาพูดวันนี้ไม่รอพูดพรุ่งนี้ เพราะวันนี้จะเอากันให้แตกหักกันวันนี้ให้คนทั้งบ้านเมืองได้รู้กันว่ารัฐบาล ตำรวจ ทหารนั้นรับผิดชอบ ตนเตรียมพร้อมไว้หมดแล้วจะเอาอย่างไรก็ไม่เป็นปัญหา แต่อยากบอกให้รู้ไว้ว่าอย่าทำสิ่งที่โง่เง่า ไม่เข้าท่า ขอให้ลองดู เพราะตนได้เตรียมตำรวจทหารไว้พร้อมหมดแล้ว ไม่ได้ขู่ แต่สิ่งที่พวกคุณมาข่มขู่กลางเมืองนั้น ไม่ได้ ตนจะต้องดำเนินการ พวกคุณจะหาที่ใหม่ อยู่กันสัก 1 ปีก็ไม่ว่า แต่จะมาทำตรงนี้ไม่ได้ ตนไม่มีวันยอม กว่าจะแก้ไขบ้านเมืองกลับมาได้แทบแย่ แต่ขณะนี้โทรทัศน์ก็ด่าไป โดยเฉพาะเอเอสทีวีที่ปลุกระดมผู้คนให้ทำอะไรต่างๆ ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงพูดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่เจ้าของไม่อับอาย บ้านเมืองเราแปลก ที่คนที่สื่อมวลชนไม่ชอบหน้าเป็นนายกฯไม่ได้ ตนไปเคยสั่งปิดหนังสือพิมพ์สักฉบับหรือไม่ อยากเตือนคนที่จะก่อการคืนวันนี้ และบอกประชาชนที่ไปมั่วสุมกับเขาให้ถอยออกมา ลองคิดดูเอาไอ้ 5 คนนี้ทำเพื่อบ้านเมือง หรือจะเอาใครมายึดอำนาจ ไอ้คนที่ให้สตางค์ไปซื้อกับข้าวเบิกเงินเบิกทองไปให้คุณต้องการอะไร


เตือนประชาชนอย่าวิตกทุกข์ร้อน


นายสมัครกล่าวว่า วันนี้ขอโอกาสบอกประชาชนว่าอย่าวิตกทุกข์ร้อน ไอ้ความขายหน้ามันไปทั่วโลกแล้วตนเห็นพี่น้องทั้งหลายหน้าตาดีๆทั้งนั้นไปนั่งตากฟ้า ตากฝน คาดหัวมันสนุกตรงไหน บ้านเมืองไม่ได้เลวทรามต่ำช้าวิกฤติถึงขนาดนั้น รัฐบาลกำลังบริหารบ้านเมืองอยู่ ตนรักบ้านเมืองไม่น้อยไปกว่าใคร จะแสดงความรักด้วยการปลุกระดมคน 5 คนมา บอกได้เลยว่าไม่สำเร็จ จะไม่ปล่อยให้บ้านเมืองเสียหายไปกว่านี้ ยืนยันประชาชนอย่าวิตกในการดำเนินงานแก้ไข ตนต้องทำหน้าที่นี้และทำมาแล้วหลายหน เมื่อคืนใกล้สองยามเต้นแร้งเต้นกากัน ดีใจด่าทอหยาบคาย ถือโล่กันพร้อมจะไปทำสงครามกับใคร มันเลวอย่างไรถึงจะขึ้นเวทีด่ากันไม่ยั้ง หน้าตาของรัฐบาลอยู่ที่ไหนฝรั่งเดี๋ยวนี้ไม่ต้องหาข่าว ดูข่าวหนังสือพิมพ์แล้วก็แปลกันตามนั้นเลยตีกันวันนั้นแป๊บเดียวซีเอ็นเอ็นออกแล้ว


ขู่หากไม่สลาย ตร.จะช่วยรื้อให้


นายสมัครกล่าวว่า ขอย้ำว่าให้ประชาชนทั้งประเทศ 63 ล้านคนอยู่ในความสงบสบายใจไม่มีปัญหาอะไรอื่นสำหรับคนที่ไปร่วมอยู่กับเขาท่านจะกลับไปตอนนี้ ใคร เป็นญาติพี่น้องก็บอกด้วยมันไม่มีเหตุผลจะไปร่วมกับคนพวกนี้ ถ้ายังอยากจะด่าทอจะอยู่ตรงนี้ไม่ได้ขอย้ำเป็นครั้งที่ 3 ว่า ได้ดำเนินการเตรียมการไว้พร้อมแล้วทั้งตำรวจ ทหาร ถ้าอยากให้ใครมาเป็นหัวหน้าปฏิวัติขณะนี้สถานการณ์ไม่มี รัฐบาลกับฝ่ายความมั่นคงเข้าใจกันดี “รายการนี้ไม่ได้มาท้าตีท้าต่อย แต่มีหน้าที่มาบอก ให้รู้ก่อนให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศรู้ว่า สถานการณ์ บ้านเมืองนี้เอาอยู่ครับ เรื่องอย่างนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ผมมีหน้าที่จะต้องรับผิดชอบและเพื่อความเป็นธรรม บอกให้รู้ซะก่อนว่าตำรวจต้องทำตามหน้าที่ คุณต้องรื้อของคุณออกด้วยตัวคุณเองก่อน ถ้าคุณไม่รื้อตำรวจจะรื้อ ขอให้รู้นะว่า พูดอย่างนี้เพื่อให้คนทั้งประเทศรู้ว่า เราเป็น รัฐบาล ผมมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ผมรับผิดชอบเรื่องนี้และผมจะรับผิดชอบทุกอย่างที่ตำรวจและทหารทำ ผมเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ใครที่ไหน และโปรดอย่ามาชี้หน้าด่าผมว่าเป็นรัฐบาลหุ่น ผมเป็นรัฐบาลผมไม่อยากใช้ถ้อยคำนี้ แต่ว่าตามสำนวนของราชการเขาใช้ว่ารัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณผมจะทำหน้าที่ของผม ไม่คิดว่าจะต้องอ้างเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน สุดท้ายนี้ ขอยืนยันว่าทุกอย่างเรียบร้อยจะไม่มีปัญหา อย่าได้วิตก” นายสมัครกล่าว

ซัด “จำลอง” กระตุ้นกองทัพยึดอำนาจ


ร.ท.กุเทพกล่าวว่า ที่ผ่านมา พล.ต.จำลองให้สันติอโศกเคลื่อนไหวตลอด และเป็นเหตุการณ์นองเลือดในช่วงพฤษภาทมิฬที่มีการยั่วยุให้จับ พล.ต.จำลอง และทำให้นองเลือด วันนี้รัฐบาลจะไม่ซ้ำรอยประวัติศาสตร์ แต่ พล.ต.จำลองหวังการปะทะ เพื่อให้ทหารยึดอำนาจ ส่วนกรณีนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ที่ขึ้นเวทีกลุ่มพันธมิตรฯนั้น ทำไมไม่ไปถามพรรคประชาธิปัตย์ว่าปล่อยให้ ส.ส.ขึ้นเวทีประชาชนที่ผิดกฎหมายในการยึดถนนได้อย่างไร พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยตอบคำถามนี้ ส่วนกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่เชื่อว่าตัวเองเปลี่ยนแปลงอะไรได้ตลอดนั้น พรรคจะนำเบื้องหลังมาโยงให้สังคมเห็นว่า การชุมนุมไม่ได้ทำเพื่อบ้านเมือง แต่ทำไปเพื่อประโยชน์เบื้องหลังของผู้ชุมนุม หากกลุ่มพันธมิตรฯเคลื่อนไหวในมุมและพื้นที่ของตัว เอง พรรคจะไม่สนใจ แต่หากทำให้ประชาชนเดือดร้อน พรรคต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ

ปชป.ชี้สมัครไม่มีสิทธิห้ามคนชุมนุม


ขณะที่ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ประกาศจัดการกับม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่า พรรคขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ว่าไม่ควรใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมเพราะอาจนำไปสู่การบาดเจ็บ ล้มตาย ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเกิดความบาดหมางมากขึ้นในสังคม แม้รัฐบาลจะมีหน้าที่ดูแลให้เกิดความเรียบร้อยในบ้านเมือง แต่ควรทำด้วยความเหมาะสม ไม่ควรใช้อำนาจที่มีอยู่ไปเพิ่มปัญหาให้มากขึ้น และการที่นายกฯเรียกร้องไม่ให้ประชาชนเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น การชุมนุมเป็นสิทธิของประชาชนที่จะดำเนินการได้หากไม่ขัดต่อกฎหมาย  และการที่ประชาชนเข้าร่วมชุมนุมเพราะมีจุดมุ่งหมายและความเห็นต่างจากรัฐบาล  ดังนั้น  แทนที่ จะเรียกร้องไปยังประชาชน นายกฯควรเรียกร้องไปยัง ส.ส. ในพรรคพลังประชาชนให้ยุติการดำเนินการที่จะนำไปสู่ ปัญหาวิกฤติบ้านเมืองจะเป็นประโยชน์มากกว่า แม้ ส.ส.จะมีสิทธิเสนอแก้รัฐธรรมนูญ  แต่ควรเป็นไปด้วยความชอบธรรมและเหมาะสม  ตนอยากถามว่าเวลานี้การ แก้รัฐธรรมนูญ เพื่อตัวเองถึงเวลาที่เหมาะสมและชอบธรรมหรือไม่

หึ่งไปทั่วโลกทหารจะปฏิวัติอีกรอบ


อย่างไรก็ตาม นายตำรวจระดับสูงสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ระบุยังไม่ได้รับคำสั่งดำเนินการสลายกลุ่มผู้ประท้วงจากนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช ขณะที่ พล.อ.  บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวยืนยันทหารจะไม่ดำเนินการแทรกแซงใดๆ ยกเว้นตำรวจควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ทั้งนี้ ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เกิดกระแสข่าวทหารจะก่อรัฐประหารขึ้นอีกครั้งในรอบ 2 ปี ขณะที่รัฐบาลนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช เริ่มทำหน้าที่บริหารประเทศตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา หลังชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งรัฐบาลนายกรัฐมนตรีสมัครถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกล่าวหาว่าพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ได้รับการสนับสนุนร่างโดยกลุ่มทหารที่ก่อรัฐประหารยึดอำนาจอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อ 19 ก.ย.ปี 2549 ทั้งยังพยายามปกป้องอดีตนายกฯทักษิณ จากข้อกล่าวหาคดีทุจริตคอรัปชัน


ลั่นหากถูกบุกให้ป้องกันตัวได้


กลุ่มพันธมิตรฯ ยังได้ประกาศมาตรการ 5 ข้อให้ผู้ชุมนุม คือ 1. ถ้าตำรวจบุกเข้ามาให้ใช้กำแพงมนุษย์ กันเอาไว้ 2. หากตำรวจทำร้ายร่างกายให้ป้องกันตัวได้ แต่อย่าเกินกว่าเหตุ 3. หากตำรวจใช้แก๊สน้ำตาให้ถือว่าบุกรุกและให้ป้องกันตัวได้ 4. หากตำรวจสลายม็อบได้ ให้กลับมาชุมนุมใหม่มากกว่า 5. ถ้าเจ้าหน้าที่ลิดรอนสิทธิ์ก็ให้รวมตัวกันเข้าชื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรี ไล่ไปจนถึงถอดถอนเจ้าหน้าที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งหมด พร้อมกันนี้ก็มีการเรียกร้องถามผู้ร่วมชุมนุมว่าสู้หรือไม่สู้ และปลุกเร้าให้ลุกขึ้นสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ทุกครั้งที่มีการปลุกเร้าว่าสู้หรือไม่นั้น ก็จะมีเสียงตอบรับ และเสียงเฮ ผสานกับปรบมือขานรับอยู่บ้าง

ท้าทายให้ ตร.รีบเข้าสลายม็อบ
 

กระทั่งเวลา 13.00 น. แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ นำโดย สมศักดิ์ โกศัยสุข เรียกผู้ชุมนุมไปรวมตัวหน้าเวที โดยมี รปภ.ของกลุ่มพันธมิตรฯ เดินตรวจสอบตามทางเข้า ต่างๆ เพื่อพร้อมรับการเข้าสลายการชุมนุม จากนั้น นายสมศักดิ์ได้ย้ำจุดยืนในการไล่รัฐบาล โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา มีข้อมูลการสลายม็อบพันธมิตรฯ  โดยนายกฯจะใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินสลายม็อบ ซึ่งทางกลุ่มก็ยืนยันว่าไม่หนีไปไหน ส่วนที่ผ่านมา แกนนำม็อบยังไม่มีการประชุม เพราะแกนนำบางคนเข้าไปต่อรองผู้ใหญ่ แต่ถ้าตำรวจจะสลายม็อบก็ให้เข้ามาสลายเร็วๆ เพราะมีการถ่ายทอดสดจะได้มีคน เห็นทั่วโลก ส่วนเรื่องความปลอดภัยจะมีการดูแลอย่างดี และจะต่อสู้ด้วยวิธีอหิงสา


เร่งปลุกเร้าผู้ชุมนุมให้พร้อมรับมือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับจากนั้นเป็นต้นมา บรรยากาศ ภายในม็อบเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆเป็นลำดับ เนื่องจากระดับแกนนำพันธมิตรฯได้ขึ้นเวทีกล่าวปลุกเร้าอารมณ์ ผู้ชุมนุมให้พร้อมที่จะสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการตั้งแถว รปภ. หากมีการบุกเข้ามาสลายการชุมนุม สลับกับการกล่าว โจมตีการทำงานของรัฐบาลนายสมัคร ที่มีอายุการทำงาน แค่ 4 เดือน และยังฟาดงวงฟาดงาไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกความชอบธรรมในการ ประกาศไล่รัฐบาลนายสมัคร ซึ่งก็ได้รับเสียงเฮและเสียงปรบมือจากผู้ชุมนุมได้เป็นระยะ 

พวกหนุนม็อบโทร.ป่วน “สมัคร”


ขณะเดียวกัน มีรายงานด้วยว่าหลังจากที่ผู้ชุมนุมทราบว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ประกาศสลายการชุมนุมด้วยกระบวนการภายใต้กรอบของกฎหมาย ก็ได้ตอบโต้นายกรัฐมนตรี ด้วยการเปิดเผยหมายเลขโทรศัพท์ ที่บ้านของนายกรัฐมนตรีให้กับผู้สนับสนุนการชุมนุมโทรศัพท์ไปแสดงความเห็นต่อการตัดสินใจในครั้งนี้ โทร.ไปคุยได้กับภริยาและบุตร รวมถึงบุคคลภายในบ้าน ทำให้มีผู้โทรศัพท์เข้าบ้านนายกรัฐมนตรีจำนวนมาก และยาวนานต่อเนื่อง จนเป็นเหตุให้ต้องมีการหยุดรับโทรศัพท์ ภายในบ้านตลอดทั้งวันที่ผ่านมา แม้นายกรัฐมนตรีไม่ได้อยู่ในบ้าน แต่ได้รับมอบหมายให้บุคคลใกล้ชิดโทรศัพท์มือถือมาสอบถามเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง

เสริมกำลังดูแลบ้านนายกฯ


สำหรับการรักษาความปลอดภัยบริเวณบ้านพัก นอกเหนือจากการดูแลของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ที่ตรึงกำลังและดูแลอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว พ.ต.อ.มันทาร อภัยวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ยังได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลในพื้นที่รับผิดชอบ ทั้งจากสถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ลาดพร้าว หัวหมาก บึงกุ่ม บางชัน ประเวศ อุดมสุข และวังทองหลาง ทั้งในและนอกเครื่องแบบมากกว่า 50 นาย กระจายกำลังกันดูแลโดยรอบบริเวณบ้านพัก พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมอุปกรณ์ ป้องกันและแผงเหล็กกั้น เพื่อรับมือสถานการณ์ความวุ่นวาย หากมีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมายังบริเวณบ้านของนายกรัฐมนตรี


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์