อึ้งเจอตะเพิด มาร์คปัด สั่งฆ่าประชาชน

นายกฯเปิดทำเนียบฯให้นักศึกษาแสดงความเห็น อึ้ง!เจอนศ.ไล่ลงจากเก้าอี้ จี้แสดงความรับผิดชอบสั่งฆ่าประชาชน โต้กลับไม่ได้สั่งสลายการชุมนุม โวไม่หวั่นลงสนามเลือกตั้ง แต่ต้องให้บ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติก่อน

เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมพบปะพูดคุยกับนิสิตนักศึกษาจาก 30 องค์กร 14 มหาวิทยาลัย จำนวน 150 คน ในหัวข้อ “ เปิดทางให้นักศึกษาและนิสิต?เปิดความคิดเพื่อปฎิรูป” โดยเปิดโอกาสให้ตัวแทนศึกษาซักถามและเสนอความคิดเห็นเรื่องต่างๆ ต่อรัฐบาล ทั้งนี้ในช่วงเริ่มต้นนักศึกษาได้เสนอให้นายกรัฐมนตรี ยกเลิก พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากเป็นละเมิดสิทธิประชาชน และขัดขวางแนวทางการปรองดอง ซึ่งนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า เบื้องต้นยังไม่มีพรรคการเมืองใดเสนอขอแก้ไข พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะเป็นกฎหมายพิเศษให้อำนาจในสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง แต่ได้ทยอยยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จนเหลืออยู่เพียง 7 จังหวัด และจะพยายามเข้าสู่การใช้กฎหมายปกติโดยเร็วที่สุด แม้การเคลื่อนไหวทางเมืองเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่จะต้องประสานงานกัน เพราะไม่ต้องการให้มีการกระทำรุนแรงหรือผิดกฎหมายมาเกาะเกี่ยวการเคลื่อนไหว ทางการเมือง ทุกครั้งมีข่าวว่า การบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กระทบกับนักศึกษา อาจารย์ ตนก็ตรวจสอบและกำชับให้ดำเนินการตามแนวทางที่ควรเป็น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีเจตนาปิดกั้นการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ต้องดูแลความสงบเรียบร้อย หากทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเร็วเท่าใด จะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยิ่งขึ้น ยืนยันรัฐบาลไม่มีนโนบายปิดสื่อที่มีความคิดเห็นแตกต่างทางการเมือง แต่ที่มีปัญหาคือ มีการทำผิดกฎหมายอื่นๆ ซึ่งต้องไปตามกฎหมาย

จากนั้นมีนักศึกษารายหนึ่งถามว่า ขอเสนอรัฐบาลรีบลงจากอำนาจโดยเร็วที่สุด และพาตัวเองเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ชำระความยุติธรรมให้ประชาชน 92 คนที่เสียชีวิตจากการปราบปรามสลายการชุมนุมในช่วงเดือน พ.ค. ซึ่งทันทีที่นักศึกษารายนี้ถามจบ ได้รับเสียงปรบมือเสียงดังจากนักศึกษาด้วยกัน ซึ่งนายกฯตอบคำถามด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายคุกคามคนที่มีความคิดเห็นต่างทางการเมือง ถ้ามีคนของรัฐบาลไปคุกคาม ขอให้แจ้งมา เราจะตรวจสอบแน่นอน แต่ถ้าถามว่า มีการคุกคามคนที่มีความเห็นทางการเมืองหรือไม่ ตอบได้เลยว่าโดนทุกคน ไม่ใช่เฉพาะคนที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล แม้แต่พวกตนก็โดนทุกวัน เป็นปัญหาที่สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงที่เริ่มฝังตัวเข้ามาในระบบการเมือง ไทย ในวันที่ตนต้องบริหารงานช่วงที่มีการชุมนุมเรียกร้อง มีความล่อแหลมต่อความรุนแรง เป็นเรื่องแปลกที่ต้องมากำชับเจ้าหน้าที่ทุกคนให้ระมัดระวังอย่างถึงที่สุด อย่าให้เกิดความสูญเสียขึ้นกับคนที่แม้จะขึ้นบนเวที และตั้งค่าหัวตนว่า ให้ไปจับนายอภิสิทธิ์มาดำเนินการ ขู่ฆ่าทั้งตนและครอบครัว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอให้ตนคืนอำนาจนั้น รัฐบาลมีสิทธิตารัฐธรรมนูญที่จะอยู่ถึงปลายปีหน้า ถ้าวันนี้ผู้ชุมนุมรับข้อเสนอตนที่ให้เลือกตั้งวันที่ 14 พ.ย. อีกเพียง 2-3 วันก็ยุบสภาเลือกตั้งได้แล้ว แต่เขาเป็นฝ่ายปฏิเสธข้อเสนอตนถึง 3 ครั้ง ตนถูกกดดันให้ใช้กำลังปราบปราม ก็ยังเสนอให้เลือกตั้งวันที่ 14 พ.ย. แต่ในที่สุดก็ไม่มีการตอบรับ และล้มข้อเสนอไป ส่วนความสูญเสียต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ และที่วัดปทุมวนาราม ก็กำลังตรวจสอบอยู่ว่าเกิดจากอะไร อย่างไรก็ตามพอยุติการชุมนุมก็มีการเผาเซ็นทรัลเวิล์ด สยามสแควร์ พอรถดับเพลิงเข้าไปก็ถูกยิง จึงใช้กำลังไปคุ้มกันรถดับเพลิง ทำให้มีการต่อสู้กันบริเวณถ.พระราม 1 ซึ่งอาจมีผลเกี่ยวเนื่องไปถึงวัดปทุมฯหรือไม่ ขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่ ตนไม่ได้กล่าวหาใคร แต่นี่คือข้อเท็จจริง

“การสูญเสียทั้งหมดในช่วง เดือน เม.ย.-พ.ค. ถ้าเป็นการสูญเสียเพราะตนสั่งปราบปรามสลายการชุมนุม ไม่ต้องวันนี้หรอกครับ ผมออกไปนานแล้ว แต่ไม่เคยมีการสั่งให้เข้าไปสลายเลย ทั้งหมดต้องให้คนกลางเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง เป็นอย่างไร เราก็จะมีความรับผิดชอบตามมา ผมพูดตลอดว่า ผมไม่เจตนาอยู่ครบเทอม ทั้ง ๆที่ผมมีสิทธิจะอยู่ แต่ผมไม่ต้องการการเลือกตั้งที่มีความรุนแรง ที่ยังมีการประกาศไล่ล่า ห้ามพรรคการเมืองเดินทางมาพื้นที่นั้นนี้ ซึ่งไม่ใช่จิตใจประชาธิปไตย ผมไม่ต้องการการเลือกตั้งที่ในที่สุดแล้วก็มาถกเถียงเรื่องกติกากันอีก โกงเลือกตั้งแล้วถูกยุบ ก็บอกว่าไม่เป็นธรรม เป็นต้น เราต้องเอากติกาให้ชัดว่า ผลออกมาตามกฎหมายเป็นอย่างไร ก็จะยอมรับกัน ถ้า 2 เงื่อนไขนี้มีเมื่อไร ผมพร้อมยุบสภา ผมไม่กังวล กลัวเรื่องจะแพ้ ชนะเลือกตั้ง ผมยอมรับการตัดสินของประชาชน ช่วงที่ผมมาอยู่ก็มีทั้งเลือกตั้งซ่อม เลือกตั้งท้องถิ่น ผมแพ้น้อยมาก ชนะเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ได้เกรงกลัวอะไร แต่ต้องการการเลือกตั้งที่สงบเรียบร้อย สนับสนับกระบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริง ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเสร็จการพบปะพูดคุยกับนักศึกษา น.ส.สุญญาตา เมี้ยนละม้าย ตัวแทนสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ได้ยื่นแถลงการณ์“10 กันยา รู้ทันนายกรัฐมนตรี” พร้อมรายชื่อผู้ต้องหาการเมืองที่ถูกจับกุม ถึงนายกฯเพื่อเรียกร้องให้เร่งยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยเร็ว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์