อำลาพล.ต.ขัตติยะนายทหารผู้เลือกยืนข้างประชาชน

ภายในวัดโสมนัสวิหารมีงานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดงเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2553 มีผู้เดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมากแน่นขนัดโดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงที่รักและชื่นชมเสธ.แดงรวมไปถึงญาติพี่น้องมิตรสหายของเสธ.แดงที่มาร่วมวางดอกไม้จันทน์หน้าศพส่งเสธ.แดงเป็นครั้งสุดท้าย


บรรยากาศงานศพที่คับคั่งไปด้วยผู้คนแต่งชุด สีขาว-ดำ

แต่หัวใจสีแดงมาพร้อมกับดอกไม้จันทน์บ้างก็ถือดอกไม้แดงเข้าแถวรอขึ้นเมรุวางหน้าศพเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น.กระทั่งเวลา 19.30 น.แถวที่ยาวเหยียดและแออัดจึงเริ่มเบาบางลง ผู้คนที่เดินทางมาร่วมงานศพมีทั้งคนกรุงเทพฯและคนต่างจังหวัดที่เหมารถเดินทางมาร่วมงานโดยเฉพาะจนทำให้หนังสือที่ระลึกที่เตรียมไว้แจกผู้มาร่วมงานมีไม่เพียงพอกับจำนวนคน


ผู้ที่มาร่วมงานพระราชทานเพลิงศพพล.ต.ขัตติยะต่างเศร้าโศก เสียใจ กับการจากไปของเสธ.แดงนายทหารในดวงใจของผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง

เปรียบเหมือนเกราะกำบังภัยเมื่อถูกทำลายลงการสูญเสียจึงเริ่มขึ้น นายสันติ  มีนาม ชาวจังหวัดราชบุรี กล่าวสดุดีเสธ.แดงว่า เป็นนายทหารคนเดียวที่กล้ามายืนข้างประชาชนขณะที่คนอื่นได้แต่มอง

"เมื่อสิ้นเสธ.แดงไปแล้วก็เหมือนกับประตูค่ายถูกทำลายคนเสื้อแดงตายเป็นเบือ ไม่มีทหารคนไหนที่คอยมาปกป้องยืนคุ้มกันให้พวกเราชาวเสื้อแดง คนที่คอยแต่งชุดทหารมาเดินตระเวนสร้างความอุ่นใจให้" นายสันติกล่าว



ขณะที่นางอตินุช เพิ่มสุข ชาวกรุงเทพฯ อายุ 60 ปี กล่าวว่า ความรู้สึกตอนนี้เหมือนกับว่า เสธ.แดงไม่ได้จากเราไปไหน

แม้ร่างกายจะสูญสิ้นไปแต่ยังเหลือดวงวิญญาณที่พวกเราเชื่อว่ายังคุ้มครองเป็นกำลังใจให้พวกเราสู้ต่อไปเพื่อชัยชนะ เสธ.แดงเป็นคนดี เข็มแข็ง เสียดายคนดีเป็นนายทหารคนเดียวที่เลือกอยู่ข้างประชาชน ถ้ากองทัพมีนายทหารอย่างเสธ.แดงประชาชนคงไม่ถูกฆ่า


นางบุบผา แดงแท้ อายุ 62 ปี ชาวปราจีนบุรีเหมารถบัสมาร่วมงานศพ กล่าวว่า รักและศรัทธาในตัวเสธ.แดง กล้าพูดกล้าทำ

เวลาที่อยู่กับพวกเราก็อุ่นใจแต่เมื่อจากไปก็น่าเสียดาย ตอนที่ได้ยินช่าวก็รู้สึกช็อคมากและเสียใจมาก หลังเสธ.แดงตายสถานการณ์เลวร้ายลง มีคนตาย ขอไว้อาลัยให้กับวีรบุรุษประชาธิปไตย หากมีการนัดชุมนุมอีกจะมาร่วมตอนนี้ได้แต่รอนับวันเวลา


นายสมจิตร ณ บางช้าง อายุ 74 ปี ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์วันที่เสธ.แดงถูกยิง เดินทางมาร่วมศพกับเพื่อนกล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกเฉยๆทำใจได้แล้ว เพราะคนตายไปแล้ว เห็นคนเดินทางมาเยอะมากจนเข้าไปไม่ถึง เพราะเสธ.แดงเป็นคนนิสัยดี ชอบหัวเราะ คุยสนุก การสูญเสียคนดีไปยอ่มทพให้ทุกคนเสียใจ


นางสำรวง สืบศรี อายุ 48 ปี ชาวลพบุรี กล่าวว่า เดินทางกันมาโดยรถตู้ทั้งหมด 15 คัน เสียเงินคนละ 110 บาทชักชวนกันมา

บางคนมาอยากมาเที่ยวมาดูบ้างคนก็มาเพราะศรัทธาเสธ.แดง ได้มาเห็นผู้คนจำนวนมากก็รู้สึกว่าคำพูดที่พวกเราเคยสัญญากันไว้ว่าจะไม่ทิ้งกันมีเป้าหมายเดียวกันมันเกิดขึ้นจริงโดยไม่ได้นัดหมาย ทุกคนที่มาเพราะชื่นชมเสธ.แเง ที่เป็นคนจริงใจ เสียสละ

สำหรับหนังสือดังกล่าว มีปกสีแดง จารึกลายเซ็น "เสธ.แดง" ด้วยหมึกสีทอง ภายในเล่มประกอบไปด้วยชีวประวัติ คำไว้อาลัย

ทั้งจากอดีตผู้บังคับบัญชาและเพื่อน ตท.11 เขียนไว้อาลัยถึง "เพื่อนยะ" ซึ่งเป็นนามเรียกขานของ เสธ.แดง ที่รู้จักในรุ่นกว่า "ยะ ยี่เอ็ง" และกลายมาเป็นนามปากกาในการเขียนพ็อคเก็ตบุ๊กคม เสธ.แดง ทั้ง 7 ภาค
ส่วนคำไว้อาลัยที่น่าสนใจคือเพื่อน เสธ.แดงที่ใช้ชื่อว่า "เสธ.ตุ๊"โดยเนื้อหาระบุว่า "เคยเตือน เสธ.แดงทางโทรศัพท์หลายครั้งว่าให้ระวังตัว ไม่มีใครเค้าทำยุทธหัตถีกับมึงหรอก เขาจะยิงกบาลมึง มึงระวังตัวให้ดี...การคุยกันครั้งสุดท้าย ผมยิ่งกังวลใจมาก เพราะตอนเช้าวันนั้น ผมเข้าไปที่หน่วยงานหน่วยหนึ่ง และได้ยินเพื่อนคนหนึ่งพูดว่า ภายในอาทิตย์นี้ ไอ้แดงตายห่าแน่ แล้วมันก็ถูกยิงตายจริงๆ"


"ขออาราธนาให้มือปืนที่ลั่นกระสุน ตลอดจนผู้ร่วมกระบวนการทั้งหลายทุกระดับชั้น ประสบแต่ความสุขความเจริญ และเมื่อสิ้นอายุขัยก็ขอให้ขึ้นสวรรค์กันทุกคน เพราะพวกมึงคิดว่ามึงทำถูกแล้ว ส่วนแดงเพื่อนรัก เราไปนรกดีกว่า เพราะรู้ข่าวมาว่าสวรรค์ก็มีดับเบิ้ลสแตนดาร์ด เพื่อนไปก่อน และกูจะตามไป แต่เพื่อนอย่าเพิ่งอาละวาดกับยมบาลนะ รอกูก่อน"


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์