อัยการส่งศาลรธน.ยุบ´ทรท.-ปชป.´รวมอีก3พรรคเล็ก

กรุงเทพธุรกิจ

27 มิถุนายน 2549 18:59 น.
คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง สำนักงานอัยการสูงสุด มีมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคไทยรักไทย-ประชาธิปัตย์ รวมทั้งอีก 3 พรรคเล็ก

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : อัยการสูงสุดมีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักไทย และประชาธิปัตย์ รวมไปพร้อมกับพรรคเล็กอีก 3 พรรค หลังพิจารณามูลฟ้องชี้ชัดฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง พ.ศ. 2541 มาตรา 66 ย้ำเป็นอำนาจอัยการสูงสุดตัดสินใจเด็ดขาด มั่นใจไม่มีอำนาจทางการเมืองครอบงำ คาดส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญได้ในสัปดาห์นี้

นายอรรถพล ใหญ่สว่าง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ร้องให้อัยการสูงสุดดำเนินการตามมาตรา 63 แห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 เพื่อยุบพรรคการเมืองว่า หลังจากที่ประชุมได้พิจารณากรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะที่เป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้ส่งคำร้องให้ยุบพรรคการเมือง 5 พรรค

ประกอบด้วยเรื่อง ให้ยุบพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พรรคพัฒนาชาติไทย พรรคแผ่นดินไทย พรรคไทยรักไทย และพรรคประชาธิปัตย์ โดยที่ประชุมในวันนี้ได้พิจารณาเรื่องยุบพรรคการเมืองทั้ง 5 พรรคพร้อมกันในคราวเดียวกัน

เนื่องจากข้อเท็จจริงของทั้ง 5 พรรคการเมืองมีความเกี่ยวเนื่องกัน โดยที่ประชุมที่ประกอบด้วยองค์ประชุม 11 คน ได้ตรวจสอบเอกสารสำนวนและพยานวัตถุทั้งหมดแล้ว คณะกรรมการฯ ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้เสนอความเห็นต่ออัยการสูงสุดเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคการเมืองทั้ง 5 พรรค

"มติของคณะกรรมการฯ ขอแถลงเป็นข้อกฎหมายสั้น ๆ ว่า คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พรรคพัฒนาชาติไทย พรรคแผ่นดินไทย และพรรคประชาธิปัตย์ กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง พ.ศ. 2541 มาตรา 66 (2) และ (3) ส่วนพรรคไทยรักไทยกระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง พ.ศ. 2541 มาตรา 66 (1) และ (3) ดังนั้น คณะกรรมการฯ จึงมีมติให้เสนอความเห็นต่ออัยการสูงสุดเห็นควรยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อมีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมืองทั้ง 5 พรรค ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง มาตรา 67" นายอรรถพล กล่าว

ต่อคำถามว่า กรณีการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์มีการอ้างเป็นการกระทำเพราะต้องการหยุดการทำผิดกฎหมายของพรรคไทยรักไทย ทำไมจึงเป็นความผิด นายอรรถพล กล่าวอีกว่า เมื่อพิจารณาจากหลักฐานแล้วแม้การกระทำจะเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระแต่เป็นการกระทำความผิดทั้งคู่ และเหตุผลที่นำมาร่วมกันเพราะเหตุผลจากเอกสารแม้ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่มีส่วนหนึ่งเกี่ยวกับพรรคเล็กด้วย จึงสามารถพิจารณาได้ในวาระเดียวกัน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์