อริสมันต์ลั่นถูกจับกุมโดยไม่ชอบ จี้ตร.ปล่อยตัว สมชายรุดเยี่ยมนปช.ที่พัทยา โดนด่าหน้าชาทำชาติพัง


ตร.บุกรวบ"อริสมันต์"คาบ้าน ข้อหามั่วสุมยุยงจับตัวนายกฯ นำขึ้น"ฮ."คุมที่ค่าย ตชด.นเรศวร ตร.ชลบุรีรวมหลักฐานขอจับแกนนำเพิ่ม เมียโผล่ขึ้นเวทีเสื้อแดงร้องขอตัวผัวคืนเป็นลมล้มพับหลังเวที "สมชาย"รุดเยี่ยมแนวร่วมที่พัทยา เจอด่าหน้าชาทำชาติพัง

 
รวบ"อริสมันต์"ยุยงจับตัวนายกฯ
 
หลังจาก นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำของกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง นำแนวร่วมบุกโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช พัทยา สถานที่จัดงานการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา จึงได้มีการควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีในข้อหาเป็นตัวการยั่วยุให้ประชาชนกระทำผิดกฎหมายและฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการไล่ล่าทำร้ายนายกรัฐมนตรี

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 เมษายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยว่าสืบเนื่องจากฝ่ายกฎหมายของ บช.น. ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จากการดำเนินการของกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง พฤติการณ์ดังกล่าวได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานและนำเสนอขออนุมัติต่อศาล และมีคำสั่งออกเป็นหมายจับ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งขอไปหลายคนแต่ศาลอนุมัติเพียงคนเดียวเพราะพฤติการณ์เข้าข่าย ส่วนรายอื่นๆ ศาลพิเคราะห์ว่ายังไม่ชัดเจน จึงยังไม่อนุมัติให้

พล.ต.ต.สุพรกล่าวว่า  เมื่อเช้าวันนี้ (12 เมษายน) ตำรวจได้ไปขอหมายค้นบ้านพักนายอริสมันต์ ซึ่งเจ้าตัวพยายามปีนหลบหนี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ข้อศอก ตำรวจสามารถควบคุมตัวได้ตามหมายจับ นำตัวไปสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จ.ปทุมธานี  สถานที่สำหรับการดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องที่จับกุมได้กรณีที่ไม่มามอบตัว ซึ่งจะมีพนักงานสอบสวนภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.สอบสวนปากคำผู้ต้องหา ตามหมายศาลอาญา เลขที่ 983/2552 ลงวันที่ 11 เมษายน ข้อหากระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน

พล.ต.ต.สุพรกล่าวอีกว่า กล่าวง่ายๆ คือ มีพฤติการณ์ยุยงให้ประชาชนไปจับกุมตัวนายกรัฐมนตรี อันนี้เป็นการเกินเลยกว่าการชุมนุมตามกรอบของกฎหมายรัฐธรรมนูญ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าออกหมายจับได้  ซึ่งคดีนี้เป็นคนละส่วนกับการกระทำที่พัทยา ชลบุรี อันนั้นต้องว่ากันอีกกรรม  ทราบจากฝ่ายรับผิดชอบกฎหมายว่า ศาลใช้เวลาในการพิเคราะห์เป็นเวลานานพอสมควร

คุมตัวขึ้น"ฮ."ขังค่ายนเรศวร

ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ภาค 1 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ตำรวจนครบาลควบคุมตัวนายอริสมันต์ มาสอบสวนโดยตำรวจตชด.ภ.1 นำรั้วลวดหนามมาปิดกั้นมิให้บุคคลภายนอกเข้ามาภายในเขต พร้อมทั้งตำรวจจาก สภ.คลองห้า อ.คลองหลวง จำนวน 20 นาย ตั้งด่านจุดสกัดบริเวณริม ถนนเรียบคลองห้า ปากทางเข้ากองบังคับการ ตชด.ภ.1

เวลา 11.00 น. นายศิริชัย โพธ์ศรี ทนายความของนายอริสมันต์ ขอพบตัวนายอริสมันต์ และขอทราบข้อกล่าวหาจากเจ้าพนักงานสอบสวน และในเวลาไล่เลี่ยกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ 1 ในแกนนำนปช. มาพร้อมกลุ่มม็อบเสื้อแดงกว่า 200 คน พร้อม น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย เข้าสมทบให้กำลังใจกับกลุ่มเสื้อแดง โดยกลุ่มเสื้อแดงใช้รถยนต์ส่วนตัวกว่า 20 คัน และรถมอเตอร์ไซด์คุ้มกันขบวน ติดตามนายจตุพร พร้อมใช้รถยนต์ติดเครื่องขยายเสียงปราศรัยโจมตีรัฐบาล และเชิญชวนประชาชนออกมาให้กำลังใจนายอริสมันต์ที่ถูกคุมตัว

ต่อมา พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1  เข้าไปที่ควบคุมนายอริสมันต์  มีนายจตุพร นายศิริชัย และ น.ส.พรพิมล ได้รับอนุญาตเข้าไปภายในกองบังคับการ ตชด.ภ.1 ก่อนที่จะออกมาแจ้งให้กลุ่มเสื้อแดงที่รออยู่ด้านนอกรับทราบว่า เจ้าหน้าที่ได้ย้ายนายอริสมันต์ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปควบคุมตัวที่ค่ายนเรศวร หรือกองกำกับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการ ตชด. อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี   จากนั้นกลุ่มม็อบเสื้อแดงได้ถอนตัวและกลับไปสมทบกับกลุ่มเสื้อเสื้อแดงที่ทำเนียบรัฐบาล

ระดมหน่วยปราบจลาจลคุมเข้ม

แหล่งข่าวกล่าวว่า หลังมีการนำตัวนายอริสมันต์มาไว้ที่กองบังคับการ ตชด.ภ.1 นายอริสมันต์ไม่ยอมแตะต้องของรับประทาน โดยบริเวณข้อศอกซ้ายมีบาดแผลเป็นทางยาว และนายอริสมันต์ได้กล่าวกับแหล่งข่าวว่าไม่อยากให้ย้ายตัวไปควบคุมตัวที่อื่น อยากจะอยู่ที่ ตชด.ภาค 1 มากกว่า เพราะเกรงจะได้รับอันตรายจากภัยมืด

เวลา 15.00 น. เฮลิคอปเตอร์ ลงที่ลานจอดของกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการ ตชด. ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ก่อนขึ้นรถตู้มายังอาคารกองบัญชาการ โดยนายอริสมันต์สวมชุดเสื้อสีแดงถูกใส่กุญแจมือไขว้หลัง มีสีหน้าเคร่งเครียดและไม่เอ่ยปากพูดจาแต่อย่างใด ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ ตชด. ในเครื่องแบบพร้อมอาวุธครบมือกว่า 10 นาย ควบคุมตัวอย่างใกล้ชิด และยืนระวังเฝ้าเหตุบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นและรอบอาคารอย่างเข้มงวด
 
ทั้งนี้ ได้มีการระดมกำลังตำรวจชุดปราบปรามจราจลพร้อมโล่และกระบองจำนวน กว่า 100 นาย เตรียมความพร้อมเพื่อรับเหตุที่ไม่คาดหมายด้วย

ทีมทนายนปช.งง ข้อหาไล่ล่านายกฯ

ก่อนหนานี้ เวลา 12.30 น. ที่มูลนิธิ 111 ไทยรักไทย  ทีมทนายมูลนิธิแถลงข่าวการจับกุมนายอริสมันต์ โดยนายอุดม โปร่งฟ้า กล่าวว่า เมื่อเวลา 06.00-08.00 น. วันที่ 12 เมษายน ได้รับแจ้งจากนายอริสมันต์ว่าถูกเจ้าหน้าที่จู่โจมเข้าจับกุมบริเวณบ้านพัก ทีมทนายจึงประสานไปยังสน.ลาดพร้าวเจ้าของพื้นที่ ปรากฎว่าไม่พบนายอริสมันต์  จึงเกรงว่านายอริสมันต์อาจไม่ได้รับปลอดภัย  ขอเรียกร้องให้พล.ต.อ.พัชรวาท ออกมาชี้แจงให้ประชาชนคลายสงสัย เพื่อเตรียมยื่นต่อศาลขอให้ไต่สวนฉุกเฉินเกี่ยวกับข้อหาถ้าไม่ชัดเจนก็ขอให้มีการปล่อยตัวชั่วคราว

ด้านนายคารม พลทะกลาง ทนายกลุ่มนปช. กล่าวว่า สามารถติดต่อทางโทรศัพท์กับนายอริสมันต์ เวลา 10.00 น.เศษ โดยนายอริสมันต์บอกว่า กำลังอยู่บนรถตู้ ซึ่งในขบวนมีทั้งหมด 7 คัน และไม่ทราบว่าจะไปที่ไหน จากนั้นโทรไปอีกครั้งก็ติดต่อไม่ได้ ทราบจากข่าวว่าเป็นข้อหายุยงให้มีการไล่ล่านายกฯ ยังไม่เคยเจอว่าในกฎหมายไหนบอกไว้เรื่องการตั้งข้อหาไล่ล่านายกฯ จึงไม่แน่ใจว่า มีการอาศัยกรณีที่นายอริสมันต์ไปพัทยา มาออกหมายจับแกนนำหรือไม่ ทั้งที่กรณีของนายอริสมันต์หากจะจับ น่าจะเป็นการผิดกฎหมายอาญามาตรา 215 คือ ชุมนุมซ่องสุมมากกว่า ไม่ใช่ยุยงให้จับตัวนายกฯ และที่พูดกันบนเวทีเสื้อแดง ว่าเจอนายกฯที่ไหนจะจับตัว มันหมายถึงเจอที่ไหนจะไล่ต่างหาก

รองผบช.น.ปัดจับ"จตุพร"ด้วย

จากนั้น เวลา 13.40 น. นายคารม ทนายความของ นปช. ไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น)  ขอทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการออกหมายจับนายอริสมันต์  เพราะไม่สามารถยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวเพราะเป็นวันหยุด 

ขณะที่ พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองผบช.น. กล่าวภายหลังการเข้าพบของทนายความ นปช. ว่า หมายจับที่ศาลอนุมัติจับกุมเวลานี้มีเพียงนายอริสมันต์ เพียงคนเดียว สำหรับกรณีของนายจตุพร ที่มีข่าวออกมาว่าถูกคุมตัวไปด้วยนั้น ข้อเท็จจริงคือนายจตุพรได้ไปพบนายอริสมันต์ระหว่างที่ตำรวจพาตัวจะไปฝากขังต่อศาล แล้วขอติดตามไปด้วย ซึ่งถูกกดดันจนไม่สามารถฝากขังต่อศาลได้  ทางตำรวจทำความเข้าใจกับทนายความแล้ว จะดำเนินการต่อคือการประกันตัว

ต่อมานายจตุพรติดต่อแกนนำนปช.บนเวทียืนยันว่าไม่ได้ถูกจับกุมตัว ส่วนนายอริสมันต์ถูกควบคุมตัวไว้ที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ค่ายนเรศวร) อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

ตร.ชลบุรีเตรียมขอจับแกนนำ

ด้าน พล.ต.ต.บัณฑิต คุณจักร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยความคืบหน้ากรณีกลุ่มคนเสื้อแดงบุกเข้าไปในการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่โรงแรมรอยัลคลิฟบีช รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี ทำให้เกิดทรัพย์สินของโรงแรมเสียหาย ว่า กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับบรรดาแกนนำพากลุ่มคนเสื้อแดงรวมทั้งกลุ่มเสื้อแดงที่เข้าไปทำความเสียหายในครั้งนี้ อาศัยภาพถ่ายที่ได้จากการจัดชุดตำรวจที่ถ่ายไว้ รวมทั้งผู้หวังดี เพื่อประกอบในสำนวนคดี  เน้นบรรดาแกนนำก่อน หากพบว่ามีใครกระทำความผิดจริง จะออกหมายจับทันที

นอกจากนี้ พล.ต.ต.บัณฑิต ยังกล่าวถึงการออกหมายจับกลุ่มเสื้อแดงที่ไล่ทุบรถของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน ขณะนี้ได้ออกหมายจับแล้วประมาณ 12 คน มีนางจิดาพา ธนหัสชัย เป็นผู้ต้องหาคนหนึ่งในกลุ่มเสื้อแดง

โชคดีรร.ใช้กระจกนิรภัยเจ็บน้อย

ต่อมาตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ไปเก็บลายนิ้วมือที่บริเวณกระจกด้านหน้าอาคารห้องประชุม ที่โรงแรมรอยัลคลิฟบีช รีสอร์ท พัทยา ที่ถูกกลุ่มเสื้อแดงทุบจนแตก และนายเวก จันทรทอง อายุ  58 ปี หัวหน้าฝ่ายช่างประจำโรงแรม พร้อมลูกน้องได้มาวัดกระจกแคมเปอร์ รามิเนท ความหนา 12 มิลลิเมตร ที่แตกซึ่งกระจกชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษเป็นกระจกนิรภัย จำนวน 5 แผ่น ต้องสั่งทำพิเศษใช้เวลาถึง 15 วัน ประเมินราคาเฉพาะกระจกประมาณ 1 แสนบาท ส่วนความเสียหายของทรัพย์สินอื่นๆ ที่ถูกพวกเสื้อแดงเข้าไปทำลายยังมีอีกหลายรายการ โดยเฉพาะความเสียหายของภูมิทัศน์โดยรอบของโรงแรม เช่นต้นไม้ ถือว่าเป็นโชคดีของคนเสื้อแดงถ้าเป็นกระจกธรรมดารับรองต้องเสียชีวิตหลายรายแน่นอน

"สมชาย"โผล่เยี่ยมเสื้อแดงถูกยิง

เวลา 10.00 น. ที่โรงพยาบาลบางนา 1 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และน้องเขยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของนายสุชิน นาโสภณ อายุ 64 ปี ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา อาชีพขับรถแท๊กซี่ ซึ่งถูกยิงที่ขาซ้ายจากเหตุการปะทะกันระหว่างกลุ่มเสื้อน้ำเงินและกลุ่มเสื้อแดงที่พัทยา เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ

นายสุชินเล่าให้นายสมชายฟังว่า ระหว่างที่ขับรถแท๊กซี่พากลุ่มเสื้อแดงเข้าวเมืองพัทยา เตือนคนในรถให้ระวัง แต่ไม่ทันขาดคำ เมื่อรถขับผ่านสะพานลอย ก็ได้ยินเสียงปืนดัง 4 นัด ปรากฎว่ากระสุนปืนเจาะทะลุกระจกรถด้านหน้าของตนมาโดนขาซ้าย ส่วนคันหลังทราบว่ากระสุนโดนที่ไหล่  พวกไปกันอย่างสงบสันติไม่มีอาวุธเพราะตั้งใจอยากเห็นประชาธิปไตยเกิดขึ้นในบ้านเมือง เพราะบ้านเมืองบอบช้ำมา 2-3 ปี และไม่ปฏิบัติกันแบบ 2 มาตรฐาน

ยกย่องเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์

จากนั้น นายสมชายกล่าวว่า นายสุชินเป็นคนที่น่ายกน่องเป็นตัวอย่าง เชื่อว่าอุดมการณ์ยังคงดำรงอยู่ต่อไป และเราคือเพื่อนร่วมอุดมการณ์กัน เชื่อว่าไม่ชอบเหมือนกันเรื่อง 2 มาตรฐาน และขอประณามคนที่มาทำร้าย นอกจากนี้นายสมชายยังกล่าวกับบุตรสาวของนายสุชินว่า พ่อเป็นคนดี และเก่ง ที่บอกว่าถูกจ้างมาไม่มีเด็ดขาด

นายสมชายกล่าวว่า ที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการที่เด็ดขาด รัฐบาลก็ต้องตัดสินใจว่าควรทำอะไรที่ดีที่สุดกับประเทศและประชาชน ส่วนบ้านเมืองจะสงบเมื่อไหร่นั้น เมื่อไหร่ที่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบและยอมรับฟังเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนก็จะสงบ แต่ถ้ายังมีเบื้องหน้าเบื้องหลังกัน ก็ไม่สงบ เพราะคนส่วนใหญ่จะไม่ยอมรับ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวไปเมืองดูไบ พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณก่อนกลับมาประเทศไทย นายสมชายกล่าวว่า ผมก็เดินทางไปต่างประเทศ บางทีเดือนหนึ่ง 3-4 ครั้ง ไปไหนมาไหนเยอะแยะไปหมดŽ เมื่อถามว่า รวมถึงดูไบด้วยใช่หรือไม่ นายสมชายทำหน้างงๆ ก่อนกล่าวว่า ดูไบเหรอŽ แล้วรีบหนีขึ้นรถทันที

"สมชาย" เจอด่าในลิฟต์ทำชาติพัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายสมชายออกจากห้องนายสุชิน เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อมีหญิงวัยรุ่นคนหนึ่ง อายุกระมาณ 25 ปี สวมเสื้อยืดสีน้ำตาล กางเกงยีนส์ ที่ยืนรออยู่หน้าห้องมาสะกิดนายสมชาย ก่อนกล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจ ว่า "ท่านอดีตนายกฯคะ บ้านเมืองเสียหายยับเยินอย่างนี้แล้ว จะแก้กันอย่างไร" ทำให้นายสมชายอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะทำเป็นหันไปคุยกับผู้ติดตาม

แต่หญิงคนดังกล่าวยังไม่ลดละ และไปยืนรอนายสมชายอยู่หน้าลิฟต์ ทำให้นายสมชายต้องทำทีเป็นทักทายผู้ป่วยคนอื่นที่อยู่ระหว่างทางเดินเข้าลิฟท์ และเมื่อดินมาถึงลิฟท์ หญิงคนดังกล่าวพูดกับนายสมชายอีกว่า ที่ถามไปตอบไม่ได้เลย ไม่อายเลย ทำให้นายสมชายตอบสั้นๆ ว่า "อย่าพูดกันตอนมีอารมณ์ ขอให้ใช้เหตุผล" แล้วเดินหนีเข้าลิฟต์ไป

แต่หญิงคนดังกล่าวยังตามเข้าไปในลิฟต์ และว่ากล่าวใส่นายสมชายอีกว่า "แสดงว่าเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ใช้เหตุผลอย่างเดียวเลยล้วนๆ ไม่ใช่อารมณ์ใช่ไหม บ้านเมืองเดือดร้อนกันไปหมดแล้ว โรงงานปิดหนีไปต่างประเทศกันหมดแล้ว ยังไม่รู้จักสำนึกกันอีก ดิฉันประชาชนตัวจริง นี่ไงคนไม่มีสี เบื่อจะแย่อยู่แล้ว ทำอะไรกัน เบื่อ โคตรจะเบื่อเลย" ซึ่งนายสมชายได้แต่นิ่งฟังและหน้าเสีย กระทั่งประตูลิฟท์เปิด หญิงคนดังกล่าวก็แยกไปชำระเงินแผนกการเงินผู้ป่วยในตามปกติ ขณะที่นายสมชายเดินทางกลับ 

"เมียอริสมันต์"เป็นลมขอผัวคืน

นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง อายุ 38 ปี ภรรยานายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ นปช. แถลงหลังเวทีชุมนุมมวลชนเสื้อแดง เวทีสะพานชมัยมรุเชฐ เมื่อเวลา 13.42 น. วันที่ 12 เมษายน ว่าวันนี้เวลาประมาณ 10.00 น. ตำรวจ สน.ดุสิตได้ไปที่บ้าน 2 คันรถ และจับกุมนายอริสมันต์ไป โดยตอนนี้ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ดังนั้น ขอฝากไปยังตำรวจ ช่วยนำตัวนายอริสมันต์กลับคืนมาด้วย เพราะโทรศัพท์ 3 เครื่องติดต่อไม่ได้เลย จึงเป็นห่วงสามี เพราะไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน ภายหลังการแถลงข่าว นางระพิพรรณก็เป็นลมล้มพับ จนต้องประคองตัวไปปฐมพยาบาล

"อริสมันต์"โฟนอินเล่าเหตุการณ์ถูกจับ

ต่อมา เวลา 14.10 น. นายอริสมันต์โทรศัพท์มาเล่าเหตุการณ์ถูกจับให้สื่อมวลชนฟัง ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ และนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช.อีกคน ได้ถ่ายทอดคำพูดว่า เมื่อตอน 9 โมงเช้า ถูกจับบริเวณลานจอดรถ บ้านสวนธน และถูกนำตัวไป เริ่มต้นบอกว่าจะนำไปที่ บช.น. ต่อมาเปลี่ยนเส้นทางไปยัง บก.ตชด. ก่อนเปลี่ยนเส้นทางอีกครั้ง ไปยัง ตชด.ภาค 1 และสุดท้ายนำขึ้นเฮลิคอปเตอร์พร้อมนายจตุพร โดยไม่บอกปลายทาง

"ผมขอทนายก็ไม่ให้พบ ผมขอไปศาลก็ไม่ให้ไป สุดท้ายจับตัวผมขึ้นเฮลิคอปเตอร์และมาลงกลางทางเปลี่ยนเฮลิคอปเตอร์อีกครั้ง เป็นเฮลิคอปเตอร์ตำรวจหมายเลข 2601 ไม่ทราบว่ามุ่งหน้าไปไหน จนผมต้องตัดสินใจอะไรบางอย่างอยู่บนเฮลิคอปเตอร์นั้น โดยมีการแย่งกันคอนโทรลบังคับเครื่อง และผมได้ต่อสู้กับตำรวจ และบังคับให้เฮลิคอปเตอร์ลงที่กองพันทหารสื่อสารที่ 1 รักษาพระองค์ ที่สวนพลู ดังนั้น อยากให้ไปเล่าให้ฝ่ายกฎหมายและทนายฟังว่า ขั้นตอนการจับกุมผิดอย่างไร เขาต้องการจัดการให้ผมพ้นการนำม็อบ โดยการประทุษร้ายผมและคุณจตุพร" นายอริสมันต์กล่าวผ่านโทรศัพท์มือถือ

นายอริสมันต์กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ได้บาดเจ็บมาก ยังอยู่ในห้องรับรอง รอทนายความ และขอประกาศว่า การจับกุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย และต้องปล่อยตัวทันที ส่วนนายจตุพรถูกแยกตัวออกไปอีกสถานที่หนึ่ง ส่วนคำถามนายจตุพรถูกบังคับขึ้นเฮลิคอปเตอร์หรือสมัครใจไปเอง นายอริสมันต์กล่าวว่า "นายจตุพรไม่ได้โดนบังคับ"


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์