อยากให้จบแค่..ดักคอ.!

ถ้ายังจำกันได้ในช่วงที่รัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังอยู่ในห้วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมือง ในสถานการณ์ความขัดแย้งทวีความรุนแรง

ไม่รู้ใครเป็นใคร

แล้วก็เป็นนายสุทิน คลังแสง ซึ่งดำรงตำแหน่งรองโฆษกพรรคไทยรักไทยในขณะนั้น เป็นคนแรกที่ออกมาทะลุกลางปล้อง ปูดข่าว "ปฏิวัติ"

ผลก็คือ โดนด่าเช็ด

ไม่มีใครให้ราคาเลย

ฉะนั้น มันจึงเป็นอะไรที่ต้องเงี่ยหูฟังกันดีๆ เพราะล่าสุด นายสุทินคนเดิมออกมาเปิดข้อมูลวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองของทีมงานพรรคไทยรักไทย

มีสัญญาณที่เชื่อได้ว่าจะมีการทำรัฐประหารในอนาคตอันใกล้

1. เกิดความแตกแยกและขัดแย้งระหว่างคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) รัฐบาล และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งนับวันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

2. มีกลุ่มบุคคล โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เคลื่อนไหวสอดรับกับ คมช. สนช. ส.ส.ร. และสื่อบางฉบับในลักษณะสร้างเงื่อนไขและยุยงให้เป็นข้ออ้าง ในการทำรัฐประหาร คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ก่อนการทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

3. กลุ่มบุคคลดังกล่าวมีเป้าหมายชัดเจนที่จะล้มล้างรัฐบาล และเปลี่ยนตัว พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี


ไม่ใช่เรื่องที่ยกเมฆขึ้นมาลอยๆ

และคิวนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่นายสุทินที่เล่นบทกระต่ายตื่นตูม โวยวายอยู่คนเดียว แต่พรรคไทยรักไทยช่วยเล่นกันเป็นทีม

กระพือกระแสดักคอปฏิวัติซ้ำ

คิดกันถึงขนาดจะรณรงค์ต่อต้านการปฏิวัติทุกจังหวัด อำเภอ ตำบล ทั่วประเทศ ชวนประชาชนร่วมลงชื่อคัดค้านการรัฐประหาร

เสนอให้ประชาชนทุกจังหวัดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้ที่ทำการปฏิวัติ

ประกาศล่วงหน้า หากมีการปฏิบัติซ้ำเกิดขึ้นจริง นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย จะเป็นคนนำในการยื่นฟ้องผู้ก่อการด้วยตัวเอง

ตั้งท่าขวางลำปฏิวัติซ้ำกันขึงขัง

จุดพลุประโคมข่าวกันอย่างจริงๆจังๆ

แน่นอน ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ประมาณ 2 สัปดาห์ ในห้วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ท่ามกลางกระแสข่าวการขบเกลียวระหว่างนายกฯสุรยุทธ์กับ "บิ๊กบัง" พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกและประธาน คมช.

เครือข่าย คมช.สายเหยี่ยว ด่ารัฐบาลใส่เกียร์ว่าง ไม่เล่นบทโหดกับเครือข่ายอำนาจเก่า

ตั้งแง่ "สุรยุทธ์" ซูเอี๋ย "ทักษิณ"

นัดรวมพลคนหมั่นไส้ฤาษี

ประกอบกับม็อบต้าน คมช.ที่สนามหลวงก็เปิดเกมแรงเล่นลามปามถึงขั้นล่าชื่อถวายฎีกาถอดถอน "ป๋าเปรม" พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ

ทั้งเงื่อนไขและบรรยากาศล่อแหลมเต็มที่

แต่ทันทีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ โยนไพ่เด็ด เปิดโพยวันเลือกตั้งล่วงหน้า 9 เดือน คนไทยจะได้หย่อนบัตรลงคะแนนกันในวันอาทิตย์ที่ 16 หรือ 23 ธันวาคม

ล่าสุด นายกฯสุรยุทธ์บินกลับจากญี่ปุ่นมาย้ำโปรแกรม ร่างแรกรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะปรากฏโฉมออกมาในวันที่ 19 เมษายนนี้

หลังจากที่ก่อนหน้าก็ได้ยืนยันกับสมาชิกรัฐสภาและนักลงทุนญี่ปุ่น ถึงกำหนดเวลาการเลือกตั้งในประเทศไทยในวันที่ 16 หรือ 23 ธันวาคม

ป่าวประกาศให้ได้ยินกันทั่วโลก

กระตุ้นความมั่นใจของนักลงทุน ผ่อนคลายบรรยากาศอึมครึม ลดกระแสต้านจากนานาชาติที่ไม่คบค้าสมาคมกับรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร

ดึงเข้าบรรยากาศสร้างสรรค์แล้ว


ใครจะทำลายต้องคิดให้หนัก.

ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ