อภิสิทธิ์ยืนยันครม.เสร็จวันนี้ ย้ำรับฟังความคิดเห็นแตกต่าง

นายกฯ"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ระบุ โผครม.เสร็จวันนี้ (18ธ.ค.) เผย ความเห็นไม่ตรงกันเป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตย พร้อมรับฟังทุกฝ่าย เตรียมจะไปพบชาวอุดรธานี และเชียงใหม่ เมื่อเวลาเหมาะสม

(18ธ.ค.) เวลา 06.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ"จมูกมด"ถึงการเดินทางไปพบประชาชนจ.อุดรธานีและเชียงใหม่ว่า เมื่อถึงเวลาเหมาะสมจะต้องเดินทางไปพบประชาชนทุกจังหวัด ส่วนเรื่องความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันถือเป็นเรื่องปกติ ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ และปรับความเข้าใจ ในสังคมประชาธิปไตยถือเป็นเรื่องปกติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการใช้ตีนตบต้อนรับจะรู้สึกอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้ามีกลุ่มคนที่ไม่พอใจมาต้อนรับ หรือจงใจทำร้ายร่างกาย เหมือนอย่างเหตุการณ์หน้าสภานั้น ตนอยากบอกว่า อย่าทำ

เพราะสิ่งที่ทำนั้นไม่ช่วยใคร แม้กระทั่งในสิ่งที่เราเรียกร้องจะทำให้คนส่วนใหญ่ไม่อยากเห็น "ไม่มีปัญหา เพราะเราอยู่ในสังคมประชาธิปไตย สามารถแสดงออกได้ ผมรับฟัง และพยายามทำความเข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร เพื่อที่จะดูว่า เหตุผลไม่ตรงกันเพราะอะไร" นายอภิสิทธิ์กล่าว

สำหรับโผ ครม.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยในช่วงเย็นวันนี้( 18 ธ.ค.)

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดโผครม.ว่า การจัดโผรายชื่อ ครม.วันที่ 18 ธันวาคมคงจบ การเลือกรัฐมนตรีไม่มีโผล่วงหน้า ไม่มีโควตาภาคนั้นภาคนี้ ดูตัวบุคคล ความสามารถ ความเหมาะสม ทำงานให้พรรค และบ้านเมืองมาจนเป็นที่ไว้วางใจ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่กระทรวงที่เคยรับปากให้เขาดูแล และที่เขาเคยดูแลมาก่อนยังเหมือนเดิม ส่วนที่มีข่าวพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาจะเหลือเพียงตำแหน่งเดียวคงไม่จริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยขอแลกเก้าอี้ระหว่าง รมว.พาณิชย์ มาเป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุเทพยอมรับว่าใช่ เป็นการตกลงกันมาก่อนแล้ว

ดังนั้น พรรคภูมิใจไทยจะได้ 1 รมว.กับอีก 1 รมช. เป็นไปตามที่ได้รับปากกันไว้ ส่วนการทาบทาม นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการอังค์ถัด กับนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานหอการค้าไทย ร่วมทีมเศรษฐกิจ นายสุเทพ ระบุว่า เรื่องการทาบทาม 2 คนนี้ หรือคนอื่น กรุณาถามนายอภิสิทธิ์ เพราะนายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจตัวจริง

เมื่อถามว่า ตำแหน่ง รมว.คลัง เป็นคนในใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า "ผมพูดแทนกรรมการบริหารพรรคไม่ได้ เดี๋ยวเขาโกรธ"

นายสุเทพ กล่าวว่า ครม.ชุดนี้จะมีคนนอก 1-2 คน และแน่นอนว่า ตำแหน่ง รมว.กลาโหม เป็นคนนอกเมื่อถามถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ.จะมาเป็น รมว.กลาโหม จะสลัดคราบสีเขียวช่วยจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า พล.อ.ประวิตรไม่ได้มาเกี่ยวข้อง และไม่มีสีเขียวไหนมาเกี่ยวข้อง นอกจากตนไปขอคำปรึกษาในบางเรื่อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การให้นายอภิสิทธิ์ดูแลเศรษฐกิจโดยไม่มีกันชน จะทำให้เสี่ยงเกินไปหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คนไทย พ่อค้า นักธุรกิจ เขาเสี่ยงอยู่ทุกวัน ถือเป็นภาระหน้าที่ที่นายกรัฐมนตรีต้องลงมาดูแลด้วยตัวเอง

เมื่ออาสาเข้ามารับใช้ประเทศชาติจะห่วงตัวเองทำไม ตนมั่นใจว่านายอภิสิทธิ์นำเศรษฐกิจของไทยไปได้ เพราะเป็นคนหนุ่มมีความรู้ ความมุ่งมั่น มีความสามารถ เข้าบุคคลอื่นได้ และเข้านานาชาติได้ รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับโควตา รมว.มหาดไทย (มท.1) และ รมช.มหาดไทย อีก 2 ตำแหน่ง ในครม.อภิสิทธิ์ 1 ค่อนข้างแน่ชัดว่า ตำแหน่ง รมว.มหาดไทย และ รมช.มหาดไทย (มท.2) เป็นของพรรคประชาธิปัตย์ โดย มท.1 ยังเป็นนายสุเทพ ถ้านายสุเทพปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งตามที่ให้สัมภาษณ์ ก็อาจดึงคนนอกเข้ามาแทน ส่วนตำแหน่ง มท.2 ยังเป็นชื่อนายถาวร เสนเนียม

ส่วนตำแหน่ง รมช.มหาดไทย (มท.3) ที่เหลืออีก 1 ตำแหน่ง เดิมเป็นของพรรคเพื่อแผ่นดิน น่าเปลี่ยนมาเป็นของเพื่อนเนวิน

หลังทำผลงานเข้าเป้า สามารถรวบรวมเสียง ส.ส.ได้กว่า 31 เสียง ซึ่งแตกต่างจากพรรคเพื่อแผ่นดินที่มีเสียงบางส่วนโหวตให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อีกทั้งเพื่อนเนวินแจ้งความประสงค์ไปยังพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอเก้าอี้กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นของกลุ่มสมัย ครม.สมัคร 1 นอกจากนี้ ยังเห็นว่าตำแหน่งดังกล่าวสามารถเข้าถึงประชาชนได้ง่าย ซึ่งจะใช้โอกาสนี้ปรับความเข้าใจกับประชาชนในภาคเหนือและภาคอีสาน เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจท่าทีของกลุ่มเพื่อนเนวินที่ตัดสินใจทิ้งขั้วเดิม หันไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์

ขณะที่แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อแผ่นดินแจ้งว่า ตำแหน่ง รมช.มหาดไทย (มท.3) ยังเป็นของพรรค ซึ่งมีการต่อรองพรรคประชาธิปัตย์อยู่

ส่วนผู้ที่จะมาเป็น มท.3 แกนนำพรรคกำลังดูความเหมาะสม ระหว่าง นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รักษาการหัวหน้าพรรค กับ นายไชยยศ จิรเมธากร รักษาการโฆษกพรรค และนายประสงค์ โฆษิตานนท์ นายทุนพรรค รายงานข่าวจากพรรคเพื่อแผ่นดิน เผยโควตารัฐมนตรีล่าสุด มีรัฐมนตรี 4 ตำแหน่ง ว่าการ 2 ตำแหน่ง ช่วยว่าการ 2 ตำแหน่ง ได้แก่ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) รมว.อุตสาหกรรม รมช.คลัง และ รมช.มหาดไทย โดยพรรคเสนอ 4 คน มี ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ส.ส.นครราชสีมา กลุ่มโคราช นายไชยยศ จิรเมธากร ส.ส.อุดรธานี กลุ่มวังพญานาค นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา กลุ่มบ้านริมน้ำ และนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รักษาการโฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน

ส่วนรายงานข่าวจากผู้ใกล้ชิด นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา

กล่าวถึงการจัดสรรโควตารัฐมนตรีในส่วนพรรคภูมิใจไทย หรือมัชฌิมาธิปไตยเดิมว่า นายสมศักดิ์ ได้ประสานกับนายสุเทพ ว่าจะขอเปลี่ยนโควตาจาก รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ รมช.พาณิชย์ มาเป็น รมว.พาณิชย์ และ รมช.พาณิชย์ แทน เพราะเกรงว่าจะถูกฝ่ายตรงข้ามหยิบยกเรื่องทุจริตฝายแม้วมาโจมตี อย่างไรก็ตาม นายสุเทพไม่สามารถจัดสรรโควตา 2 ตำแหน่งตามที่ร้องขอได้ แต่มอบโควตาตำแหน่งเดียว คือ รมว.พาณิชย์ เพราะ ส.ส.ของมัชฌิมาธิปไตย 10 คน มี 3 คนที่โหวตให้ พล.ต.อ.ประชา

ส่วนโควตา รมว.พาณิชย์ คาดว่านายสมศักดิ์วางตัว นางพรทิวา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท อดีตเลขาธิการพรรคมัชฌิมาธิปไตย ภรรยานายอนุชา นาคาศัย อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย บ้านเลขที่ 111

ซึ่งมีความใกล้ชิดนายสมศักดิ์มานั่งกระทรวงดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวว่าโควตา รมช.พาณิชย์ ตกเป็นของเพื่อนเนวินแทน เพื่อตอบแทนกรณีที่กลุ่มเพื่อนเนวิน 22 คน เข้ามาร่วมกับกลุ่มมัชฌิมาทำให้พรรคภูมิใจไทยมีขนาดใหญ่ และมีพลังต่อรองทางการเมืองสูงขึ้น เช่นเดียวกับโควตา รมว.คมนาคม ตกเป็นของ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรักษาการนายกรัฐมนตรี กลุ่มเพื่อนเนวิน

นายเทวฤทธิ์ นิกรเทศ ส.ส.สัดส่วน รักษาการโฆษกพรรคกิจสังคม แถลงว่า การตัดสินใจเข้าสังกัดพรรคกิจสังคมไม่เกี่ยวกลุ่มเพื่อนเนวิน เป็นการตัดสินใจเอกเทศ

เพราะคิดว่าจะเป็นแนวทางเพื่อทำให้คลี่คลายวิกฤติทางการเมือง ทางกลุ่มจึงเชิญ นายสุวิทย์ คุณกิตติ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน มาร่วมฟื้นฟูพรรคกิจสังคม ที่ประชุมมีมติตั้งนายสุวิทย์ประธานที่ปรึกษาพรรค รวมทั้งปฏิบัติหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรคชั่วคราว พร้อมมีอำนาจในการตัดสินใจสรรหาบุคคลในพรรคไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลต่อไป

นายสุวิทย์ คุณกิตติ ประธานที่ปรึกษาพรรคกิจสังคม กล่าวถึงการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ว่า ต้องการเห็นบ้านเมืองดีขึ้น และทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบอบการเมืองต่อไป "ผมพร้อมทำงานทุกตำแหน่ง และสามารถปฏิบัติหน้าที่ทันที ทั้งนี้ จะนำนโยบายของพรรคกิจสังคมมาปรับเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ รวมทั้งนโยบายประชานิยมที่ประสบความสำเร็จ เช่น กองทุนหมู่บ้าน โครงการเอสเอ็มแอล และโครงการผันน้ำมาใช้" นายสุวิทย์กล่าว