อภิสิทธิ์ ชูอยู่ดีกินดีทำสมานฉันท์ง่าย

ความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ วันที่ 24 ส.ค.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการตรงไปตรงมาทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 101 ถึงกรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มีนโยบายเป็นโซ่ข้อกลางว่า เรื่องของความปรองดองก็หมายถึงโซ่ข้อกลาง คือจะมาแก้ปัญหาความขัดแย้งอะไรต่างๆ ความปรองดอง ความสมานสามัคคี มันเป็นเป้าหมายสำคัญอย่างมากในขณะนี้ วาระประชาชน ก็ให้ความสำคัญกับการลดความขัดแย้งในประเทศแล้วต้องมีความพยายามที่จะให้ เกิดความปรองดองขึ้น

แต่ทั้งนี้ไม่มีวิธีอะไรดีไปกว่ากระบวน การประชาธิปไตย

ความขัดแย้งอาจจะมีขึ้นได้ไม่ว่าจะในเรื่องใดก็ตาม ฉะนั้นการแสดงเจตนาเฉยๆ คงไม่เพียงพอ ความจริงเราก็ได้ยินคำพูดนี้มา ในกรอบของการเมืองบ้าง ในกรอบของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้บ้าง แต่ว่าเอาเข้าจริงๆ ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมเกิดขึ้นเท่าที่ควร แต่หากประชาชนอยู่ดีกินดี มีการแก้ปัญหาปากท้อง สมานฉันท์จะเกิดขึ้นง่ายมาก

ย้ำหนักแน่นไม่ร่วมงาน พปช.


ส่วนแนวคิดที่จะโดดเดี่ยวพรรคประชาธิปัตย์นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตอบว่า ตอนนี้เร็วเกินไปที่จะพูดอะไร กลุ่มอื่นไม่ชัดเจนอะไร ตั้งพรรคก็ยังไม่เรียบร้อย ยังไม่เห็นภาพเลยว่าจะประกอบไปด้วย ส.ส.กี่คน ใครเป็นหัวหน้า จุดยืนเป็นอย่างไร

ต่อข้อถามว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคแสดงจุดยืนที่จะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนจะมีปัญหาหรือไม่

นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ตนแสดงจุดยืนนานแล้วว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่เบื้องหลังของพรรคการเมืองหรือเป็นสมาชิก หรือว่าแสดงท่าทีชัดเจนอย่างเช่นว่าอยู่ สนับสนุนพรรคพลังประชาชน เป็นไปไม่ได้ที่จะทำงานร่วมกันกับพรรคประชาธิปัตย์ คำว่าทำงานร่วมกันไม่ได้ ไม่ ใช่ต้องน่ากลัวตกใจอะไร ก็เหมือนกับในต่างประเทศ พรรค การเมืองที่มีจุดยืนอุดมการณ์ต่างกันก็แข่งขันกันไป


“เสธ.หนั่น” เย้ยโซ่ข้อกลางอ่อนแอ


ทางด้านพรรคมหาชน วันเดียวกัน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมผู้สมัคร ส.ส. ว่า สัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ก.ย.นี้ จะเปิดตัวผู้สมัครทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ โดยเน้นในพื้นที่ภาคเหนือภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางส่วน โดยตั้งความหวังได้ ส.ส.จำนวน 20 ที่นั่ง พรรคมหาชนพร้อมจะเป็นทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เพราะยังเป็นพรรคขนาดเล็กแต่มีความเป็นไปได้ในอนาคต ที่จะประสานเป็นพันธมิตรกับกลุ่มมัชฌิมา หรือรวมใจไทย หากมีความคิดเห็นที่ตรงกัน
 
อย่างไรก็ตามหากมีผู้สืบทอดจะประกาศเลิกเล่นการเมืองหลังจากการเลือกตั้ง สำหรับการรวมตัวกันของกลุ่มการเมืองที่จะเป็นโซ่ข้อกลางว่าเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะโซ่ที่มีขนาดเล็ก ไม่มีความแข็งแรงพอและมีการแบ่งเป็นข้อเล็กข้อน้อย อาจถูกดึงจนขาดได้ ไม่เห็นว่าจะเป็นทางเลือกใหม่
 
อย่างไรก็ตาม คิดว่านายศุภชัย พานิชภักดิ์ ถือเป็นตัวแปรทางการเมือง

หากพรรคการเมืองใดได้ตัวไปจะถือว่าชนะในการเลือกตั้งทันที แต่ไม่มีความหวัง เพราะนายศุภชัย ยังมีภารกิจ โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับวันเลือกตั้ง 23 ธ.ค. ไม่เหมาะสม น่าจะเป็นต้นเดือน ม.ค.มากกว่า และไม่ควรเปิดรับสมัคร ส.ส.ก่อนวันที่ 5 ธ.ค. เพื่อไม่ให้ใกล้เคียงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษา


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์