อภิรักษ์ ยืนยันบริสุทธิ์ - ทำสมุดปกขาวแจง

มติชน

วันที่ 05 ก.ค. 2549

"อภิรักษ์" ชี้แจง 6 ข้อ ยันทำถูกต้องเรื่องจัดซื้อรถและอุปกรณ์ดับเพลิง แต่ถูกการเมืองกลั่นแกล้ง เตรียมพิมพ์สมุดปกขาวแจกปชช.แจงขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมด พร้อมออกแถลงการณ์ยืนยันความบริสุทธิ์ ด้านบ.สไตเออร์ บินด่วนขอประชุมร่วมกับกทม. พรุ่งนี้

จากกรณีการทุจริตการจัดซื้อรถและอุปกรณ์ดับเพลิงฯ ล่าสุด (5 ก.ค.) ที่ศาลาว่าการกทม. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วยนายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารสัญญาการจัดซื้อรถและอุปกรณ์ดับเพลิงฯ และคณะผู้บริหาร กทม. ร่วมกับแถลงข่าว ภายหลังที่ดีเอสไอ ได้สรุปสำนวนคดีเพื่อส่งให้ปปช. ตรวจสอบหาผู้กระทำความผิดต่อ ซึ่งมีรายชื่อของนายอภิรักษ์ ร่วมเป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย

นายอภิรักษ์ แถลงว่า ตนขอชี้แจงข้อเท็จจริงและความคืบหน้า ใน 6 ประเด็นหลักด้วยกันคือ ประเด็นที่ 1.กทม. จะจัดทำสมุดปกขาวแจกจ่ายประชาชน และหน่วยงานภาครัฐ เอกชนต่างๆ ให้เข้าใจถึงความเป็นมาของโครงการ และลำดับเหตุการณ์มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งขอยืนยันว่า โครงการนี้ดำเนินการขั้นตอนต่างๆ เสร็จเรียบร้อยก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. คาดว่าจะพิมพ์ประมาณหลักแสนเล่ม พร้อมแจกได้ประมาณต้นสัปดาห์หน้า

นายอภิรักษ์ กล่าวด้วยว่า ประเด็นที่ 2. กทม. จะส่งจดหมายเป็นทางการไปยัง 3 หน่วยงาน ได้แก่ มหาดไทย เพื่อขอหารือกรณีดังกล่าวเป็นการเร่งด่วนไปอีกฉบับ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา กทม. ก็เพิ่งมีจดหมาย ส่งถึงมหาดไทยไป 1 ฉบับแล้ว และจะส่งจดหมายไปยังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อสอบถามว่ามีการดำเนินการส่งออกไก่ต้มสุกตามสัญญาการค้าต่างตอบแทนไปแล้วหรือยัง และหากกทม. จะสั่งยกเลิกสัญญาจัดซื้อดังกล่าวจะมีผลกระทบหรือไม่ และจะรวบรวมข้อเท็จจริงของการจัดซื้อดังกล่าวทั้งหมดส่งไปยังสำนักการอัยการสูงสุด เพื่อให้ช่วยชี้แจงประเด็นทางกฎหมายเกี่ยวกับกรณีที่ทางดีเอสไอได้สรุปสำนวนเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา

ประเด็นที่ 3.ในวันนี้กทม. จะออกแถลงการณ์ 2 ฉบับเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชน และข้าราชการ ลูกจ้างกทม. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้คนทั่วไปรับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง และยืนวันว่าที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนแล้ว รวมทั้งจะจัดส่งแถลงการณ์ฉบับดังกล่าวไปยังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ปปช. และมท.

ประเด็นที่ 4.ขอยืนยันว่าการดำเนินการโรงการดังกล่าวที่ผ่านมาแบ่งเป็น 2 ระยะคือ ระยะแรก ดำเนินการในสมัยผู้ว่าฯ คนเก่า ซึ่งในสมัยนั้นได้มีการลงนามในข้อตกลง AOU การลงนามในสัญญาจัดซื้อ พร้อมทั้งได้มีการสั่งให้เปิด L/C เรียบร้อยอยู่ก่อนแล้ว จนกระทั่งมาถึงสมัยที่ตนเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเป็นระยะที่ 2 ที่ตนได้สั่งให้มีการตรวจสอบโครงการทั้งหมด และสั่งระงับการเปิด L/C เพื่อทบทวนโครงการ แต่สุดท้ายทุกหน่วยงานได้มีหนังสือถึงกทม. เร่งรัดให้เปิดL/C โดยอ้างจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ ทำให้กทม. ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเปิดL/C ได้

ประเด็นที่ 5.กทม. จะประสานดีเอสไอขอข้อมูลผลการตรวจสอบที่มีการระบุชัดเจนว่าการจัดซื้อดังกล่าวมีราคาแพงเกินจริงเป็นเงินถึง 3,000 กว่าล้านบาท เพื่อกทม. จะนำข้อมูลดังกล่าวไปหารือกับทางมท. เพื่อพิจารณาของยกเลิกสัญญาจัดซื้อดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ ตนทราบดีว่าการตรวจสอบของกทม. และการดำเนินการขอยกเลิกสัญญาจะไม่มีผลต่อการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด แต่การพิจารณายกเลิกสัญญาทำเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ

สุดท้ายประเด็นที่ 6.ในวันที่ 7 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น. นายคริสเตียน ซุซ ประธานบริหารบริษัท สไตเออร์ฯ คนใหม่ที่ได้มาแทนนายมาริโอ มีนาร์ ประธานบริหารคนเก่าที่มีกระแสข่าวว่าถูกปลดจากตำแหน่ง จะเดินทางจากประเทศออสเตรียมาเจรจาร่วมกับนายวัลลภ ฐานะประธานคณะกรรมการบริหารสัญญาฯ ซึ่งกทม. จะชี้แจงถึงเหตุผลการสั่งระงับการตรวจรับรถดับเพลิงต่อนายคริสเตียน โดยการเจรจาจะเป็นไปบนพื้นฐานฉันมิตร ซึ่งหวังว่าการเจรจาจะมีประโยชน์ต่อสัญญาต่อไป

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์