“อภิรักษ์-จุติ-ชำนิ”รองหัวหน้า ปชป.

พรรค ปชป.ได้ อภิรักษ์ –จุติ – ชำนอ เป็นรองหัวหน้าพรรค ขณะที่“เฉลิมชัย”ได้เสียงหนุนให้นั่งเลขา ปชป.แค่ 72.89 เปอร์เซ็นต์

จากนั้นที่ประชุมได้คัดเลือกรองหัวหน้าพรรคในโควต้าหัวหน้าพรรคจำนวน 3 คน โดยนายอภิสิทธิ์ ได้เสนอรายชื่อผู้เหมาะสมจำนวน 6 คน คือ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายกรณ์ จาติกวณิช นายจุติ ไกรฤกษ์ นายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ นายวิฑูรย์ นามบุตร และนายธีระ สลักเพชร  เพื่อให้ที่ประชุมเลือกเหลือ 3 คน ตามข้อบังคับพรรค ซึ่งนายกรณ์ นายวิฑูรย์ และนายธีระ ได้ขอถอนตัว แต่ตามข้อบังคับพรรคจะต้องให้ที่ประชุมลงคะแนนเลือกเพื่อให้ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งก่อน ซึ่งในที่สุดที่ประชุมได้คัดเลือกจากผู้มาใช้สิทธิ์ 328 คน นายอภิรักษ์ ได้คะแนนคิดตามสัดส่วน 95.0666 เปอร์เซ็นต์ นายจุติ ได้คะแนน 92.5091 เปอร์เซ็นต์ และนายชำนิ ได้ 91.4887 เปอร์เซ็นต์ ทำให้บุคคลทั้งสามได้รับเลือกเป็นรองหัวหน้าพรรคในโควต้าหัวหน้าพรรค

ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรค นายอภิสิทธิ์ ได้เสนอชื่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน และ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์
 
โดยนายชัยวุฒิ ขอถอนตัว แต่ต้องให้ที่ประชุมลงคะแนนให้ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง เช่นกัน ซึ่งในที่สุดที่ประชุมได้เลือกนายเฉลิมชัย เป็นเลขาธิการพรรค ด้วยคะแนนคิดตามสัดส่วน เพียงเปอร์เซ็นต์ 72.8918 เปอร์เซ็นต์ จากผู้มาใช้สิทธิ์  328 คน ซึ่งเมื่อขานคะแนนเสร็จ นายเฉลิมชัย ถึงกับแสดงสีหน้าไม่สู้ดี จนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รักษาการเลขาธิการพรรค เข้ามาจับมือแสดงความยินดี นายเฉลิมชัย  จึงยิ้มออกมาได้
              
ต่อมาที่ประชุมได้เลือกรองเลขาธิการพรรค โดยนายเฉลิมชัยเสนอชื่อ นายนิพนธ์ บุญญามณี นายนราพัฒน์ แก้วทอง นายศุภชัย ศรีหล้า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม นายธีรชาติ ปางวิรุฬรักษ์ นายอภิชาติ สุภาแพ่ง 

โดย 3 บุคคลหลังขอถอนตัว ส่วนตำแหน่งเหรัญญิก นายอภิสิทธิ์ ได้เสนอชื่อนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ และนางผุสดี ตามไท แต่นางผุสดี ขอถอนตัว ขณะที่ตำแหน่งนายทะเบียนพรรคการเมือง นายอภิสิทธิ์ เสนอชื่อ นางอัญชลี วานิช เทพบุตร และนายนคร มาฉิม โดยนายนคร ได้ขอถอนตัว ส่วนตำแหน่งโฆษกพรรค นายอภิสิทธิ์ เสนอชื่อ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต และนายอรรถวิชช์  สุวรรณภักดี ซึ่งนายอรรถวิชช์ ขอถอนตัว ทั้งนี้เนื่องจากนายชวนนท์ ไม่เคยเป็นส.ส. ซึ่งขัดข้อบังคับพรรคในเรื่องคุณสมบัติผู้ที่มาเป็นกรรมการบริหารพรรค ที่ประชุมจึงแก้ปัญหาด้วยการยกเว้นข้อบังคับพรรค