“อนุสรณ์” เย้ย “สุเทพ” เป่านกหวีดครั้งสุดท้ายหลายรอบ

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. เวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย

กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. ประกาศยกระดับชุมนุมใหญ่ 9 ธ.ค.นี้ พร้อมเรียกร้องให้ข้าราชการหยุดทำงาน และให้ประชาชนต่างจังหวัดปิดศาลากลาง รวมถึงนำประชาชนมารวมตัวที่หน้าทำเนียบรัฐบาล และกล่าวว่าถ้ามวลชนไม่มาจะยอมเข้าคุก ว่า  เป็นการเป่านกหวีดครั้งสุดท้ายของนายสุเทพ ประกาศจนประชาชนงงไปหมด กลายเป็นการปิดบัญชีครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งที่เพิ่งประกาศเผด็จศึกรัฐบาลในวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่วันนี้กลับเลื่อนมาเป็นวันที่ 9 ธ.ค. เปรียบเสมือนเป็นการสับขาหลอก ซึ่งวันเผาหลอกจริงนั้นน่าจะเป็นวันที่ 12 ธ.ค. เพราะเป็นวันที่อัยการสูงสุดจะสั่งฟ้องนายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในความผิดฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าคนตาย โดยเจตนาเล็งเห็นผลจากการสลายการชุมนุมปี 2553

“ นายสุเทพ จึงต้องการสร้างสถานการณ์ให้มีมวลมหาประชาชนของตัวเองล้อมกรอบตัวเองเอาไว้ ทั้งที่การเคลื่อนไหวของนายสุเทพ พ่ายแพ้มาตั้งแต่ต้น เรียกร้องให้ข้าราชการหยุดงานก็ล้มเหลวไม่มีข้าราชการที่ไหนหยุดงาน ขอให้เอกชนหยุดงานก็ไม่มีใครหยุด ขนาดบริษัทศรีสุบรรณฟาร์ม ซึ่งเป็นบริษัทของนายสุเทพเองก็ยังไม่หยุดทำงาน อีกทั้งการไปคุกคามสื่อมวลชนบังคับให้มีการนำเสนอข่าวของตัวเองข้างเดียว ก็ล้มเหลวไม่มีสื่อเชื่อฟัง รวมถึงแผนยึดสถานที่ราชการก็ยึดไม่ได้จริง ทั้งที่ไปมาแล้วหลายรอบ ขาดแต่ไปยึดเรือนจำ แต่ทั้งหมดก็เต็มไปด้วยชัยชนะจอมปลอมทางสัญลักษณ์เท่านั้น ”  นายอนุสรณ์ กล่าว

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า แม้แต่สภาประชาชนเอง เอาเข้าจริงก็เป็นเพียงสภาเครือข่ายของนายสุเทพเท่านั้น ไม่ได้สะท้อนภาพมวลมหาประชาชนแต่อย่างใด

ทั้งนี้ขอให้คนไทยทนอีก 5 วัน ระบอบสุเทพก็จะสูญสิ้น เพราะนายสุเทพต้องไปขึ้นศาล หากไม่ไปก็จะต้องถูกออกหมายจับ ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะคืนความสงบสุขสู่บ้านเมืองเพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และหากมวลชนไม่มานายสุเทพก็จะยอมเข้าคุก ก็จะส่งผลให้บ้านเมืองสงบสุข ทำให้ประชาธิปไตยเบ่งบาน นอกจากนี้จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเข้มแข็งขึ้น เนื่องจากหลายประเทศจะได้ประกาศยกเลิกคำเตือนให้นักท่องเที่ยวมาไทย ทั้งนี้หากนายสุเทพหยุด ประเทศก็ไปต่อได้

นายอนุสรณ์  กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) นัดชุมนุมใหญ่วันที่ 10 ธ.ค. ที่พระนครศรีอยุธยา
 
เพื่อแสดงจุดยืนในการปกป้องการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ว่า เป็นเจตนาบริสุทธิ์ของภาคประชาชน ที่ต้องการแสดงพลังปกป้องรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย โดยการไม่จัดชุมนุมในกรุงเทพฯ เพื่อป้องกันเหตุความวุ่นวายในการเผชิญหน้ากับกลุ่มที่ต้องการความรุนแรง ซึ่งขอประกาศต่อสังคมว่า ทุกฝ่ายต้องช่วยกันจับตาว่า ฝ่ายไหนกันแน่ที่แสวงหาความรุนแรง ทำตัว ยั่วยุ ทั้งนี้คาดว่าจะมีคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมในงานนี้หลายหมื่นคนจึงขอฝากไปยังแกนนำนปช. ให้ตรวจตราพื้นที่โดยรอบให้ละเอียด ตรวจสแกนอาวุธ ตรวจสารเสพติด อย่าให้หลุดรอดเข้ามา และขอให้จับตาดูท่าทีของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย หนึ่งในคณะกรรมการกปปส.อย่างใกล้ชิด ว่าจะประกาศระดมคนไปถล่มเวที นปช. เหมือนที่ราชมังคลากีฬาสถานอีกหรือไม่ รวมถึงกลุ่ม 40 ส.ว. ว่าจะสั่งการนัดหมายในช่วงนั้นหรือไม่ อย่างไร โดยขอให้สังคมช่วยจับตา และประณามพวกนิยมความรุนแรง.