อนุพงษ์ยันไม่ได้พบป๋าเปรม ปัดกองทัพบีบสมชายยุบสภายุติปัญหา

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ในรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3

ถึงกรณีมีกระแสข่าวเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 8 ต.ค. ว่า ยืนยันว่าไม่ได้เข้าพบตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ได้เข้าพบ พล.อ.เปรม คือวันที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้ารับตำแหน่งใหม่


เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า หลายฝ่ายบีบให้ทหารทำการรัฐประหาร มีโอกาสจะเกิดขึ้นหรือไม่ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ไม่มีสถานการณ์อะไรที่จะประเมินได้เช่นนั้น

รวมทั้งไม่มีความวุ่นวายอะไรขนาดต้องใช้การปฏิวัติแก้ปัญหา ส่วนรัฐบาลจะแก้ปัญหาขณะนี้ได้หรือไม่ เป็นอีกประเด็น ขณะนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความสงบเรียบร้อย ส่วนทหารมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตามที่ได้รับการร้องขอให้ช่วยดูแล ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า รายงานที่ระบุกองทัพกำลังบีบนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยุบสภานั้น ไม่น่าถูกต้อง

 
ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. วันที่ 8 ตุลาคม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์

โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1.30 ชั่วโมง ซึ่งคาดว่า เป็นการรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ต่อมาเวลา เวลา 14.00 น. พล.อ.อนุพงษ์ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม (คตร.) ได้เรียกประชุมคณะกรรมการ ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) โดยได้เชิญตัวแทนส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมประชุม อาทิ นายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นักกฎหมาย นักวิชาการ ตำรวจ และคณะแพทย์จากโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่ กทม.ใช้เวลาประชุมกว่า 3 ชั่วโมง 30 นาที

ข่าวแจ้งว่า ระหว่างการประชุม นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้แจ้งว่า กลางดึกคืนวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา มีคนปาระเบิดเพลิงเข้าไปในกระทรวงศึกษาธิการหลายลูก

เชื่อว่ามีจุดประสงค์ให้เกิดไฟไหม้ภายในกระทรวงศึกษาธิการ และเป็นการสร้างสถานการณ์ ขณะที่หน่วยงานด้านความมั่นคงได้ยืนยันว่า กลุ่มพันธมิตรมีแผนที่จะเผาเมือง เพื่อต้องการบีบให้ทหารออกมาปฏิวัติ และดิสเครดิตรัฐบาล จึงจำเป็นต้องให้กำลังทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ จัดกำลังดูแลสถานที่ราชการสำคัญ เพราะเกรงว่าจะมีมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์


แหล่งข่าวกล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ได้กล่าวในที่ประชุมว่า "ผมไม่สนใจว่ารัฐบาลไหนเข้ามาบริหาร เราไม่เกี่ยวข้อง รัฐบาลนี้ไป รัฐบาลใหม่เข้ามา แต่ทหารต้องเป็นกลางและรักษาบ้านเมืองช่วยสกัดกั้น เพราะไม่ต้องการให้คนไทยฆ่ากันเอง และไม่อยากให้มีเหตุการณ์เช่นนี้อีก เพราะหากมีระเบิดเพลิงเกิดขึ้นอีก ต้องเข้าใจว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ เพื่อให้ทหารออกมาดำเนินการบางอย่าง ซึ่งจะสังเกตได้จากตัวเลขผู้บาดเจ็บ ซึ่งบางคนบาดเจ็บเล็กน้อย แต่เข้าไปแจ้งเพื่อให้ตัวเลขสูงขึ้น เป็นการดิสเครดิตเจ้าหน้าที่"


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์