อดีตทนายปู คดีจำนำข้าว รายงานตัวสปช. ลั่น ปฏิรูปองค์กรอิสระ พุ่งเป้า ป.ป.ช.อันดับแรก

อดีตทนายปู คดีจำนำข้าว รายงานตัวสปช. ลั่น ปฏิรูปองค์กรอิสระ พุ่งเป้า ป.ป.ช.อันดับแรก


อดีตทนายปู คดีจำนำข้าว รายงานตัวสปช. ลั่น ปฏิรูปองค์กรอิสระ พุ่งเป้า ป.ป.ช.อันดับแรก

ยอมรับมีเสียงเรียกร้องให้ยุบป.ป.ช. แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วย อ้างชื่อดี แต่ควรปฏิรูป

เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราราษฎร ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)ได้เปิดให้สมาชิกสปช.ได้เข้าแสดงตนเป็นวันที่ 4  ที่บริเวณห้องโถง อาคารัฐสภา 1 ปรากฎว่า นายจุมพล รอดคำดี สมาชิกสปช. ได้มาแสดงตนเป็นแรกในเวลา 08.05 น. จากนั้นพล.อ.วัฒนา สรรพานิช นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ อดีตทนายความคดีจำนำข้าวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายจรัส สุทธิกุลบุตร  และนายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคภูมิใจไทย  พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช 

ทั้งนี้ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราราษฎร จะเปิดให้สปช.ได้เข้าแสดงตนจนถึงวันที่ 15 ต.ค.  ตั้งแต่ 08.30-16.30 น. โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ อย่างไรก็ตามจากการเปิดให้สมาชิกสปช.ได้เข้าแสดงตนตั้งแต่วันที่ 8-10 ต.ค.รวม 3 วัน ปรากฏว่ามีสมาชิก สปช.ได้เข้าแสดงตนแล้ว จำนวน 163 คน จากสมาชิกทั้งสิ้น 250 คน

ด้าน นายบัญชา ให้สัมภาษณ์ภายหลังรายงานตัว ว่า  ตนมาในนามขององค์กรทนายความอิสระ โดยมีความตั้งใจและวางแนวทางการทำงานว่าจะปฏิรูปองค์กรอิสระเพื่อให้เกิดการคานอำนาจจะได้เป็นหลักประกันให้ประชาชนมีความพอใจ ในกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะเรื่องการสอบสวนพยานของหน่วยงานองค์กรกลาง ควรต้องมีการบันทึกภาพ เสียง ในทุกปาก เพื่อนำส่งศาล ได้ทราบว่าพยานมีความสมัครใจหรือให้การเพราะถูกดำเนินการด้วยวิธีใดหรือไม่ ดังนั้นการสอบสวนในกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้องจะต้องได้รับความเชื่อถือจากประชาชน

เมื่อถามมีชื่อประธานสปช.อยู่ในใจแล้วหรือไม่ นายบัญชา กล่าวว่า ตนได้พิจารณาแล้วมีชื่ออยู่ในใจ แต่ขอไม่เอ่ย ซึ่งคนที่จะเป็นประธานสปช.นั้นต้องมีองค์ประกอบหลาย ๆด้าน ชื่อแต่ละคนที่สื่อนำเสนอนั้นต่างมีความรู้ความสามารถ

นายบัญชา กล่าวว่า ในส่วนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีการไต่สวนพยานเหมือนกันนั้น ตนอยากฝากด้วยว่าป.ป.ช.เป็นหน่วยงานที่มีผลในการปราบปรามทุจริตแห่งชาตินี้ต้องมีกระบวนการที่โปร่งใส ให้ความเป็นธรรม ก่อนหน้านี้ประธาน.ป.ป.ช.เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า จะขอให้กรรมการป.ป.ช. อนุกรรมการและเจ้าหน้าที่ของป.ป.ช. ต้องถูกดำเนินคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งตนน้อมรับในเรื่องนี้และตนให้ความเคารพต่อป.ป.ช. ดังนั้นจึงต้องมีการปรับปรุงว่าการจะไปสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ต้องไปให้ถึง โดยผู้เสียหายที่ถูกกล่าวหาและระบุว่าป.ป.ช.ไม่ให้ความเป็นธรรมก็ให้มีอำนาจในการยื่นต่อรัฐสภา เพื่อให้ส.ส. ส.ว.ตั้งคณะกรรมการไต่สวนว่าถูกป.ป.ช.กลั่นแกล้งหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไร และถ้าคณะกรรมการไต่สวนสอบแล้วพบว่าเป็นความจริงก็ให้รัฐสภาลงมติด้วยคะแนนแค่ 1 ใน 10 ก่อนที่จะส่งไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป

“กรรมการป.ป.ช.ไม่ควรวิตก เพราะการทำเช่นนี้จะได้พิสูจน์ความจริงให้ปรากฏว่าป.ป.ช.ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ยังจะถือเป็นการพิสูจน์การทำงานของป.ป.ช.ได้รับความสง่างาม ต่างชาติมีความเชื่อมั่น ทุกอย่างโปร่งใส และเป็นธรรม ผมพูดถึงหลักการในกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ป.ป.ช.มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีความสง่างามและเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ แต่อย่างไรก็ตามนอกจากป.ป.ช.แล้วยังจะมีองค์กรอิสระอื่น ๆที่ต้องได้รับการปฏิรูปอีกหรือไม่นั้น ผมขอให้มีการประชุมคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของสปช.ก่อน ที่ผมพูดถึงป.ป.ช.ก็พูดตามหลักการไม่ได้กล่าวหา  “นายบัญชา กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงสถานการณ์เป็นทนายความผู้ได้รับอำนาจจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ กรณีโครงการจำนำข้าวที่ป.ป.ช.ไต่สวน นายบัญชา กล่าวว่า ตนไม่ได้ทำหน้าที่ทนายความในคดีดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนเม.ย.57 ที่ผ่านมา ตนไม่ได้ลาออก แต่เนื่องจากไม่ได้รับมอบหมายหน้าที่ใดจากน.ส.ยิ่งลักษณ์  จึงไม่ได้รับผิดชอบใด ๆ ตนไม่ได้กล่าวหาป.ป.ช.ว่าไปกลั่นแกล้งน.ส.ยิ่งลักษณ์แต่อย่างใด เพียงต้องการให้กระบวนการพิจารณาความนั้นมีความโปร่งใส หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ผิดก็ต้องน้อมรับ แต่ถ้าถูกป.ป.ช.ก็น่าจะให้ความเป็นต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างไรก็ตามการทำหน้าที่สปช.ในครั้งนี้ตนจะใช้ความรู้ความสามารถและความซื่อสัตย์ทำงานอย่างดีที่สุด เพื่อให้ สปช.ทำงานสำเร็จบรรลุผล

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่มีความตั้งใจเข้ามาปฏิรูปการทำงานของป.ป.ช.นั้นเพราะได้เห็นและใกล้ชิดในการทำหน้าที่ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ในคดีจำนำข้าวหรือไม่ นายบัญชา กล่าวว่า “ สิ่งที่ผมได้พบได้เห็นก็ได้บอกกับป.ป.ช.แล้วว่าการไต่สวน สอบสวนจะต้องคำนึงถึงกระบวนการยุติธรรมให้ผู้ถูกกล่าวหายอมรับได้ เพราะผู้ถูกกล่าวหาไม่เพียงแค่อดีตนายกฯ แต่มีอีกหลายคน โดยผมต้องการเสนอให้ปฏิรูปป.ป.ช.เสียก่อนเพื่อเป็นหลักประกัน เช่น เรื่องอายุความของผู้ถูกกล่าวหาที่ร้องขอความเป็นธรรมโดยการฟ้องกลับป.ป.ช.ที่ถูกกำหนดไว้ 15 ปี แต่คดียังไม่เสร็จก็ต้องขาดอายุความเป็นเสียก่อนแล้วถามว่าผู้ถูกกล่าวหาจะได้รับความเป็นธรรมได้อย่างไร เพราะในหลายๆคดีเมื่อศาลพิพากษาถึงที่สุดก็ใช้เวลาถึง 20 ปี ที่ผมพูดอย่างนี้เพราะต้องการสร้างบรรทัดฐานของความเป็นธรรมในคดี ดังนั้นควรจะมีการแก้กฎหมายเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ต้องการได้รับความเป็นธรรมสามารถฟ้องศาลชั้นต้นได้อีกทางหนึ่ง และป.ป.ช.เองก็ไม่ควรหวั่นไหว และผมเชื่อว่าป.ป.ช.น่าจะให้ความร่วมมือเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมศาลชั้นต้นในฐานะผู้เสียหาย หากป.ป.ช.ให้ความร่วมมือในการแก้กฎหมายได้ ผมคิดว่าป.ป.ช.จะสง่างามและตอบสังคมได้”

เมื่อถามว่าขณะนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าควรจะยุบป.ป.ช. นายบัญชา กล่าวว่า ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ยุบป.ป.ช.นั้นเป็นเพราะเหตุใดก็ต้องดูด้วย เพราะทำไมอยู่ดี ๆถึงมีเสียงวิจารณ์เช่นนั้น ในความเห็นของตนไม่ต้องการให้ยุบป.ป.ช. ตนให้ความเคารพต่อกรรมการป.ป.ช.จึงต้องการให้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์และรับผิดชอบ โดยออกมาแสดงสปิริตยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมชั้นต้นและยินดีเข้าสู่ช่องทางของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วนตัวตนเห็นว่าไม่ควรยุบของเขาดีอยู่แล้ว แต่ควรได้รับการปฏิรูป ชื่อก็ดี คือป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งเป็นนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)และรัฐบาล

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์