หาว่าหนุนปฏิวัติ กรณ์ ตอบโต้ลงเฟซบุ๊ค

เชื่อมีคนเจตนาบิดเบือนความหมาย เพราะไม่มีส่วนใดที่เขียนไว้ตามที่เข้าใจเช่นนั้น ย้ำตอนท้าย หากว่าสังคมไม่เคารพกฎหมาย ประเทศไทยคงปกครองด้วยกฎหมู่...


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (5 มี.ค.) นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้แสดงความคิดเห็นลงเว็บไซต์ facebook (เฟซบุ๊ค) ส่วนตัวอีกครั้งในหัวข้อ “ขออธิบายเพิ่มเติมถึงจุดยืน...จากใจ” ที่ http://www.facebook.com/search/?q=korn&init=quick#!/notes.php?id=71254499739 หลังจากได้แสดงความเห็นไปเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ในหัวข้อ “มุมมองส่วนตัวคดียึดทรัพย์” ก็ได้เกิดกระแสของคนบางส่วนที่มองว่า นายกรณ์เป็นผู้ที่มีแนวคิดสนับสนุนให้มีการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 หลังจากที่มีการแสดงความเห็นเรื่องคำตัดสินฯ คดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง และการวิพากษ์วิจารณ์ขอสังคมในทันที ทั้งนี้ ใจความของบทความดังกล่าวระบุว่า

ผมยอมรับว่าผมคาดไม่ถึงว่าบันทึกความรู้สึกของผมในเรื่องคดียึดทรัพย์ของอดีตนายกฯทักษิณจะได้รับความสนใจมากถึงขนาดนี้ และแน่นอนที่สุดก็มีทั้งผู้ที่อ่านแล้วเข้าใจคลาดเคลื่อน และผู้ที่มีเจตนาพยายามบิดเบือนความหมาย อยากให้ทุกคนที่เข้าใจผิดว่าผมสนับสนุนการปฏิวัติ กรุณากลับไปอ่านบทความของผมอีกครั้งหนึ่งนะครับ เพราะไม่มีตอนไหนในบทความที่เขียนว่าอย่างนั้นแม้แต่นิดเดียว"

ผมอยากเล่าเพิ่มเติมนะครับว่าคืนวันที่ 19 กันยายน 2549 (ในคืนปฏิวัติ) ระหว่างที่ผมยังตรวจสอบรัฐบาลในฐานะส.ส.ฝ่ายค้านอยู่นั้น ผมรับทราบข่าวด้วยความเศร้าหมอง และผมจำได้ว่าภรรยาของผมพูดกับผมว่า
"เขาปฏิวัติ เพราะเธอไม่สามารถเอาผิดคนขี้โกงได้"

ผมจำได้ว่าผมนั่งไตร่ตรองในสิ่งที่ภรรยาของผมพูด และได้คิดว่าถึงแม้ว่าผมได้พยายามแล้วที่จะกระตุ้นกลต. สรรพากร ปปง. ฯลฯ แต่ก็ล้มเหลว จึงสมควรที่จะต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปฏิวัติ ที่ได้อ้างเรื่องทุจริตคอรัปชั่นเป็นเงื่อนไข และสาเหตุและนับแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา ทุกอย่างที่ผมทำนั้นเป็นการแสดงความรับผิดชอบ และพยายามป้องกันไม่ให้การปฏิวัติเกิดขึ้นอีก

ดังนั้นถ้าท่านใดยังคิดว่าผมนิยมการปฏิวัติ กรุณาช่วยกลับไปอ่านบทความเดิมของผมอีกครั้งนะครับ และผมขอยืนยันความคิดที่ผมต้องการสื่อมากที่สุดในบทความนี้ ไม่ใช่ว่าผมคิดว่าควรยึดเงินเท่าโน้นเท่านี้ แต่คือประโยคนี้ครับ "ถ้าทุกคนทำตามหน้าที่ ความยุติธรรมก็จะปรากฏเสมอ โดยไม่ต้องมีคนมายัดเยียดให้กับเรา ด้วยการปฏิวัติหรืออื่นๆ เราทำได้เอง แต่เราทำไม่ได้ บทเรียนนี้ผมคิดว่าเป็นบทเรียนสำคัญจากคดีนี้ครับ " และตามด้วย "เพราะผมไม่แน่ใจว่าพวกเราชาวไทยได้เรียนรู้ในเชิงลึกจากเรื่องราวทั้งหมดนี้หรือไม่" ขอให้ท่านอ่านแล้วคิดกันเองแล้วกันครับ

ท้ายนี้ผมอยากจะฝากไว้ว่า ภูมิต้านทานการปฏิวัติที่ดีที่สุดสำหรับการรักษาไว้ซึ่งประชาธิปไตยที่แท้จริงคือ การมีรากฐานของนิติรัฐหรือการที่สังคมให้ความเคารพต่อความ ศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายซึ่งคล้องจองกับที่ท่านนายกฯอภิสิทธิ์กล่าวไว้ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า "หากสังคมไม่เคารพกฎหมาย ก็ไม่มีจุดจบ" ตัวผมเองอยากจะพูดต่อว่า
"หากว่าสังคมไม่เคารพกฎหมาย ประเทศไทยคงปกครองด้วยกฎหมู่"

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า บทความดังกล่าวลงท้ายด้วยข้อความภาษาต่างประเทศ "Post hoc ergo propter hoc" เป็นภาษาลาติน หมายความว่า อ้างเหตุผลที่ผิด โดยเอาเหตุมาพูดตั้งต้น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์