หญิงอ้อถอนเงินสดแบงก์ ใช้ส่วนตัว20ล.

"พจมาน"ยื่นเรื่องขอถอนเงินสด 20 ล้าน เอาไว้ใช้จ่ายส่วนตัว ไทยพาณิชย์ทำหนังสือแจ้ง คปค. อ้างล่าสุดได้รับไฟเขียวให้เบิกได้แล้ว แบงก์ชาติสั่ง"คุณหญิงชฎา"คุมการเคลื่อนไหวเงินฝากทุกบัญชี "อุ๋ย"ยันเงินขายหุ้นชิน 7.3 หมื่นล้าน ยังอยู่ ไม่ได้ถูกขนออกนอก เลขาฯคณะรัฐศาสตร์เผย"อุ๊งอิ๊ง"ยังไปเรียนจุฬาฯตามปกติ ทหาร-ตร.วางกำลังตรึงจันทร์ส่องหล้า

@ "พจมาน"ขอถอน20ล.ใช้ส่วนตัว

ตลอดวันที่ 22 กันยายน เกิดกระแสข่าวสะพัด คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถอนเงินจากธนาคารไทยพาณิชย์ 2,000 ล้านบาท เพื่อเตรียมส่งออกต่างประเทศ ผ่านช่องทางการติดต่อนักธุรกิจไทยที่ทำธุรกิจส่งออก เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ด้วยการให้โอนเงินค่าสินค้าส่งออกที่ได้รับจากต่างประเทศ 2,000 ล้านบาทเข้าบัญชีคุณหญิงพจมานในต่างประเทศ โดยคุณหญิงพจมานจะนำเงินที่เบิกจากธนาคารไทยพาณิชย์ 2,000 ล้านบาท จ่ายคืนให้กับนักธุรกิจส่งออกแทน

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเรื่องนี้ จากแหล่งข่าวระดับสูงจากธนาคารไทยพาณิชย์ ได้รับการชี้แจงว่า คุณหญิงพจมานได้ยื่นเรื่องถึงธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อขอเบิกเงินฝากจริง แต่จำนวนเพียง 20 ล้านบาท ซึ่งธนาคารได้รายงานให้คณะกรรมการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ภายใต้การนำของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) รับทราบแล้ว และทางคณะปฏิรูปฯไม่ขัดข้อง เนื่องจากปัจจุบัน พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานยังไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีใดๆ ที่จะต้องอายัดหรือยึดทรัพย์ หลังจาก คปค.เข้ายึดอำนาจการปกครองเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา

"คุณหญิงพจมานอ้างว่าจะเบิกเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว และไม่คิดว่าจะมีการนำเงินออกนอกประเทศ เพราะแบงก์ชาติมีการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด ตามกฎหมายปริวรรตเงินตราที่ห้ามนำเงินสดออกประเทศเกิน 5 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังมีการสั่งการจากแบงก์ชาติให้คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์เข้ามาดูแลการเคลื่อนไหวของบัญชีเงินฝากทุกบัญชี

พล.ท.พลางกูร กล้าหาญ โฆษก คปค. กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิเสรีภาพของคุณหญิงพจมานที่จะเบิกถอนเงินไม่ต้องแจ้ง หรือทำหนังสือขออนุญาตจาก คปค. เนื่องจากยังไม่มีกรณีของการอายัดหรือยึดทรัพย์แต่อย่างใด

@ ผู้ว่าการธปท.ยัน7.3หมื่นล.อยู่ในปท.

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวถึงกระแสข่าว ธปท.สั่งอายัดบัญชีเงินฝากของนักการเมือง 17 รายว่า ไม่เป็นความจริง เพราะ ธปท.ไม่มีอำนาจและไม่มีผู้ใดสั่งการ หากจะมีการสั่งการใดๆ ต้องเป็นผู้ที่มีอำนาจเท่านั้น จึงจะดำเนินการได้ นอกจากนี้ยังยืนยันว่าไม่มีการโอนเงินออกจากประเทศไทย และไม่มีการแลกเงินดอลลาร์สหรัฐออกไปจำนวนมากอย่างผิดสังเกต

ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า เงินจากการซื้อขายหุ้นชิน คอร์ปอเรชั่น จำนวน 73,000 ล้านบาท ยังคงอยู่ในประเทศไทย เพราะหากมีการนำออกไปจริง ธปท.จะต้องเห็นผิดสังเกต แต่ ธปท.ไม่รู้ว่าจะมีการถอนเงินจากธนาคารพาณิชย์หรือไม่ ถ้าเป็นการโอนเงินออกนอกประเทศก้อนใหญ่ ไม่มีอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการถือเงินสดออกนอกประเทศ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวว่า "กรณีนี้ผมไม่รู้ เป็นหน้าที่ของ ตม.(เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง) จะตรวจสอบเงินฝากทุกบัญชีด้วยตนเอง" แหล่งข่าวกล่าว

@ "อุ๊งอิ๊ง"ยังไปเรียนจุฬาฯตามปกติ

นางอัจฉรา สุนทราชุน เลขานุการคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ขณะนี้ "อุ๊งอิ๊ง" หรือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวอดีตนายกรัฐมนตรี ยังคงมีสถานะเป็นนิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ คาดว่าสัปดาห์หน้าคงเข้าสอบปลายภาค เนื่องจากในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการเรียน และไม่ได้ขอย้ายไปเรียนต่างประเทศ เพราะเป็นความตั้งใจของอุ๊งอิ๊งตั้งแต่ต้นที่ต้องการจบจุฬาฯ

"ระหว่างที่ดิฉันไปทานข้าวที่โรงอาหารวันที่ 21 กันยายน ได้ยิน รปภ. (หน่วยรักษาความปลอดภัย) พูดคุยกันว่าเห็นอุ๊งอิ๊งมาเรียนตามปกติ โดยบางวันมีผู้หญิง บางวันมีผู้ชายอายุรุ่นพี่คอยติดตามอย่างใกล้ชิดสลับกันในแต่ละวัน และก่อนหน้านี้ 2-3 วัน ดิฉันก็เจออุ๊งอิ๊งและเพื่อนๆ ที่ห้องสมุด ซึ่งอุ๊งอิ๊งยังยกมือไหว้พร้อมทั้งทักทายตามปกติ เหล่าคณาจารย์ก็ปฏิบัติกับอุ๊งอิ๊งเช่นเดียวกับนิสิตคนอื่นๆ ทั่วไป ส่วนวันนี้ (22 กันยายน) ดิฉันไม่เห็นว่าอุ๊งอิ๊งมาเรียน" นางอัจฉรากล่าว

@ ทหาร-ตร.คุมจันทร์ส่องหล้า

สำหรับบ้านพักอดีตนายกฯและบริเวณโดยรอบ บ้านในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ที่คุณหญิงพจมาน นายพานทองแท้ และ น.ส.แพทองธารคงอาศัยอยู่ที่นั่น บรรยากาศทั่วไปยังคงเงียบเหงา มีตำรวจนอกเครื่องแบบและในเครื่องแบบจากสน.บางพลัด จำนวนหนึ่งเฝ้าอยู่ด้านเส้นทางข้างบ้าน ขณะที่หน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า มีชายสวมเสื้อยืดสีดำหน้าอกปักตราสันติบาล 3 เฝ้าอยู่

ทั้งนี้ ภายในบ้านอดีตนายกฯมีรถยนต์หลายคันจอดอยู่ ภายในซอยก่อนถึงตัวบ้าน ตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวนหนึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์ออกตระเวนตรวจตราดูแลความปลอดภัย นอกจากนี้ พ.ต.อ.ไพฑูรย์ คุ้มสระพรม ผกก.สส.บก.น.7 ขับขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนดูความปลอดภัยเช่นกัน สำหรับเส้นทางที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยใช้ผ่านเข้า-ออก ซอยจรัสลาภ ถนนบรมราชนี รวมถึงเส้นทางลัดผ่านเข้าบ้านมีกำลังทหารคุมอยู่

นายเอกพร รักความสุข อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย และโฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้เปรียบเหมือนมีงูเลื้อยเข้ามาอยู่ในบ้าน บางคนตื่นเต้นก็มาคลอเคลีย ชื่นชม แต่พรรคหวังว่าในอนาคตจะไม่กลายเป็นงูพิษและสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว หากไม่ทำตามคำมั่นสัญญาที่ประกาศไว้ในการยกร่างรัฐธรรมนูญสามารถใช้ได้กับทุกคน ปัญหาทุกอย่างก็อาจจะไม่เกิดขึ้น

นายเอกพรกล่าวว่า ขณะนี้หลายคนกำลังรอให้สถานการณ์ภายในประเทศดีขึ้น เมื่อรถถังเคลื่อนออกจาก กทม.ไปแล้วความรู้สึกต่างๆ ก็เริ่มชัดเจนว่าจะวางมืออย่างไร หรือเคลื่อนไหวกิจกรรมของพรรคต่อไปอย่างไร เพราะหลายคนที่อยู่ในต่างประเทศทั้งในอังกฤษและฝรั่งเศสในขณะนี้ต่างก็ไม่มีความสุข ทุกคนก็อยากกลับประเทศไทย ส่วนจะกลับได้หรือไม่เป็นสิ่งที่น่าคิดเพราะมีการตรวจค้นเครื่องบินว่าอดีตรัฐมนตรีคนไหนเดินทางกลับประเทศบ้าง ทั้งที่ควรประกาศไปเลยว่าอยากให้รัฐมนตรีคนไหนกลับมารายงานตัวมากกว่าการใช้วิธีตรวจค้น

"เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางกลับประเทศไทย หลังแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยืนยันว่าทุกคนยังสังกัดในนามพรรคไทยรักไทยตราบใดที่ยังไม่มีการยื่นใบลาออก หากพรรคสามารถผ่านจากสถานการณ์เหล่านี้ไปได้ เชื่อว่าความเป็นสถาบันของพรรคจะยังอยู่ต่อไปไม่ว่าจะมีจำนวน ส.ส.ลดลงก็ตาม" นายเอกพรกล่าว

@ ปลัดมท.ให้ผู้ว่าฯห้ามชุมนุม-เคลื่อนขบวน

นายสุจริต ปัจฉิมนันท์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการและดูแลรับผิดชอบการทำงานของกระทรวงมหาดไทย ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เรียกประชุมผู้บริหารระดับสูง อธิบดี หัวหน้าส่วนราชการในสังกัด รัฐวิสาหกิจในสังกัด พร้อมเรียกประชุมผู้ว่าฯทั่วประเทศผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ เมื่อเวลา 13.30 น. เพื่อชี้แจงให้รับทราบนโยบาย รวมถึงเจตนารมณ์ต่างๆ ที่ พล.อ.สนธิได้ประกาศไป

"ให้ผู้ว่าฯเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน ผู้นำองค์กรส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน และภาคเอกชนในจังหวัดให้เข้าใจถึงการที่ คปค.เข้ามาปฏิรูประบบการปกครองในครั้งนี้ และห้ามไม่ให้มีการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือจัดงานสัมมนาที่ส่อไปในทางที่จะคำสั่ง คปค. รวมทั้งห้ามไม่ให้มีการเคลื่อนขบวนออกนอกพื้นที่ และขอให้ผู้ว่าฯร่วมกับนายอำเภอ ดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อย และห้ามผู้ว่าฯเดินทางไปต่างประเทศ เว้นแต่มีภารกิจเร่งด่วน" นายสุจริตกล่าว

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์มติชน