หญิงอ้อ-โอ๊ค-อุ๊งอิ๊ง กลับบ้านแล้ว

โดย"อุ๊งอิ๊ง"ออกไปเรียนที่จุฬาฯก่อนกลับบ้าน ทหารที่ตั้งด่านเต็มซอยเข้าบ้านตรวจค้นอย่างละเอียดก่อนปล่อยผ่าน ทั้งนี้ก่อนรถของลูกอดีตนายกฯมาถึง ทีมรปภ.เข้ามาประสานกับฝ่ายทหารล่วงหน้า อย่างไรก็ตามอนุญาตเฉพาะคนในบ้านเท่านั้น ส่วนตำรวจและบุคคลภายนอกห้ามผ่านเด็ดขาด


"แม้ว"ให้เลขาฯนำแถลงการณ์ออกมาแจกนักข่าว ที่ปักหลักเฝ้าทำข่าวบริเวณอพาร์ตเมนต์ที่พักใจกลางลอนดอน เรียกร้องทุกฝ่ายสมานฉันท์ ให้คณะปฏิรูปฯรีบคืนอำนาจแก่ประชาชนโดยเร็ว ส่วนตนเองคงถึงเวลาต้องพักผ่อนแล้ว ส่วนอนาคตอาจทำงานวิจัยหรือมูลนิธิการกุศล จากนั้นเดินยิ้มจูงมือ"พิณทองทา"ลูกสาวไปช็อปปิ้ง

เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 21 ก.ค. ที่ท่าอากาศยานทหาร บน.6 ดอนเมือง เจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนที่เดินทางติดตามคณะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปร่วมประชุมสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ที่กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา กว่า 20 คน เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยด้วยเครื่องบินการบินไทยเช่าเหมาลำ หลังจากแวะส่งพ.ต.ท.ทักษิณที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยกำหนดการก่อนหน้านี้เครื่องบินลำดังกล่าวจะลงจอดและส่งผู้โดยสารที่ทางออกของท่าอากาศยานดอนเมือง แต่เมื่อถึงเวลาจริงเครื่องบินได้ลงที่บน.6 ขณะที่สื่อมวลชนที่ไปรอทำข่าวได้รับแจ้งจากทหารของทอ.ว่า ผู้บังคับบัญชาไม่อนุญาตให้เข้าไปภายในบริเวณสนามบินเหมือนที่ผ่านมา ทั้งที่ช่วงเช้ายังอนุญาตให้รถที่มีสติ๊กเกอร์ผ่านเข้าออกได้ตามปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ทันทีที่เครื่องลงจอด ทหารหน่วยรบพิเศษของทบ.และทอ. สวมหมวกเบเรต์ อาวุธครบมือ ประมาณ 10 นาย กรูเข้าตรวจค้นบนเครื่องบินทันที เนื่องจากมีข่าวลือว่าอดีตนายกฯ และอดีตรมว.ต่างประเทศ อาจเดินทางมาพร้อมคณะด้วย การตรวจค้นเป็นไปอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุมของเครื่องบิน ทั้งบริเวณช่องทางเดิน ห้องน้ำ ห้องเก็บของและเก้าอี้ต่างๆ ขณะเดียวกันทั่วบริเวณอาคารและรอบสนามบินมีหน่วยคอมมานโดอาวุธครบมือ ตรึงกำลังเต็มพื้นที่

ภายหลังตรวจค้น หน่วยรบพิเศษเชิญเจ้าหน้าที่บนเครื่องบิน

นำโดยนายอภินันท์ ปวนะฤทธิ์ รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายต่างประเทศ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ 6 คน ลงจากเครื่องเป็นชุดแรก และทยอยลงมาจนครบ จากนั้นประทับตราหนังสือเดินทางเข้าประเทศตามขั้นตอน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นจัดรถไปส่งเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนออกมาด้านนอก

ต่อข้อถามว่าหลังเกิดเหตุการณ์รัฐประหารได้พูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณถึงอนาคตทางการเมืองหรือไม่ นายสุรเกียรติ์ กล่าวว่า ไม่ได้หารือ ถือว่าทุกอย่างจบแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ได้ว่าอะไร บอกเพียงว่าขอไปพักผ่อนที่ลอนดอน ส่วนการดำเนินการต่อไปถือเป็นเรื่องของคณะปฏิรูปฯ การพบปะกับผู้นำประเทศต่างๆ เมื่อไทยได้ประกาศคืนอำนาจให้ประชาชนและระบุว่าจะเลือกตั้งโดยเร็วก็ทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจ โดยเฉพาะเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพล.อ.สนธิ ยิ่งทำให้ประเทศต่างๆ เข้าใจยิ่งขึ้น

เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณบอกหรือไม่ว่าจะอยู่ที่ลอนดอนนานเท่าใด

นายสุรเกียรติ์กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่เมื่อเหตุการณ์จบแล้วคงไม่มีอะไร พ.ต.ท.ทักษิณก็รับโดยดุษณี ไม่มีอาการอะไร ดูสงบดี เท่าที่ทราบตอนนี้อยู่กับลูกสาวที่ลอนดอน ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ จะไปสมทบหรือไม่ ตนไม่ทราบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลา 14.00 น.กำลังทหาร 10 นายตั้งจุดตรวจอย่างเข้มงวดบริเวณทางเข้าซอยจรัลลาภ ถนนสิรินทร ซึ่งสามารถผ่านเข้าออกบ้านจันทร์ส่องหล้าได้ โดยตรวจค้นรถทุกคันอย่างละเอียดและตรวจบัตรประชาชนด้วย ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่รปภ.ของอดีตนายกฯ 2 คนเข้ามาพูดกับทหารที่จุดตรวจ ว่าได้ประสานกับผู้ใหญ่ในกองทัพแล้วว่า อีกสักครู่จะมีรถของบุตรสาวอดีตนายกฯกลับจากเรียนหนังสือที่จุฬาฯ เดินทางเข้าบ้านพัก ขอให้อำนวยความสะดวกให้ด้วยและยินดีให้ตรวจค้นรถโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทหารที่เฝ้าจุดจึงรายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบ

จากนั้นรปภ.อดีตนายกฯโทรศัพท์แจ้งรปภ.ที่ติดตามบุตรสาวอดีตนายกฯได้ทราบ ก่อนขบวนรถจะมาถึงจุดตรวจดังกล่าวประมาณเวลา 14.30 น.

จำนวน 3 คัน ประกอบด้วยคันแรกโตโยต้า คัมรี ต่อด้วยรถเบนซ์ ทะเบียน ฐศ 8228 กทม. มี"อุ๊งอิ๊ง"น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของอดีตนายกฯ อยู่ในชุดนิสิตจุฬาฯ นั่งอยู่ที่นั่งด้านหลังคนขับ ปิดขบวนด้วยรถจากัวร์

ทหารชุดปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะเข้าออกบ้านจันทร์ส่องหล้า เปิดเผยด้วยว่า วันเดียวกันนี้คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาพ.ต.ท.ทักษิณ และ"โอ๊ค"นายพานทองแพ้ ชินวัตร บุตรชายคนโต ได้เดินทางกลับเข้าบ้านพัก โดยมีการประสานงานกับทางทหารเป็นที่เรียบร้อย แต่ทหารอนุญาตเฉพาะคนในบ้านจันทร์ส่องหล้าผ่านเท่านั้น ไม่อนุญาตตำรวจหรือบุคคลอื่น ซึ่งหากต้องการเข้าไปจะต้องได้รับอนุญาตจากนายทหารระดับผบ.พัน

เพื่อนนิสิตจุฬาฯของ"อุ๊งอิ๊ง"แพทองธาร เปิดเผยว่า วันนี้อุ๊งอิ๊งไปเรียนตามปกติ เพราะช่วงนี้ใกล้สอบ และได้พบกับอุ๊งอิ๊งในช่วงเที่ยง แต่ไม่ได้พูดกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่อยากพูดถึง อย่างไรก็ตามเท่าที่เจอกันเห็นว่าอุ๊งอิ๊งยังสบายดี ไม่ได้วิตกกังวลอะไร

ด้านนายไชยันต์ ไชยพร หัวหน้าภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า

วันนี้ตนไม่เห็นน.ส.แพทองธาร แต่ไม่ได้หมายความว่ามาหรือไม่มาเรียน อย่างไรก็ตามตนไม่อยากให้โยงเรื่องของน.ส.แพทองธาร ไปเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ที่ให้ข่าวก่อนหน้านี้เพราะต้องการย้ำและให้เหตุผลว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่น่าจะทราบเรื่องทำรัฐประหารยึดอำนาจก่อนล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นคงนำภรรยาและบุตรสาวออกนอกประเทศไปก่อนแล้ว

ต่อมาเวลา 18.00 น. รอยเตอร์ รายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณส่งเลขานุการส่วนตัวออกมาจากอพาร์ตเมนต์ที่พักใจกลางกรุงลอนดอน เพื่อมอบเอกสารแถลงการณ์แก่ผู้สื่อข่าวด้านนอก มีใจความว่า

ไม่ควรปล่อยให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วง 2 วันที่ผ่านมา มาทำลายความตั้งใจของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งต้องการเห็นความสมานฉันท์ในประเทศ จึงเรียกร้องทุกฝ่ายร่วมกันหาหนทางที่จะทำงานร่วมกัน และก่อให้เกิดความสมานฉันท์ เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อประโยชน์สุขของประเทศไทย


พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุในแถลงการณ์ด้วยว่า

ตนหวังว่าคณะปฏิรูปฯ จะจัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว เพื่อธำรงไว้ซึ่งประชาธิปไตยแก่ประชาชนคนไทยทุกคน ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่ตนเองจะได้พักผ่อน และหลังจากนี้จะมุ่งเน้นทำกิจกรรมด้านการวิจัย การพัฒนา รวมถึงอาจเบนเข็มไปทำงานการกุศลในประเทศไทย

ต่อมาเวลา 20.20 น. เอเอฟพี รายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งมีบ้านส่วนตัวในย่านเคนซิงตัน แต่ไม่ได้เข้าพัก โดยมาพักที่ห้องชุดในโรงแรมหรูดอร์เชสเตอร์ แถบปาร์กเลน ตรงข้ามกับสวนสาธารณะไฮด์ปาร์ก ซึ่งหลังจากพ.ต.ท.ทักษิณเดินออกมาจากโรงแรมพร้อมน.ส.พิณทองทา อดีตนายกฯไทยให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า จะไปซื้อของที่ร้านขายสินค้าไทย ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ให้ไปดูจากแถลงการณ์ที่เพิ่งแจกจ่ายผู้สื่อข่าว

เอเอฟพี รายงานด้วยว่า

สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ส่งรถมาบริการพ.ต.ท.ทักษิณ และนำเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ มาที่ห้องพักของพ.ต.ท.ทักษิณ เช่น เตารีด โต๊ะที่รีดผ้า ไวน์ ฯลฯ โดยคนขับรถสถานทูตไทย กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นบุคคลหมายเลข 1 และเป็นคนดี นอกจากนี้ นายอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี นายกฯมาเลเซีย ซึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจประชุมสหประชาชาติที่สหรัฐ ก็บินแวะมาพักที่โรงแรมดอร์เชสเตอร์เช่นกันด้วย แต่ทูตมาเลเซียระบุว่า ผู้นำมาเลย์คงไม่พูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะมาเลเซียยึดหลักไม่ก้าวก่ายกิจการภายในประเทศอื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมถึงบรรยากาศบนเครื่องบิน ก่อนที่พ.ต.ท.ทักษิณและคณะจะมาถึงกรุงลอนดอน ว่า พ.ต.ท.ทักษิณเดินมาทักทายเจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนบนเครื่องบินใช้เวลาประมาณ 7-8 นาที โดยมีท่าทีและสีหน้าเรียบเฉย คล้ายกับปลงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ไม่มีปัญหา เมื่อไม่มีคนอยากให้ทำงานก็ไม่ทำ บ้านเมืองยังมีคนมีความสามารถอีกมาก ขณะนี้สิ่งที่อยากทำที่สุดคืออยากกลับบ้าน อยากสอนหนังสือ อยากอยู่กับลูก แต่คงไม่ได้อ่านหนังสือมากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะไม่รู้จะไปสอนใคร

ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณมีท่าทีอ่อนลงอย่างชัดเจน ไม่มีท่าทีแข็งกร้าวเหมือนสมัยยังดำรงตำแหน่งนายกฯ

สำหรับบุคคลที่ไปลอนดอนกับพ.ต.ท.ทักษิณ ประกอบด้วย นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เลขานุการส่วนตัว นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ คณะทำงาน พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผบก.สันติบาล 3 และนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด