"อภิสิทธิ์-สุเทพ" บอกคาดไว้ไม่ผิดถูกเล่นงานต่างกรรมต่างวาระ หลังดีเอสไอแจ้งข้อหาฆ่า-พยายามฆ่านับพันคดี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คาดการณ์ไว้แล้วว่าจะมีการตั้งข้อหาเป็นคนออกคำสั่งเป็นเหตุให้มีการกระทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล ซึ่งมีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนกัยเขาและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง รวมทั้งพยายามตั้งข้อหาพยามฆ่าเขาและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อีกกว่า 2000 คดี จากจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชุมนุมดังกล่าว ซึ่งวันที่เข้าพบพนักงานสอบสวนก็ได้สอบถามว่าดหตุการณ์คราวเดียวกัน แต่ทำไมทำต่างกรรมต่างวาระ เพราะเป็นการออกคำสั่งเพียงครั้งเดียวให้นายสุเทพเป็นผู้อำนวยการ ศอฉ.
ทั้งนี้ ขอข้อสังเกตว่า ทำไมคดี26 แกนนำข้อหาก่อการร้าย
จึงทำเป็นเพียงสำนวนเดียวไม่ทำต่างกรรมต่างวาระเหมือนคดีของเขาและนายสุเทพ และแทนที่จะแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 157 เพราะเขาและนายสุเทพออกคำสั่งในฐานะนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี แต่พนักงานสอบสวนกลับบอกว่าแจ้งในฐานะนายอภิสอทธิ์และนายสุเทพ
"ผมถามว่าแล้วนายอภิสิทธิ์มันเอาอำนาจอะไรไปตั้งศอฉ. เขาก็บอกว่าเอาตามนั้น เรื่องนี้ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมาย เพราะเขาต้องการให้คดีไปสู่อัยการ ไปศาล3 ชั้น ซึ่งก็มีความเป็นไปได้เหมือนกันว่าฟ้องผิดศาล" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ล่าสุดดีเอสไอตั้งข้อหาเกี่ยวกับเงินบริจาคของเขาจำนวน 20,000 บาทที่บริจาคให้พรรคประชาธิปัตย์จำนวน 21 เดือน ก็ทำเป็น 21 สำนวน
ทั้งๆที่เรื่องดังกล่าว กกต.มีการตรวจรับรองมาตลอด กฎหมายก็เขียนไว้เพียงว่าตั้งแต่20,000 บาทขึ้นต้องเช็คขีดคร่อมโดยไม่ได้บอกว่าใครเป็ยคนออก ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรก็ออกเช็คจากการหักเงินเดือนของเขา เจตนารมณ์ของกฎหมายเพื่อที่ต้องการทราบที่มาที่ไปของเงินเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการทุ่มบริจาครายใหญ่ และยังมีความพยายามจะแจ้งข้อหาเดียวกันกัย ส.ส.และสมาขิกพรรคประชาธิปัตย์อีก 30 คนในลักษณะเดียวกัน
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตอ.ศอฉ. กล่าวว่า กระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้น
เพราะต้องการให้เขาและนายอภิสิทธิ์ยอมรับกฎหมายปรองดอง การสั่งการต่างๆเป็นไปเพื่อคุ้มครองปกป้องชีวิตเจ้าหน้าที่และประชนผู้บริสุทธิ์ มีมาตรการจากหนักไปหาเบา และในกลุ่มผู้ชุมนุมมีกลุ่มก่อร้ายติดอาวุธ ก่อนออกคำสั่งอัยการสูงสุดได้นำกฎบัตรสหประชาชาติมาเปิดดูว่าสามารถใช้อาวุธได้หรือไม่ และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็เป็น 1 ในคณะกรรมการ ศอฉ.ที่มีบทบาทอย่างมากในการแสดงคสามคิดเห็น และอาสาเป็นผู้แถลงข่าวเองในหลายครั้ง
"ผมเป็นคนชอบจดบันทึก จึงจดบันทึกไว้หมดว่านายธาริตพูดอะไรไว้บ้างในที่ประชุม แต่วันนี้ สำนวนที่ฟ้อง นปช.ก่อนหน้านี้กับสำนวนฟ้องพวกผม 10 หน้าผอดจากหน้ามือดป็นหลังมือ" นายสุเทพกล่าว และว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้รับการคุ้มครองจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ต้องรับผิดทั้งอาญา แพ่ง และวินัย รวมถึงผู้ออกคำสั่ง แต่ยอมรับว่าคดีที่มีจำนวนมากทำให้เขารำคาญ เพราะเสียเวลา
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
