สุเทพฉะจตุพรโง่หรือแกล้งโง่กล่าวหาแจงหนี้เท็จ

คมชัดลึก :"ตู่" แฉ"สุเทพ"แจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จ หนี้ 80 ล.ล่องหน จวกใช้ลูกชายเป็นนอมินีถือครองที่ดินเกาะสมุย ด้านเทพเทือก อัดแกล้งโง่ หรือโง่จริง ลั่นทุกอย่างตรวจสอบได้

"ข้อพิรุธที่น่าสนใจ คือ เงินกู้ยืมจำนวน 15 ล้านบาท ที่ยืมจากบริษัทสุราษฎร์โกลเด้นแลนด์นั้น มีการยืมกันจริงหรือไม่ และเอาเงินส่วนไหนไปใช้หนี้ เพราะนายสุเทพได้แจงตอนรับตำแหน่งเมื่อปี 2540 ว่า มีรายได้ประจำจากการรับราชการเพียง 1.2 ล้านบาท ดังนั้นหนี้ที่หายไปก้อนแรก คือเงินกู้ 15 ล้านบาทจากบริษัทสุราษฎร์โกลเด้นแลนด์ แม้จะไปกู้ยืมเพิ่ม ก็ไม่เพียงพอใช้หนี้ เพราะการเป็นหนี้ของบริษัทศรีมิตรอีกจำนวน 3 รายการเมื่อรวมกันแล้ว มีถึง 65 ล้านบาท รวมหนี้ทั้งหมดของนายสุเทพมีถึง 80 ล้านบาท เอาเงินที่ไหนมาใช้ แถมยังมีการซื้อที่ดิน คอนโด อาคารเพิ่มเติม แต่หนี้ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย"

นายจตุพรกล่าวว่า และน่าสังเกตว่าขณะที่นายสุเทพดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลยุคนั้น

สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ทั้ง 4 แห่ง ก็ติดอยู่กับปรส.จึงทำให้ตรวจหาไม่พบว่า ใครเป็นเจ้าหนี้และชำระหนี้กันครบหรือไม่อย่างไร และความจริงคือปรส.ได้นำสินทรัพย์เจ้าหนี้ทั้ง 4 กลุ่มของนายสุเทพไปขายให้กองทุนรวมบางกอกแคปปิตอลซึ่งจดทะเบียนเป็นกองทุนรวมไทยแคปปิตอลแอลซีในภายหลัง และมีการไปจดไว้ที่หมู่เกาะเคแมน เรื่องใหญ่กว่าคือ ในหนี้ 80 ล้านบาทนั้น มีหนี้กว่า 60 ล้านบาท เกี่ยวข้องกับการไปปิดสถาบันการเงิน ที่การขายสินทรัพย์ดังกล่าวขาดทุนเป็นแสนล้านบาท ดังนั้นนายสุเทพไม่ได้ล้มบนฟูก แต่ปล้นบนฟูก

นายจตุพรกล่าวต่อว่า การยื่นถอดถอนในประเด็นต่อไป คือ การไม่ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินที่มีอยู่จริง ปกปิดให้อยู่ในครอบครองของบุคคลอื่นในลักษณะนอมินี ที่ดินเขาแพง

หมู่ 6 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ในนิติกรรมซื้อขาย นายสุเทพใช้นายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชาย เป็นตัวแทนทำการซื้อขายถือครองที่ดินแทน ในเนื้อที่ 62 ไร่ 1 งาน 97 ตารางวา พฤติการณ์มีความเป็นมามากมายตั้งแต่การเป็น ส.ค.1 จนเป็นน.ส.3 ก. มาจนเป็นโฉนด มีการเพิ่มเนื้อที่กันมาตลอด การออกน.ส.3 ก. โดยห้างหุ้นส่วนจำกัดเรืองปัญญาคอนสตรักชั่นเพื่อนนายสุเทพและเป็นพ่อครัวการชุมนุมพันธมิตรได้นำที่แปลงหนึ่งในหลายแปลงพื้นที่ 7 ไร่ แต่ช่างรังวัดเป็น 16 ไร่ 3 งาน 97 ตารางวา เพิ่มมา 9 ไร่เศษ ซึ่งเป็นของนายจรูญ ศรีแผ้ว เจ้าของส.ค. 1 มาออกเป็นน.ส.3 ก. มีการเปลี่ยนการจดแจ้งที่ดินโดยรอบยาวขึ้นกว่าเดิม ขยายยาวทั้ง 4 ด้าน นอกจากนี้ ห้างหุ้นส่วนจำกัดเรืองปัญญาคอนสตรักชั่น ยังระบุได้ครอบครองและทำประโยชน์ตั้งแต่ปี 2537 แต่กลับจดทะเบียนจัดตั้งกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไว้วันที่ 12 กรกฎาคม 2539

นายสุเทพอาจบอกว่า นายแทนอายุ 30 ปีแล้ว มีธุรกิจเป็นร้อยล้านบาท แต่วันที่นายแทนทำสัญญาซื้อขายที่ดินดังกล่าววันที่ 5 ตุลาคม 2544 นายแทนอายุเพียง 21 ปี และเรียนอยู่ที่ออสเตรเลีย

และทั้งผู้ซื้อผู้ขายส่งตัวแทนมาทำนิติกรรมแทนเท่านั้น โดยซื้อในราคา 6 ล้านบาทเศษ ประเด็นคือ ตัวอย่างศาลฎีกานักการเมืองที่พิพากษากรณีการโอนหุ้นระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณกับบุตรสาวยังเชื่อว่าเป็นนิติกรรมนอมินี หลังจากนั้นนายแทนได้ให้ที่ดินกับนางศรีสกุล พร้อมพันธ์ นอกจากนี้ สภาพที่ดินทั้งหมดเป็นพื้นที่ภูเขาเกือบทั้งแปลง สรุปคือตั้งแต่ส.ค. 1 ในแปลงดังกล่าว มีเพียง 15 ไร่ แต่เมื่อผ่านมาเป็นน.ส. 3 ก. จนได้เป็นโฉนดกลับเพิ่มเป็น 62 ไร่ เพิ่มมาได้อย่างไร 47 ไร่

“ที่นายสุเทพพยายามบอกกรรมการดีเอสไอให้ไม่รับคดีเกี่ยวกับที่ดินเป็นคดีพิเศษ เพราะบุตรชายถือครองที่ดินดังกล่าวไว้ นายสุเทพมีพฤติกรรมซ้ำซากตั้งแต่กรณี ส.ป.ก.4-01 และศาลได้สั่งว่าผิดชัดเจน และถ้าเรื่องนี้เป็นมาตรฐานเดียวกัน นายสุเทพต้องถูกดำเนินคดีฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยเสียหายแก่รัฐ นายสุเทพเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กำกับทั้งดีเอสไอ สตช.กระทรวงหมาดไทยที่มีกรมที่ดิน ออกโฉนดผิด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องดำเนินการเพิกถอนที่ดินดังกล่าวกลับมาเป็นของรัฐเหมือนกับกรณีส.ป.ก.4-01"

ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงข้อกล่าวหาของนายจตุพร

เรื่องการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จช่วงเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระหว่างวันที่ 12 ธันวาคม-18 กุมภาพันธ์ 2544ว่า ไม่รู้ว่านายจตุพรโง่ หรือแกล้งโง่ การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินทุกอย่างต้องโปร่งใส มีเอกสารต่างๆ แนบไปกับการยื่นบัญชีอย่างละเอียด และแบ่งแยกชัดเจน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ ส่วนข้อกล่าวหาบุกรุกที่ดินบนเกาะสมุยนั้น อยากชี้แจงว่า ลูกชายได้ไปซื้อที่ดินแปลงนี้เมื่อปี 2544 มีเอกสารสิทธิถูกต้อง และยืนยันว่า ทำถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง