สุเทพ เปิดหลักฐานโชว์สื่อ สาวแกนนำ ทรท.ฮั้วเลือกตั้ง

สุเทพ เปิดหลักฐานโชว์สื่อ สาวแกนนำ ทรท.ฮั้วเลือกตั้ง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 มีนาคม 2549 17:58 น.

สุเทพ เทือกสุบรรณ แฉ ขบวนการโกงการเลือกตั้ง เปิดซีดีสารภาพแบบละเอียดยิบของผู้สมัครพรรคเล็ก โยงถึง เจ๊หน่อย-ธรรมรักษ์-ศิธา-เสธ.ไอซ์เสธ.ผดุง มีเอี่ยว พร้อมเผยหลักฐานทำบัตรประชาชนย้อนหลัง และมีลายเซ็น ทักษิณ กำกับสร้างหลักฐานสมาชิกพรรคย้อนหลังให้ผู้สมัครเขต 3 นครศรีธรรมราช ก่อนนำหลักฐานส่งมือ กกต.ให้ตรวจสอบด่วน

วันนี้ (21 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงขบวนการทุจริตการเลือกตั้งของผู้สมัครของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ในภาคใต้ ว่า ไม่ได้มีเฉพาะ 3 คนที่ จ.ตรัง แต่มีที่ จ.นครศรีธรรมราช และปัตตานี ด้วย แต่กรณีของ จ.ตรัง คือ มาพร้อมกันและเป็นคนตำบลเดียวกัน เพราะกลัวว่าจะผิดกฎหมาย และวันที่ตนนำทั้ง 3 คนมาแถลงข่าว ก็ไม่มีเจตนาพาดพิงใคร เพราะไม่คิดว่าขบวนการจะใหญ่ขนาดนี้ คิดแต่ว่าจะช่วย 3 คนไม่ให้ผิดกฎหมาย จึงแนะนำไปว่าให้แสดงเจตนาลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เพราะสำนึกแล้วว่า อาจจะผิดกฎหมายได้ ซึ่งตนจะไปเป็นพยานให้

ทั้งนี้ นายสุเทพ ได้เปิดซีดีบันทึกการสัมภาษณ์ น.ส.ฐัติมา ภาวะลี ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับ 2 พรรคแผ่นดินไทย ที่เล่าถึงลำดับขบวนการกระทำทุจริตการเลือกตั้งอย่างละเอียด โดย น.ส.ฐัติมา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา นายบุญอิทธิพล ชิณราช หัวหน้าพรรคได้มาประชุมที่รัฐสภา ที่มี 15 พรรค และได้เจอกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อประชุมเสร็จ นายบุญอิทธิพล ได้กลับมาประชุมกับตน และ นายพันธมิตร ดวงทิพย์ โดยบอกว่าไม่ต้องห่วง พ.ต.ท.ทักษิณ ยินดีที่จะช่วยสนับสนุนผู้สมัครพรรคเล็กๆ ทั้ง 15 พรรคในการลงสมัคร โดยก่อนหน้านั้น พรรคได้เตรียมผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ 5 คน โดยนายพันธมิตร อยู่ลำดับ 1 ส่วนตนอยู่ลำดับ 2 ในวันที่ส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อในวันที่ 2 มีนาคม ตนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย 50,000 บาท ซึ่ง นายอภิพล บอกว่า พรรคไทยรักไทยจะสนับสนุนเงินส่วนนี้ โดยให้ออกไปก่อนแล้วมาเบิกคืน ซึ่งหลังจากที่ส่งผู้สมัครไปวันแรก แล้วจับเบอร์ได้เบอร์ 5 ผู้สมัครพรรคไทยรักไทยได้มาทำความรู้จัก นายพันธมิตร ก็ได้รู้จักกับ น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกพรรคไทยรักไทย โดย น.ต.ศิธา ได้คุยกับนายพันธมิตร ว่า ให้เตรียมผู้ที่จบปริญญาตรีลงในเขต กทม.ทั้งหมด พรรคไทยรักไทยจะช่วยค่าสมัคร ค่าสนับสนุนทุกอย่าง โดยเงินนี้ คุณหญิงหน่อย จะเป็นคนให้งบมา นายพันธมิตร จึงได้คุยกับ น.ต.ศิธา หลังจากนั้น ก็กลับมาที่ทำการพรรค ซึ่งอยู่ที่ ซอยอินทามระ 43 หลังจากนั้น นายพันธมิตร และ น.ต.ศิธา ก็ได้ติดต่อประสานกันว่า จะจ่ายเงินมาเท่าไหร่ โดยเงินส่วนนี้ คุณหญิงหน่อย จะช่วยใน กทม.ต่อหัวคนละ 15,000 บาท หลังจากสมัครเสร็จก็ช่วยให้อีก 15,000 บาท

น.ส.ฐัติมา กล่าวว่า หลังจากนั้น ตนก็มาเตรียมเอกสารรับสมัคร ซึ่งนายบุญอิทธิพล อยู่ที่ จ.มหาสารคาม เอกสารทั้งหมด และเป็นคนลงนามไว้ โดยตนเป็นคนคัดเลือกผู้สมัครใน กทม. ใต้ เหนือ และอีสาน บังเอิญในวันที่ 3 มี.ค.ช่วงเย็น นายไพฑูรย์ วงศ์วานิช ซึ่งมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี ได้ไปประชุมกับผู้ใหญ่ของพรรคไทยรักไทย ที่โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ ย่านรัชดา ว่า ท่านธรรมรักษ์เป็นเพื่อนกับผม รุ่นเดียวกัน ผมอยากให้ท่านธรรมรักษ์ช่วยในเรื่องค่าใช้จ่ายของพรรคแผ่นดินไทย ผมจึงอยากมาลงสมัครในนามพรรคแผ่นดินไทย แต่นายไพฑูรย์ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคแผ่นดินไทยมาก่อน และนายไพฑูรย์ เอ่ยถึงท่านธรรมรักษ์ ว่า ได้ไปประชุมกันที่โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ ตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า ท่านธรรมรักษ์จะช่วยสนับสนุนด้านภาคใต้ทั้งหมด หลังจากนั้น นายไพฑูรย์ ก็มาสมัครสมาชิกที่พรรค เขียนใบสมัครไว้

น.ส.ฐัติมา กล่าวว่า วันที่ 4 มี.ค.นัดประชุมกันอีกรอบที่ตึกริมคลองของศูนย์เลือกตั้ง ที่พรรคแผ่นดินไทย นายไพฑูรย์ ได้โทรศัพท์ไปหาท่านธรรมรักษ์ ว่า ประชุมเรียบร้อยแล้ว ให้ท่านนำเงินมา เพราะเรามีแกนนำประชุมกันในส่วนของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เรียบร้อบแล้ว ท่านธรรมรักษ์พูดออกมาว่า เงินใช้จ่ายทั้งหมดได้มอบให้ เสธ.ไอซ์ เป็นผู้ดูแล หลังจากนั้น นายไพฑูรย์ได้ต่อโทรศัพท์ไปที่ เสธ.ไอซ์ ซึ่ง เสธ.ไอซ์ บอกว่า เดี๋ยวจะเข้ามาที่ประชุม หลังจากนั้น เสธ.ไอซ์ ก็มาในที่ประชุมในเวลา 21.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ ได้ซักถามว่า เสธ.ไอซ์ คือ ใคร น.ส.ฐัติมา ตอบว่า ผู้ที่ท่านธรรมรักษ์ส่งให้มาดูแลในเขตของแผ่นดินไทย เสธ.ไอซ์ มากับ เสธ.ผดุง กับลูกน้องผู้ติดตามอีก นายสุเทพ ถามว่า เสธ.ผดุง คือใคร น.ส.ฐัติมา กล่าวว่า คือผู้ติดตามของ เสธ.ไอซ์ อีกที พอมาถึงที่ทำการพรรค นั่งประชุมกันเสร็จ เสธ.ไอซ์ ก็ดูว่า เราวางแผนตรงไหนบ้าง แต่เขาเน้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ต้องเอา ส.ส.เข้ามาให้ได้ เพราะตรงนี้เขาช่วยเงินสนับสนุนเต็มที่ เขาบอกว่า ถ้าสามารถส่งคนลงภาคใต้ได้ทั้งหมด เขาจะช่วยค่าสมัครคนละ 1 แสนบาท คือ ก่อนสมัครให้ 50,000 บาท หลังสมัครให้อีก 50,000 บาท เมื่อตกลงเป็นที่เรียบร้อย เสธ.ไอซ์ ก็เดินทางกลับ จากนั้นในเวลา 22.00 น. เสธ.ผดุง ก็นำเงินมาให้

นายสุเทพ ถามต่อว่า เสธ.ผดุง รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร น.ส.ฐัติมา ตอบว่า สูงเท่ากับนายสุเทพ รูปร่างขาวดำ ใส่แว่นตา ตนจำหน้าได้ นำเงินมาวางให้ที่ห้องประชุม โดยจะจ่ายตามรายหัว สมัครกี่คนก็จ่ายเท่านั้น ซึ่งสมัครประมาณ 29 คน เงินทั้งหมด 1.45 ล้านบาท เป็นธนบัตรใบละ 1 พันบาท ใส่ในถุงกระดาษ ซึ่งตนและนายประพันธ์ พรหมรัตน์ ผู้สมัครลำดับที่ 5 พรรคแผ่นดินไทย เป็นคนนับเงินแล้วเซ็นรับ หลังจากนั้น เสธ.ผดุง และทุกคนก็กลับไป

จากนั้น พรรคมาจัดสรรว่า หากหาคนมาเป็นสมาชิก แกนนำทั้งหมดจะให้ค่าหัวคนละ 1 หมื่นบาท เป็นค่านำคนมาสมัครในนามพรรคแผ่นดินไทย วันนั้นจ่ายไปประมาณ 4 แสนบาท มีนายไพฑูรย์ วงศ์วานิช นายบุญชู คุ้มสุวรรณ จาก จ.สงขลา นายแฟนดี้ ปะสู ผู้ดูแลในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายพันธมิตร ดวงทิพย์ ดูแลใน จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้น วันที่ 5 มี.ค.จะมีผู้สมัครเข้ามาเรื่อยๆ ตนก็จ่ายค่าสมัครให้ต่อหัว ครั้งแรก ทางท่านธรรมรักษ์บอกว่าให้หัวละ 50,000 บาท แต่เราให้ 40,000 บาท อีก 10,000 บาท หักเป็นค่าหัวคิว

ขั้นตอนในการสมัคร หัวหน้าพรรคจะทำชุดสมัครของพรรคแผ่นดินไทย แล้วให้กรอกใบสมัคร วันที่รับสมัครยังไม่กรอก ให้กรอกรายชื่อ หมายเลขประจำตัว และที่อยู่ เพื่อให้หัวหน้าเซ็นรับรอง ลงวันที่รับรองว่าคุณเป็นสมาชิกวันที่เท่าไหร่ โดยดิฉันทำเอกสารทั้งหมด ตรงนี้ เรารู้ว่าเราผิด ในเมื่อผิดแล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

นายสุเทพ ถามว่า พอสมัครเป็นสมาชิกพรรคแผ่นดินไทย แล้วกรอกใบสมัครอย่างไร ในเมื่อบัญชีรายชื่อสมาชิกพรรคแผ่นดินไทยที่ กกต.ไม่มี แล้วจะทำอย่างไร น.ส.ฐัติมา กล่าวว่า ตนได้แจ้งหัวหน้าพรรคแผ่นดินไทย นายบุญอิทธิพล บอกว่า ไม่เป็นไร ทำย้อนหลัง 90 วันได้ โดยวิธีการเอาผู้สมัครเดิมที่ลาออก แล้วเอาคนใหม่ที่จะลงสมัครเข้าไปใส่แทน โดยนายบุญอิทธิพล บอกว่า จะลงเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ และจะเป็นคนจัดการเอง โดยประสานกับ กกต. กับนายวีระศาสตร์ โดยเขาแนะนำว่าให้ทำมติที่ประชุมของพรรคว่า พรรคได้รับสมาชิกไว้ และมีหลักฐานว่าเป็นสมาชิกครบ 90 วัน นายบุญอิทธิพล จึงร่างมติที่ประชุมขึ้นมาในวันที่ 12 มี.ค. หลังจากสมัครเสร็จไปแล้ว และนำเอกสารบันทึกการประชุมไปยื่น กกต.ในวันที่ 14 มี.ค.ผลออกมาทั้งประเทศ กกต.รับรอง 7 คนให้ลงสมัคร ที่ จ.พัทลุง 3 คน ขอนแก่น กทม.ที่เขตบางกอกน้อย นครนายก และร้อยเอ็ด เขต 4

นายสุเทพ ถามว่า นอกจาก นายวีระศาสตร์ แล้ว ที่ กกต.ยังมีใครที่ช่วยเหลืออีก น.ส.ฐัติมาตอบว่า ไม่ทราบว่า หัวหน้าไปติดต่อใครไว้บ้าง และยืนยันว่า พร้อมจะเป็นพยานในศาล นายสุเทพ ถามว่า เคยได้เจอคุณหญิงหน่อย และ น.ต.ศิธา หรือไม่ น.ส.ฐัติมา กล่าวว่า ไม่เคยเจอคุณหญิงหน่อย แต่เคยเจอ น.ต.ศิธา ซึ่ง น.ต.ศิธา บอกว่า ที่ กทม. คุณหญิงหน่อย จะดูแล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากฉายวิดีโอจบแล้ว นายุสเทพ กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดเรื่องนี้ เพราะต้องการให้สื่อมวลชนได้เห็นว่าเมื่อมีคนมาหา และนำหลักฐานมายื่น ตนก็ตรวจดู ซึ่งกรณีนี้ ตนได้ถ่ายวิดีโอไว้อีก 2 ครั้ง โดยเป็นการสัมภาษณ์ของทนายความ และทีมกฎหมายของพรรค ซึ่งจะมีรายละเอียดกว่าการสัมภาษณ์ของตน และตนจะเอาวิดีโอไปให้ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต.ด้วยและจากนี้ไปจะไม่พูดอะไรทั้งสิ้นว่าเกี่ยวพันกับอะไรบ้าง และ น.ส.ฐัติมา ก็พร้อมจะขึ้นศาล ซึ่งขณะนี้เธอได้หนีพวก เสธ.ไปแล้ว

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า จากที่ตนให้เวลา พ.ต.ท.ทักษิณ 24 ชั่วโมง เพื่อสะสางว่ามีการกระทำการทุจริตการเลือกตั้งในพรรคไทยรักไทยจริงหรือไม่ ที่จริงตนได้บอกกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และผู้บริหารของพรรคไทยรักไทยน่าจะตระหนักและสำนึกว่าขณะนี้คนอื่นรู้เรื่องแล้ว ตนสังเกตดูผู้บริหารพรรคไทยรักไทยก็ยังใช้นิสัยเดิม คือ เสียงแข็งปฏิเสธเอาไว้ก่อน แล้วทำท่าทีขึงขังออกมาสัมภาษณ์กับสื่อ

ผมให้เวลาคุณทักษิณมา 24 ชั่วโมง ณ เวลานี้ 25 ชั่วโมงแล้ว ผมรักษาคำพูดของผม เพื่อคนเหล่านั้นไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ผมก็จะเอาโลงมาให้เขาดู นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องที่ตนจะเรียนต่อไปนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องความผิดที่พรรคไทยรักไทยทำร่วมกับคนอื่น แต่ความผิดกรณีนี้เป็นความผิดที่พรรคไทยรักไทยทำเองโดยทำร่วมกับ กกต.ในการเตรียมการทุจริตเลือกตั้งข้อกล่าวหาในเรื่องนี้ คือ ไปสมคบร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ระดับรองเลขาธิการ กกต.และผู้อำนวยการกอง กกต.โดยร่วมมือในการแจ้งความเท็จ ให้ข้อความอันเป็นเท็จ ปลอมแปลงแก้ไขเอกสารหลักฐานทางราชการโดยทุจริต และทำรายงานอันเป็นเท็จรายงานต่อประธาน กกต.ดังนั้น เพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวหาตนขออนุญาตยกกรณีนายนัฏฐ์ประชา เกื้อกสุล (จเร) ผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักไทย เขต 3 นครศรีธรรมราช ซึ่งคนนครศรีธรรมราชได้บอกกับตนว่านายนัฏฐ์ประชาเคยลงสมัครผู้แทนที่นครศรีธรรมราชในนามพรรคไทยรักไทยและสอบตกและได้ลาออกจากพรรคไทยรักไทยเพื่อเตรียมตัวสมัคร ส.ว.แต่เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีการยุบสภา และหาผู้สมัครไม่ทันจึงได้ติดต่อนายนัฏฐ์ประชามาลงสมัครอีกครั้ง ซึ่งประชาชนที่นั่นเห็นว่าไม่น่าจะถูกต้อง เพราะได้หมดสมาชิกภาพไปแล้ว และไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย ตนจึงได้ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของพรรค และได้ไปดูข้อมูลที่ กกต.และได้เอกสารหลักฐานมาระบุว่า นายนัฏฐ์ประชา ก็คือ นายจเร เกื้อสกุล ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยในวันที่ 5 ม.ค.2547 และพ้นจากสมาชิกในวันที่ 3 ส.ค.2547 และนายวีระศาสตร์ นริศบุญสนอง ผอ.ฝ่ายวิจัยและพัฒนา เป็นคนลงรายมื่อชื่อ ซึ่งทางพรรคได้ไปคัดค้าน ว่า นายนัฏฐ์ประชาไม่ได้เป็นสมาชิกภาพ

นายสุเทพ กล่าวว่า หากดูตามหลักฐานของ กกต.ได้มีการสมคบโดยเรียกนายนัฏฐ์ประชามาสอบสวน และบันทึกถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่ โดยให้การว่า นายนัฏฐ์ประชา เดิมชื่อ นายจเร และตอนที่ชื่อนายจเรได้เป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยตั้งแต่ปี 2543 ต่อมาไปบวชในปี 2546 ซึ่งเมื่อบวชแล้วทำให้พ้นสมาชิกภาพของพรรคไทยรักไทย เมื่อบวชเสร็จพ้นสภาพในปี 2547 แต่อ้างว่าฝ่ายทะเบียนของพรรคไทยรักไทยไม่ได้รายงานให้ กกต.ทราบในปี 2547 แต่มารายงานในปี 2548 และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อจากนายจเรเป็นนายนัฏฐ์ประชาในปลายปี 2547 ดังนั้น เมื่อเปลี่ยนชื่อแล้วจึงมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยใหม่อีกครั้งในวันที่ 5 ม.ค.2547 และยังเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยในชื่อของนายนัฏฐ์ประชามาจนถึงทุกวันนี้ ตรงนี้ชี้ให้เห็นว่าเป็นการสมคบ กกต.เก่ง ฟังคำให้การนายนัฏฐ์ประชาเสร็จก็เรียกเอาเอกสารหลักฐานมาแสดง ซึ่งมี 3 ชิ้น คือ 1.เอกสารแสดงทะเบียนสมาชิกพรรคไทยรักไทย เมื่อครั้งที่นายจเร เกื้อสกุล เป็นสมาชิกพรรค และได้ระบุว่า นายจเร ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคในเดือน มี.ค.2543 และข้อมูลสุดท้ายลาออกเมื่อเดือน ส.ค.2547 2.ใบสมัครการเป็นสมาชิกของนายนัฏฐ์ประชา ในวันที่ 5 ม.ค.2547 และ 3.เอกสารลงนามโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เพื่อนำมายืนยันว่า นายนัฏฐ์ประชา ยังเป็นสมาชิกพรรค โดยมีการอ้างเรื่องมีการเปลี่ยนแปลงการเพิ่มลดสมาชิก และนายนัฏฐ์ประชา อยู่ในกรณีนี้ด้วย จากนั้นก็นำข้อมูลมาอ้างกับ กกต.โดยนายไพบูลย์ ร่วมสุข ผอ.สำนักกิจการพรรคการเมือง ได้ทำหนังสือถึง กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง โดยบันทึกว่าได้ตรวจสอบทุกเรื่องอย่างละเอียดรอบคอบและยืนยันว่า นายนัฏฐ์ประชา ยังเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยอยู่ ไม่ได้ขาดคุณสมบัติ แต่ที่มีความคลาดเคลื่อนเนื่องมาจากคอมพิวเตอร์

นายสุเทพ กล่าวว่า แต่หนังสือดังกล่าวไปไม่ถึงประธาน กกต.เพราะนายปกครอง สุนทรสุทธิ์ รองเลขาธิการ กกต.เป็นคนรับหนังสือและลงนามในหนังสือถึง ผอ.กกต.ประจำเขตเลือกตั้งที่3 นครศรีธรรมราชในวันที่ 3 มี.ค.2549 โดยยืนยันว่า นายนัฏฐ์ประชา ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยเมื่อวันที่ 5 ม.ค.2547 แต่การบันทึกข้อมูลลงในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งออกแบบให้ใช้เลขบัตรประชาชนเป็นหลักทำให้ระบบชื่อสับสนโดยลงผิด

เรื่องที่ผมนำมาเสนอเป็นเรื่องที่น่าเชื่อถือ เพราะเป็นหนังสือที่มีลายลักษณ์อักษรของผู้สมัครที่ทำบันทึกถ้อยคำต่อ กกต.พรรคการเมืองที่ นายนัฏฐ์ประชา สมัคร คือ พรรคไทยรักไทยและมีลายเซ็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ และน่าเชื่อถือยิ่งกว่านั้น คือ กกต.ตรวจเช็กเอกสารทั้งหมดและทำหนังสือรับรอง หากจะดูตามใบสมัครจะมีระบุวันออกบัตรประชาชนให้กับนายนัฏฐ์ประชาวันที่ 2 ก.ค.2547 แต่วันที่สมัครสมาชิก คือ วันที่ 5 ม.ค.2547 นี่เป็นเรื่องจริงนายนัฏฐ์ประชา เก่งมากไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคโดยใช้บัตรประชาชนที่ออกให้ภายหลัง 6 เดือน ไม่ใช่ประเทศไทยทำไม่ได้เรื่องนี้ มีที่เดียวในโลก นอกจากนี้ ยังมีพิรุธคือวันที่สมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย เมื่อวันที่ 5 ม.ค.นายนัฏฐ์ประชายังชื่อนายจเรอยู่ และหลักฐานจากสำนักทะเบียนกลาง พบว่า นายนัฏฐ์ประชา มีการแปลงชื่อถึง 4 ครั้ง ซึ่งเอกสารทั้งหมดเป็นของพรรคไทยรักไทยสมคบกับ กกต.ทำปลอมขึ้นมา ซึ่ง กกต.ก็มีรอรับอยู่แล้วรับรองทันทีว่านี่คือความถูกต้อง

เลขาธิการพรรค กล่าวว่า ตนอยากเรียนว่านี่ไม่ใช่กรณีเดียวที่พรรคไทยรักไทยทำ ถ้าไม่ใช่ระบอบทักษิณสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นไม่ได้ เมื่อตนเอาข้อมูลมาเปิดเผยในวันนี้เชื่อว่าจะต้องมีการดิ้นรนกันสุดฤทธิ์ในการแก้ไขหลักฐานทั้งหมดให้ถูกต้อง เพราะระบอบทักษิณยังอยู่ นี่คือเหตุผลที่พวกตนเรียกร้องให้ล้มระบอบนี้ เพราะถ้ายังอยู่ความชั่วร้ายเลวทรามยังจะมีอีกมากและแก้ไขไม่ได้ ทำผิดแล้วจะมากลบเกลื่อน ซึ่งคนพวกนี้ระดับมืออาชีพในการทำผิดไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น ตนเชื่อว่า ประธาน กกต.เป็นลูกผู้ชายมีศักดิ์ศรีถึงเวลาที่จะต้องประกาศให้ประชาชนเห็นว่า กกต.เป็นองค์กรอิสระ วันนี้จึงตัดสินใจเอาเอกสารทั้งหมดไปมอบให้กับประธาน กกต.แม้ใจหนึ่งจะระแวงว่าเมื่อเอาไปมอบให้เท่ากับเป็นการชี้ช่องให้เขาไปแก้ไขหลักฐานข้อเท็จจริงและกลับมาเล่นงานตน แต่คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ประธาน กกต.ลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ถูกต้องไม่ใช่ไปร่วมมือกับคนพวกนั้น ตนไว้ใจ พล.อ.วาสนา และเราจะได้รู้ผลว่ามันเป็นอย่างไร

อย่างไรก็ตาม นายสุเทพ กล่าวว่า ตนจะไม่พูดเรื่องการทุจริตอีกต่อไป ทั้งที่มีข้อมูลทยอยเข้ามาอีกมาก การออกมาเปิดเผยเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่ทำให้ประชาชนได้เห็นชัดเจนถึงกระบวนการต่างๆ ฉะนั้น การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่า จะเดินหน้าปฏิรูปการเมือง แต่ระบอบทักษิณมีการโกงทุจริตปลอมแปลงเอกสารร่วมมือกันทำความผิดกฎหมาย เบี่ยงเบนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า คนจะสมัคร ส.ส.ได้ต้องเป็นสมาชิกพรรค 90 วัน เพื่อให้ศึกษาอุดมการณ์แนวความคิดให้ชัดเจนถึงจะไปลงเลือกตั้ง แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ และระบอบทักษิณบอกว่าวันเดียวก็ได้ ถ้าไม่ครบก็ทำปลอมได้ คนที่คิดทุจริตการเลือกตั้งจะปฏิรูปการเมืองไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า พอระบุได้หรือไม่ว่าพรรคไทยรักไทยส่งใครไปประสานกับ กกต. นายสุเทพปฏิเสธที่จะเปิดเผย โดยระบุว่าให้เป็นการบ้านของ พล.อ.วาสนา ไปตรวจสอบ ตนพูดขนาดนี้แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่สะดุ้งอีกก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรอีก เพราะหากเป็นตนและสมมติว่าเป็นผู้บริหารพรรคไทยรักไทย วันนี้ตนลาออกกลับบ้านไปแล้ว เพราะถูกเขาจับแก้ผ้าประจานให้คนทั้งประเทศเห็นแล้ว จะมีหน้ามาลงสมัครเลือกตั้งได้อย่างไร ทุจริต สมคบ โกง ทั้งหมดไม่ใช่เล็กๆ น้อยๆ เพราะเท่าที่ตนได้หารือกับฝ่ายกฎหมายก็บอกว่าข้อมูลที่ตนมีฟังขึ้นถ้าคดีไปถึงศาลน่าจะรับฟังได้ถ้าเป็นประชาชนธรรมดา หรือเป็นตนก็คงจะติดคุก แต่ระบอบทักษิณอาจจะคุ้มครองเขาได้ก็แล้วไป ทั้งหมดนี้ตนไม่ได้พูดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ สมคบกระทำความผิดแต่หลักฐานเอกสารที่นำมาอ้างมีลายเซ็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ด้วย ซึ่งมองในแง่ดีได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะไม่รู้เรื่อง

เมื่อถามว่า พรรคมีข้อเสนอต่อ กกต.ให้ถึงขั้นยุบพรรคไทยรักไทยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่าตนคงไม่ไปบอกหรือแนะนำว่าต้องทำอะไร ให้เป็นหน้าที่ของ กกต.ในการพิจารณา เพราะคงรู้ว่ามีหน้าที่อะไร หาก กกต.ไม่ทำตนจะเล่นงานฐานละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์