สุนัย ลั่นก่อการร้ายในไทยเป็นเรื่องปกติ

นายสุนัย จุลพงศธ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ กล่าวว่า

 การที่หลายฝ่ายต้องการให้สถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ยกเลิกการออกประกาศเตือนพลเมืองของตัวเองให้ระวังการก่อการร้ายที่อาจเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะพื้นที่ถ.ตรอกข้าวสาร และถ.สุขุมวิท 22 นั้นมองว่าเป็นการวิตกกันเกินเหตุ เพราะเรื่องการก่อร้ายเป็นเรื่องปกติของโลกไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทยเพียงประเทศเดียว แต่ยังมีอีกหลายประเทศ อาทิ อังกฤษ ฝรั่งเศส ก็เจอเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเหตุการณ์ที่ควรจะวิตกมากกว่า คือ การบุกยึดสนามบิน ยึดทำเนียบรัฐบาล ที่ส่งผลกระทบต่อประเทศมากกว่า

ทั้งนี้ตนขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่ทำได้ฉับไวต่อการแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ทันที รวมทั้งการสืบสวนและขยายผลได้ทันควัน และที่สำคัญออกมาประกาศชัดว่าไทยไม่ใช่เป้าหมายในการก่อการร้าย แต่ใช้เป็นเพียงฐานสะสมสารตั้งต้นเพื่อส่งผ่านไปยังประเทศที่สามเท่านั้น

" ขณะนี้ต้องเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้นานาประเทศเข้าใจว่า ประเทศไทยไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด และวันที่ 19 ม.ค. กมธ.ต่างประเทศ จะหารือเรื่องดังกล่าว เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขวิกฤติที่เกิดขึ้น ส่วนจะบอกให้สหรัฐฯ ถอนประกาศคำเตือนคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นหลักสากลของสหรัฐที่จะต้องเตือนพลเมืองของตัวเอง" นายสุนัย กล่าว 

ส่วนกรณีที่ นายอันเดอร์ จอร์เล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ระบุว่าไม่สามารถยืนยันได้ว่านายอาทริส ฮุสเซน ผู้ต้องหาพัวพันกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ที่ถูกจับกุมตัวมีสัญชาติสวีเดน เพราะจากการตรวจสอบหนังสือเดินทางได้หมดอายุแล้ว แม้ว่าหนังสือเดินทางที่ปรากฏในสื่อไทยจะระบุว่าหมดอายุในปี 2558 ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้น ต้องถามไปยังกระทรวงต่างประเทศของไทย เพื่อสอบถามสถานะที่แท้จริง ก่อนที่จะดำเนินการอะไรต่อไป

นอกจากนี้ นายสุนัย กล่าวถึงการที่ประเทศกัมพูชา เดินหน้าปรับกำลังทหารในพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร เป็นเขตปลอดทหารตามคำสั่งศาลโลกนั้น ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ดังนั้น ประชาชนต้องอดทนต่อกระบวนการที่จะดำเนินการต่อไป

ซึ่งกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าไทยไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าไปสังเกตการณ์ในพื้นที่ปราสาทพระวิหารหลังสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้ามาในพื้นที่นั้นได้สอบถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และได้รับคำชี้แจงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การที่ไทยไม่ได้ส่งตัวแทนไปร่วมนั้น คือ 1.ผู้ที่เข้ามานั้นเป็นเพียงประเทศสมาชิกยูเอ็น 2.เราพยายามดำเนินการอะไรที่ไม่กระทบต่อคำสั่งของศาลโลก ทั้งนี้ ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย เพราะได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลกทุกประการ