สุทัศน์มั่นใจตกไม่เป็นเครื่องมือ พท. หลังกมธ.ยต.เรียกแจงถอดยศแม้ว ชทพ.ชี้ รบ.เสี่ยงสร้างรุนแรง


"มาร์ค"ปัดการเมืองบีบ"กฤษฎีกา"ถอดยศ"แม้ว" ไม่ใช่นโยบายรัฐบาล "สุเทพ"เมินพท.ขู่แผ่นดินลุกเป็นไฟ สั่งจับตาดำเนินคดี บอกเสื้อแดงตั้งใจล้มรัฐบาลอยู่แล้ว เสื้อแดงซัดสมัย"ชวน"คืนยศ"ถนอม"ทั้งที่เป็นอดีตผู้นำทรราช

"สุทัศน์"มั่นใจไม่เป็นเครื่องมือพท. 

นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตยื ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการ (กมธ.) ยุติธรรม กฎหมายและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ถึงกรณีที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การยุติธรรมฯ ระบุว่า ตนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการที่รัฐบาลถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า ในที่ประชุมกมธ.พูดถึงหลักเกณฑ์และจำนวนผู้ที่เคยถูกถอดยศ ว่า เคยมีมาก่อนหรือไม่ ซึ่งกมธ.ไม่มีข้อมูลในจุดนี้ จึงจำเป็นต้องเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสอบถาม นอกจากนี้ ยังต้องสอบถามถึงข้อกฎหกมายเป็นอย่างไร เพื่อที่การดำเนินการทุกอย่างจะไม่ถูกดึงมาเป็นประเด็นการเมือง ซึ่งการถอดยศต้องทำให้เห็นชัดเจนว่า ไม่มีการเลือกปฏิบัติ  กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณควรจะถูกถอดยศ หากเข้าหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย


"ผมเป็นกมธ.มานาน มั่นใจว่าจะไม่อยู่ในเกมการเมืองของพรรคเพื่อไทยและไม่อยากให้กมธ.เป็นเครื่องมือทางการเมือง ผมจะคอยดูแลไม่ให้มีการข่มขู่หน่วยงานที่เกี่ยวงข้อง ที่เข้ามาชี้แจงจนทำให้ไม่กล้าปฏิบัติหน้าที่  รับรองได้ว่า นายประชาจะไม่สามารถใช้เวทีของกมธ.เพื่อช่วยพ.ต.ท.ทักษิณได้อย่างแน่นอน หากจะมีการดำเนินการอะไร ทุกอย่างจะต้องอยู่ในข้อบังคับของกมธ." นายสุทัศน์ กล่าว


ชทพ.ชี้ถ้ารบ.ตั้งใจทำ ถือว่าแรง-เสี่ยงมาก 

ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกชทพ. แถลงเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ถึงกรณีจะมีการถอดยศและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า หากเป็นการถอดยศตามขั้นตอนปกติ ถือว่ารัฐบาลโชคไม่ดี ซวยหรือเคราะห์ร้าย เพราะเรื่องดังกล่าว เป็นประเด็นร้อนและแรง แต่หากเข้าข่ายกรณีที่มีการชงขึ้นมาจากฝ่ายใดก็แล้วแต่ โดยเป็นเรื่องตั้งใจ ซึ่งไม่ใช่การเสนอขึ้นมาเองโดยธรรมชาติ จะถือเป็นเรื่องที่แรงและเสี่ยงมาก อาจเป็นเงื่อนไขที่สามารถนำไปสู่ความรุนแรงและปลุกให้ประชาชนอีกส่วนที่นิยม พ.ต.ท.ทักษิณ เกิดรู้สึกด้านลบต่อความไม่ยุติธรรมได้


"ไม่ว่าจะถอดยศหรือเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ หากให้เดาวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้รู้สึกอะไรกับการถอดยศ แต่จะกลับกลายเป็นเงื่อนไขที่ทำให้สถานการณ์ร้อนและเสี่ยงต่อรัฐบาลและประเทศไทย ดังนั้น ขอเรียกร้องให้ฝ่ายการเมือง ไปถึงทีมทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณ กรุณาต่อสู้ในเชิงกฎหมาย อย่านำเอามาเป็นการเมืองเพื่อกดดัน เพราะเรื่องนี้อาจสุ่มเสี่ยงที่จะนำประเทศไปสู่ความรุนแรงมากขึ้นอีกครั้ง และขอให้รัฐบาลใช้กระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งอย่าพยายามใช้คำพูดยั่วยุให้เกิดความขัดแย้ง โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องขอกันตรงๆ ด้วย ซึ่ง ชทพ.กำลังดูด้วยความเป็นห่วงและกังวลใจ" นายวัชระ กล่าว

"มาร์ค"ยันถอดยศไม่ใช่นโยบาย รบ.


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันการดำเนินการถอดยศและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบ ไม่ใช่เรื่องนโยบายของรัฐบาล โดยให้สัมภาษณ์ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 ตุลาคม ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ถนนวิทยุ ว่า การดำเนินการถอดยศกับพ.ต.ท.ทักษิณเป็นขั้นตอนตามปกติเวลาคนที่รับราชการมียศได้รับเครื่องราชฯ เวลาถูกศาลลงโทษตัดสินทุกคนจะมีกระบวนการนี้เกิดขึ้น บังเอิญว่าก่อนหน้านี้มีข้อสงสัย เพราะว่ามีเรื่องของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ถามไปทางคณะกรรมการกฤษฎีกา ดังนั้น เมื่อทางกฤษฎีกาตอบมาก็จะดำเนินการตามปกติ


ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ฝ่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณแย้งว่า เป็นพระราชอำนาจ รัฐบาลไม่มีสิทธิก้าวก่าย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ปฏิบัติกับคนทั่วไปอย่างไรก็ปฏิบัติอย่างนั้น ไม่มีการทำอะไรเป็นกรณีพิเศษ เมื่อถามว่ากรณีของนายรักเกียรติ สุขธนะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถูกเรียกคืนเครื่องราชฯด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เข้าใจว่าทุกคนที่เข้าข่ายเหมือนกันหมด เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีนักการเมืองเข้าข่ายในลักษณะนี้บ้างหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะไปตรวจสอบยังไม่ได้มีข้อยุติ


ปัดการเมืองบีบ "กก.กฤษฎีกา"


ส่วนเกรงหรือไม่ว่าจะกลายเป็นประเด็นการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงมีน้ำหนักมากขึ้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้ามีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนต้องทำ แต่ถ้าไม่ถูกต้องก็ไม่ทำ เมื่อถามว่าจะกลายเป็นว่าขณะนี้มีแรงกดดัน เพื่อไม่ให้มีการทำตามกฎหมายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ก็จะมีแรงกดดันจากทุกฝ่าย คือถ้าเอาเรื่องความชอบไม่ชอบเป็นตัวตั้งก็ไม่จบ ถ้าเอาเรื่องกฎระเบียบเป็นตัวตั้งสังคมก็จะหาคำตอบได้ หลักของเรื่องดังกล่าวมีเพียงว่าปฏิบัติกับทุกคนอย่างไร ก็ปฏิบัติกับรายนี้เช่นนั้นเท่านั้นเอง"


เมื่อถามว่า นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่าการเมืองบีบคณะกรรมการกฤษฎีกา นายอภิสิทธิ์ย้อนถามว่า "ใครครับ"


ผู้สื่อข่าวตอบว่า เป็นคำพูดของนายนพดล นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ไม่มี การเมืองที่ไหนครับ ผมยังไม่ทราบเลยด้วยซ้ำว่าเรื่องอยู่ที่กฤษฎีกา จนกระทั่งเรื่องกลับเข้ามานี่แหละครับ"


เมื่อถามว่า นายกฯชี้แจงได้หรือไม่ว่าเหตุใดกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณจึงเป็นกรณีแรก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ทางเจ้าหน้าที่ต้องทำเรื่องขึ้นมาและจะตรวจสอบไป ขณะนี้เรื่องอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 


ยันทำกฎ ไม่มีเลือกปฏิบัติ


เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า กลั่นแกล้ง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "คุณทักษิณก็บอกทุกเรื่องเป็นการกลั่นแกล้งหมดนั่นแหละ เวลาถูกศาลตัดสินก็บอกว่ากลั่นแกล้ง แต่เวลาที่ตัวเองชนะคดีก็ไม่บอกว่ากระบวนการยุติธรรมมีปัญหา"


"ผมยืนอยู่อย่างเดียวคือ ผมทำตามกติกา ตามกฎ ไม่มีการเลือกปฏิบัติเท่านั้นเอง รัฐบาลขอยืนยันว่าบ้านเมืองจะอยู่ได้ สังคมจะมีความแตกต่าง ขัดแย้งกันปกติธรรมดาเหมือนกับทุกสังคม แต่ทุกคนก็ต้องเคารพกฎกติกา" นายอภิสิทธิ์กล่าว


"สุเทพ"เมินขู่แผ่นดินลุกเป็นไฟ 

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่า แผ่นดินจะลุกเป็นไฟหากถอดยศและเรียกคืนเครื่องราชฯ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ขอให้เลิกขู่กันเสียที เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน อีกทั้งทุกอย่างต้องว่ากันไปตามกฎเกณฑ์กติกา ไม่ได้เลือกปฏิบัติแน่นอน การจะถอดยศใครได้นั้นมีกฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจน ถ้าใครไปสั่งให้ดำเนินการโดยผิดกฎหมายก็จะถูกดำเนินคดีและติดคุกเสียเอง ไม่มีจะไปกลั่นแกล้ง เพราะความจริงไม่ได้ให้ความสำคัญด้วยซ้ำไป แต่เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติ ถ้าไม่ปฏิบัติก็จะถูกข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และเสียหายอีก


"ส่วนเสื้อแดงไม่ว่าจะมีกรณีถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ก็ต้องชุมชน และก็ประกาศมาตั้งแต่ต้นว่ามีเป้าหมายเพื่อล้มล้างรัฐบาล ชัดเจนอยู่แล้ว การที่รัฐบาลจะอยู่หรือไปนั้นก็ต้องเป็นไปตามแนวทางประชาธิปไตย และพี่น้องประชาชนคนไทยไม่สบายใจหากมีกลุ่มคนพยายามจะเป็นอันธพาลทางการเมือง ก่อกวนสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายไม่รู้จักจบจักสิ้น นี่พี่น้องประชาชนเพิ่งถอนหายใจที่จัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเรียบร้อย นึกว่าจะมีเวลาแก้ปัญหาบ้านเมืองต่อไป  ต้องมารับมือกับคนไทยที่สร้างความปั่นป่วนอีก ก็หนักใจเป็นธรรมดา แต่เรื่องนี้ถ้าคนส่วนใหญ่ไม่เอาด้วยก็คงไม่รอด" นายสุเทพกล่าว


ยันแม้วเข้ากัมพูขาทำเรื่องขอตัว


เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่า จะถอดยศนั้นจะต้องเป็นตำรวจที่อยู่ในราชการที่ทำความผิดจนถึงขั้นถูกไล่ออก นายสุเทพกล่าวว่า  ร.ต.อ.เฉลิมพูดจาผิดบ่อย แต่จะไม่ตอบโต้อะไร เมื่อถามว่า ทีมทนาย พ.ต.ท.ทักษิณออกแถลงการณ์ระบุว่า การถอดยศเป็นเรื่องพระราชอำนาจ นายสุเทพกล่าวว่า "ทนายความคนไหน ทนายคนที่ถูกศาลตัดสินว่าทำเงินหล่นบนศาลหรือ เชื่อไม่ได้หรอกแบบนั้น เพราะต้องรู้ว่าคนพูดเป็นใคร ประวัติมาอย่างไร"


"แดง"ซัดสมัย"ชวน"คืนยศทรราช


ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)-แดงทั้งแผ่นดิน เวลา 13.00 น. ที่ชั้น 6 ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษก นปช.แถลงว่า กรณีที่รัฐบาลจะถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ขอตั้งข้อสังเกตถึงการดำเนินการเรื่องนี้ว่ารัฐบาลทำโดยถูกต้องและยุติธรรม หรือบริสุทธิ์ใจมากน้อยแค่ไหน เพราะรัฐบาลกำลังเปิดเกมรุกหนักหลังจากตกเป็นฝ่ายรับมาตลอดในช่วงการจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ผ่านมาใช่หรือไม่


"การถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ขอตั้งสังเกตว่าพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนต่อประชาธิปไตยอย่างไร เพราะสมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯได้จัดคืนยศให้แก่จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกฯ พร้อมคืนสิทธิราชการให้จอมพลถนอมด้วย ทั้งที่จอมพลถนอมเป็นอดีตผู้นำทรราช เป็นเผด็จการมือเปื้อนเลือด แต่รัฐบาลชวนจะพยายามคืนสิทธิให้แก่จอมพลถนอม ซึ่งรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์กลับทำสิ่งที่เราเรียกว่ากับทักษิณสั่งปลดแต่คืนยศทรราช ถือเป็นการแสดงของพรรคประชาธิปัตย์ที่ฝักใฝ่เผด็จการต่อต้านประชาธิปไตยใช่หรือไม่" นายณัฐวุฒิกล่าว


เตือน"เพื่อไทย"ระวังดาบสองคม


ทางด้านนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า กรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีมติเห็นควรให้ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากต้องคำพิพากษาจำคุกถึงที่สุด ว่า หากกลุ่มคนเสื้อแดงจะเอาเรื่องนี้เป็นประเด็นเคลื่อนไหวใหญ่กดดันรัฐบาลนั้น ต้องมีคำอธิบายต่อสังคมว่าเป็นเหตุเป็นผลหรือมีน้ำหนักเพียงพอหรือไม่ เพราะเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย หากกลุ่ม นปช.และเครือข่ายพรรคเพื่อไทยจะใช้เรื่องนี้ไปเคลื่อนไหว อาจจะกลายเป็นดาบสองคมทำลายความชอบธรรม และคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยได้เช่นกัน คล้ายๆ กับกรณีที่ พล.อ.ชวลิตไปพบสมเด็จฯฮุน เซน ทำให้คนรู้สึกว่าพรรคเพื่อไทยกำลังชักศึกเข้าบ้าน ถ้าเป็นแบบนี้หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งกลับมาเป็นรัฐบาลยิ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัวขนาดเป็นเพียงฝ่ายค้าน อยากจะให้พรรคเพื่อไทยคิดดูให้ดีหากจะเอาเรื่องนี้เป็นเกมการเมือง


นายสุริยะใสกล่าวว่า ส่วนที่คาดจะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้รับคะแนนสงสารจากประชาชนนั้น คิดว่าคาดการณ์ผิด เพราะถ้า พ.ต.ท.ทักษิณอยากให้คนไทยสงสารและเห็นใจ ควรเห็นใจสงสารคนไทยและประเทศไทยในขณะนี้ด้วย


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์