สื่อนอกวิจารณ์1ปีรัฐประหาร - มัวมุ่งแก้ภัยทักษิณ

รัฐบาลมองข้ามการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ มั่วแต่วุ่นแก้ไขภัยคุกคามจาก'ทักษิณ' ทำให้ถดถอยมากที่สุดในเอเชียอาคเนย์  'สมัคร'คมช.ความอิจฉาจนก่อปฏิวัติทำให้บ้านเมืองบรรลัย ไม่บรรลุผลเป้าหมาย 4 ข้อ ทำอะไร'แม้ว'ไม่ได้

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานข่าวเชิงวิเคราะห์กรณีการัฐประหารในไทยที่กำลังจะครบรอบ 1 ปี

การรัฐประหารรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ในวันที่ 19 กันยายน 2550เโดยระบุว่า 1 ปีหลังการปฏิวัติรัฐประหารเศรษฐกิจไทยถดถอยมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองทำให้ความต้องการภายในประเทศและการลงทุนในไทยตกต่ำลง โดยทางธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียหรือเอดีบีคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตเพียง 4 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าในสิงคโปร์และอินโดนีเซียที่คาดว่าจะเติบโต 5.6 เปอร์เซ็นต์ และต่ำกว่าตัวเลขของเวียดนามที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างมาก

จากการที่ผู้คนออกมาประท้วงเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่ต้นปี 2549 ด้วยข้อกล่าวหาว่า ทุจริตคอร์รัปชั่นและใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ แต่การปฏิวัติรัฐประหารโค่นล้มอำนาจ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ช่วยให้ปัญหาทางการเมืองยุติลง แต่ยิ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนในชาติและส่งผลกระทบโดยตรงให้การเติบโตเศรษฐกิจยิ่งถดถอยลง

นักวิเคราะห์ยังมองว่า รัฐบาลที่แต่งตั้งโดยทหารไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น

โดยนายบ๊อบ บรอดฟูต กรรมการผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเมืองในฮ่องกงกล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้เน้นแต่เข้าไปแก้ไขในเรื่องที่เข้าใจว่า เป็นการคุกคามของ พ.ต.ท.ทักษิณและผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ แต่กลับมองข้ามปัญหาเศรษฐกิจที่แท้จริงไป